Teoxane ฟิลเลอร์น้องใหม่มาแรง! ส่งตรงจากสวิตเซอร์แลนด์

Teoxane Filler

Teoxane เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มผิวหนัง (Dermal Filler) ระดับพรีเมียม ที่ส่งตรงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฝั่งของยุโรป และกำลังจะมาเป็นน้องใหม่ขวัญใจคนไทยอีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่โดดเด่น ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่นได้ดี แม้ในจุดที่ต้องขยับบ่อย ๆ หากมีการแสดงสีหน้า และมีความปลอดภัยกับร่างกาย ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจาก US FDA และ อย.ไทยเป็นที่เรียบร้อย เหมาะกับการนำมาเพิ่มวอลลุ่ม ลดเลือนริ้วรอย เติมร่องลึก ปรับรูปหน้า สำหรับใครที่กำลังมองหาฟิลเลอร์คุณภาพระดับพรีเมียมอยู่ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยค่ะ! เพราะวันนี้ Doctor Mek Clinic – Home of Filler จะมาแนะนำฟิลเลอร์แบรนด์น้องใหม่ ผลิตภัณฑ์ตัวดังที่หลายคนกำลังรอคอยอยู่ว่าคืออะไร เหมาะกับใคร มีกี่รุ่น และมีจุดเด่นอะไรบ้าง เดี๋ยวเราไปเริ่มติดตามกันในบทความนี้ได้เลยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

Teoxane คืออะไร

Teoxane (เทออกเซน) คือ ฟิลเลอร์แบรนด์ใหม่จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตโดยบริษัท Teoxane Laboratories และมีบริษัท BJC เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มผิวหนังประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA ที่ผลิตจากธรรมชาติ ไม่ได้มาจากสัตว์ และมีความเข้ากันได้สูงในทางชีวภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ (Unique Preserved Network Technology) ทำให้ได้สารเติมเต็มที่บริสุทธิ์ มีคุณภาพสูง และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานสูงสุดถึง 18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของคนไข้แต่ละราย) ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป สารเติมเต็มจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้างในร่างกาย

เทคโนโลยีการผลิตพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Teoxane Filler เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ที่เรียกว่า Unique Preserved Network Technology ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้ได้กรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ที่มีโครงข่ายแบบโซ่ที่เชื่อมต่อกันยาว ซึ่งมีความคล้ายกับโครงข่ายกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของคนเรามากที่สุดค่ะ

เทคโนโลยีการผลิตพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

2 กลุ่มผลิตภัณฑ์จาก Teoxane

สำหรับผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของ Teoxane นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม RHA และกลุ่ม PureSense ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็แบ่งได้อีกหลากหลายรุ่น โดยในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเทออกเซนจะออกแบบมาเพื่อเน้นการแก้ไขปัญหาที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

กลุ่ม RHA 

เป็นผลิตภัณฑ์รายแรกที่มีฟิลเลอร์กลุ่ม RHA (Resilient Hyaluronic Acid) โดยมีคุณสมบัติจัดการกับริ้วรอยแบบ Dynamic ซึ่งเกิดจากการแสดงออกทางสีหน้าได้ โดยใน RHA จะประกอบไปด้วยกรด Hyaluronic Acid แต่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นกว่า HA ทั่วไปตรงที่ มีความยืดหยุ่นสูงมาก โดยสามารถขึ้นรูป ยืดตัว และฟิลเลอร์ที่ปรับตัวและยืดหยุ่นต่อเนื่องไปตามการขยับเคลื่อนไหวบนใบหน้า เมื่อมีการแสดงออกทางสีหน้า จากนั้นสามารถหดตัวกลับคืนสู่รูปร่างเดิมได้ ทำให้ผิวยังคงเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ไม่แยกตัว จึงเหมาะสำหรับนำมารักษาร่องริ้วรอยแบบ Dynamic ซึ่งเกิดขึ้นจากการแสดงออกทางสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การหัวเราะ, ยิ้ม, ขมวดคิ้ว และการหรี่ตา เพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่ใบหน้าและลำคอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เต่งตึง คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้า เติมวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟู และยังนำมาเติมเต็มริมฝีปากให้อิ่มเอิบขึ้น รวมถึงใช้ในการปรับรูปหน้า โดยฟิลเลอร์ในกลุ่ม RHA นี้ จะแบ่งเป็นรุ่นย่อย ๆ อีก ได้แก่ RHA 1, RHA 2, RHA 3 และ RHA 4 

Teosyal RHA

กลุ่ม PureSense 

ฟิลเลอร์กลุ่ม PureSense จะมีความโดดเด่นและมีคุณสมบัติในการเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการ (Volumizers) โดยแบ่งเป็นรุ่น ULTRA DEEP จึงเหมาะกับการนำมาเติมยังบริเวณขมับ แก้ม และยังช่วยปรับรูปหน้าบริเวณแนวกราม บริเวณคาง สามารถเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรุ่น REDENSITY 1 ด้วยส่วนผสมโมเลกุล HA ที่มีความเข้มข้นสูงที่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว มอบความชุ่มชื่น ผิวแน่น มีความยืดหยุ่น โดยช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าที่สูญเสียคอลลาเจน ความชุ่มชื่น และชั้นไขมันที่เคลื่อนตัวลง ซึ่งเกิดจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงรุ่น REDENSITY 2 ที่เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาใต้ตาลึกได้ดี

4 รุ่นฟิลเลอร์จาก Teoxane ที่ได้รับความนิยม

อย่างที่อธิบายไว้ในข้างต้นนะคะว่า เทออกเซนจะแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ซึ่งในแต่ะกลุ่มก็มีแบ่งออกได้อีกหลากหลายรุ่น โดยมีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่น ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องจาก อย.ไทย (Thai FDA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในกลุ่ม RHA จะมีด้วยกัน 3 รุ่น และในกลุ่ม PureSense อีก 1 รุ่น เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะว่า TEOXANE ในแต่ละรุ่นนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาใดบ้างค่ะ

รุ่น RHA 1

 RHA 1 เป็นรุ่นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลยืดหยุ่นสูง พร้อมคุณสมบัติที่ยืดตัวได้สูง ซึ่งเป็นการผสานกันระหว่างสารเติมเต็มแบบ Cross-Linked HA (ไฮยาลูรอนที่ผ่านกระบวนการทำให้คงตัว มีสายพันธะเกาะเกี่ยวหนาแน่น) และสารเติมเต็มแบบ Non-Cross-Linked HA (ไฮยาลูรอนที่ไม่ผ่านการทำให้คงตัว มีคุณสมบัติในการเติมน้ำให้ผิว) เหมาะกับการนำมาเติมเต็มเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เพิ่มความอิ่มฟูให้ผิว เช่น ริ้วรอยที่อยู่เหนือริมฝีปาก, เส้นริ้วรอยที่ลำคอและบริเวณหน้าอก นอกจากนี้ ในรุ่นนี้ยังมี Lidocaine หรือยาชาผสมอยู่ด้วย 0.3%

TEOSYAL RHA 1

รุ่น RHA 2

RHA 2 รุ่นนี้จะออกแบบมาเพื่อการเติมเต็มร่องริ้วรอยในระดับปานกลาง เช่น หน้าผาก, รอยย่นระหว่างคิ้ว, ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก, รอยตีนกา และสามารถนำมาเติมริมฝีปากให้อวบอิ่มได้อีกด้วยค่ะ ด้วยคุณสมบัติเนื้อเจลที่เนียนนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี รวมถึงยังมี Lidocaine หรือยาชาผสมอยู่ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ

TEOSYAL RHA 2

รุ่น RHA 3

สำหรับ RHA 3 จะเป็นรุ่นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลแบบแน่น ยืดหยุ่น และยืดตัวดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีส่วนผสมของยาชาปริมาณ 0.3% อยู่เช่นกัน เหมาะสำหรับนำมาฉีดบริเวณผิวหนังแท้ชั้นลึก ช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้มและร่องมุมปาก (ร่องน้ำหมาก) และยังนำมาฉีดเพิ่มความอวบอิ่ม เติมความชุ่มชื่น ที่บริเวณริมฝีปากได้อีกด้วยค่ะ

TEOSYAL RHA 3

รุ่น RHA 4

ในรุ่น RHA 4 จะถูกออกแบบมาให้มีเนื้อเจลที่ค่อนข้างแน่นกว่าในรุ่น RHA ทั้งหมด ซึ่งให้ความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ไหล จึงเหมาะกับการนำมาปั้นทรงได้ง่ายและสวย รวมถึงยังถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ช่วยปรับรูปหน้าให้มีมิติยิ่งขึ้น เช่น เติมที่ขมับ, แก้ม, แนวกราม และบริเวณคาง หลังฉีดแล้วให้ความเป็นธรรมชาติกลืนไปกับผิว

TEOSYAL RHA 4

รุ่น PureSense ULTRA DEEP

ULTRA DEEP เป็นฟิลเลอร์ในรุ่นที่อยู่ในกลุ่ม Volumizers เน้นการเติมเต็มวอลลุ่ม ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการเติมเต็มผิว และปรับโครงสร้างในระดับที่ลึก ช่วยเติมผิวในบริเวณที่ซูบตอบให้อิ่มฟู เช่น แก้มและขมับ รวมถึงยังช่วยเติมเต็มผิวบริเวณที่มีร่องริ้วรอยลึก และช่วยในการปรับยกรูปหน้า แนวกรอบหน้า

TEOSYAL PureSense ULTRA DEEP

รุ่น REDENSITY 1

เป็นรุ่นที่เหมาะกับงานผิว ช่วยเติมความชุ่มชื่น เพิ่มความฉ่ำวาว ปรับผิวหน้าให้กลับมาดูอ่อนวัยและสดใส รวมถึงเติมเต็มเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ ด้วยความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid 15 mg/ml สำหรับใครที่อยากฟื้นฟูผิว อยากได้ตัวช่วยเรื่องการบำรุง แนะนำเป็นรุ่นนี้เลยค่ะ

รุ่น REDENSITY 2

มาพร้อมความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid 15 mg/ml เน้นสำหรับใช้ในการแก้ไขปัญหาผิวใต้ตาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องน้ำตา ปรับใต้ตาที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส พร้อมกับเติมเต็มริ้วรอย และยังปรับผิวใต้ตาให้ชุ่มชื่นยาวนาน ช่วยให้ใต้ตาดูสดใส

TEOSYAL REDENSITY 2

Teoxane ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย.

ในปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2566) Teoxane เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องจาก อย. หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Thai FDA) เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ โดยในขณะนี้มีรุ่นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่

  • TEOSYAL® RHA 1 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0011702
  • TEOSYAL® RHA 2 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0006622
  • TEOSYAL® RHA 3 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0006624
  • TEOSYAL® RHA 4 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0016785 
  • TEOSYAL® PureSense ULTRA DEEP เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 65-2-1-2-0013763
  • TEOSYAL® PureSense REDENSITY 1 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013417
  • TEOSYAL® PureSense REDENSITY 2 เลขใบสำคัญ / ใบอนุญาต 66-2-1-2-0016786

ดังนั้น คนไข้จึงมั่นใจได้เลยว่า ฟิลเลอร์ที่ทางคลินิกของเราได้นำเข้ามาใช้นั้น เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และเป็นฟิลเลอร์แท้ที่มาจากบริษัทนำเข้าอย่างถูกต้อง โดยคนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ทุกชิ้นค่ะ

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Teoxane Filler

  • เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักกายวิภาคศาสตร์และหลักการเคลื่อนไหว Dynamic บนใบหน้า
  • เป็นฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยกับร่างกาย
  • เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานสูงสุด 18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของคนไข้แต่ละราย)
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความสามารถในการยืดหยุ่นไปตามการขยับเคลื่อนไหว รวมถึงแรงกดบนใบหน้า ซึ่งยังคงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน ไม่แยกส่วน ไม่เป็นก้อน
  • เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้มาอย่างยาวนานและแพร่หลายในต่างประเทศ

Teoxane Filler เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยย่น ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่อ่อนวัย
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ ขมับตอบ ทำให้ดูโทรม หน้าแก่ ใบหน้าขาดมิติ
  • ผู้ที่มีปัญหามีเส้นริ้วรอยบริเวณลำคอและบริเวณเนินหน้าอก
  • ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง มุมปากตก ต้องการเติมเต็มให้ปากอิ่มฟูขึ้น และยกมุมปากให้ดูน่ารักขึ้น

Teoxane ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

  • เติมเต็มและลดเลือนริ้วรอยที่บริเวณหน้าผาก
  • แก้ไขริ้วรอย รอยย่นที่บริเวณระหว่างคิ้ว รวมถึงบริเวณหางตา รอยตีนกา
  • เติมเต็มใต้ตาชั้นตื้น ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา แก้ไขใต้ตาคล้ำ
  • ฉีดเพิ่มวอลลุ่มที่ขมับและแก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ ขมับยุบ
  • เติมเต็มร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมากให้ตื้นขึ้น
  • แก้ไขรอยย่นบริเวณเหนือริมฝีปาก
  • เติมเต็มริมฝีปาก ขอบปาก ตกแต่งรูปทรงปาก ยกมุมปาก
  • ฉีดบริเวณกรอบหน้า แนว Jaw Line ปรับและยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
  • ฉีดบริเวณคาง เสริมคางให้ยาวขึ้น ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยและสมส่วน
  • ลดเลือนเส้นริ้วบริเวณลำคอ รวมไปถึงที่บริเวณเนินอก
Teoxane ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

ผลลัพธ์หลังฉีด Teoxane Filler

Teoxane Filler เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกในด้านผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยได้มีการทำการศึกษาเปรียบเทียบผลลัพธ์ในระยะเวลา 18 เดือน ในคนไข้ 90 คน ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกในระดับปานกลางถึงรุนแรง พบว่า

  • ในคนไข้ 100% พึงพอใจในผลลัพธ์ตลอดระยะเวลา 18 เดือน
  • คนไข้พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทันที และผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้อย่างยาวนาน
  • ร่องแก้มลึกตื้นขึ้นและยังให้ผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนาน

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane กี่วันเห็นผล กี่วันเข้าที่

หลังฉีดฟิลเลอร์ TEOXANE จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีค่ะ คนไข้จะสังเกตเห็นว่าผิวเติมเต็มและอิ่มฟู โดยในช่วงวันแรก ๆ อาจพบอาการบวมแดงได้บ้าง ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 3 วันหลังฉีด โดยเมื่อเวลาผ่านไป เนื้อเจลฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่และจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ

Teoxane Teosyal vs Juvederm ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน

เป็น 2 ยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่นับว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ทำให้หลายคนยังลังเลใจว่าจะเลือกยี่ห้อไหนดี ต้องบอกแบบนี้ค่ะว่า ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ ต่างก็มีประสิทธิภาพในการจัดการร่องริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่ม และปรับรูปหน้าได้ดีเยี่ยม แต่ทั้งนี้ เป็นที่น่าจับตามองค่ะว่า ในฝั่งของ Teoxane Teosyal Filler นั้น จะมีรุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่ม RHA ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์และมีคุณสมบัติพิเศษของฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อเจลมีความสามารถในการปรับตัวในขณะเกิดการขยับเคลื่อนไหวบนใบหน้า ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ถูกขยับอยู่บ่อย ๆ จากการแสดงออกทางสีหน้า เช่น ระหว่างคิ้ว, หางตา, ร่องแก้ม, ริมฝีปาก และมุมปาก สามารถหดตัวกลับคืนสู่รูปร่างเดิมได้หลังจากถูกบีบ กด หรืองอ จึงให้ผลลัพธ์ที่ละมุนเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้เป็นก้อนหรือแยกชั้น นอกจากนี้ ยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานสูงสุดถึง 18 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) แต่ทั้งนี้ หากคนไข้ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แนะนำให้พูดคุยปรึกษากับคุณหมอได้ก่อนตัดสินใจค่ะ

ข้อควรปฏิบัติในการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด เราควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนฉีด รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ เพื่อผลลัพธ์หลังฉีดที่ดีและคงอยู่ได้อย่างยาวนานค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่ หรือมีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • งดรับประทานยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs, ยาละลายลิ่มเลือด, วิตามินซี วิตามินอี, น้ำมันตับปลา เป็นต้น
  • หากมีภาวะผิวหนังอักเสบ มีแผลเปิด หรือผิวหนังติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
  • งดการทาผลิตภัณฑำบำรุงผิวหรือยาทาที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว รวมถึงการทำเลเซอร์บริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีรอยเข็มและรอยแดงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้และจะดีขึ้นใน 2-3 วัน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2-3 ลิตร เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของสารเติมเต็มให้ดียิ่งขึ้น
  • หากมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ คนไข้สามารถใช้วิธีประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • หลีกเลี่ยงการนวด การสัมผัสผิว การเกาหรือแกะ รวมถึงการกดที่ผิวบริเวณฉีดฟิลเลอร์แรง ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่นและเกิดการผิดรูปได้
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ความร้อนทุกชนิด เช่น การซาวน่า, การอยู่ใกล้เตาปิ้งย่าง, การตากแดดจัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ใน 1-2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์

ต้องลอง! ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียมผสานเทคนิคการฉีดเฉพาะตัว

ที่คลินิกของเราเป็น Home of Filler คลินิกปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์เบอร์ต้น ๆ ของไทย ซึ่งใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์ ก็ต้องนึกถึงเราเป็นที่แรก! ด้วยฝีมือการฉีดฟิลเลอร์ที่หาตัวจับยากของอาจารย์หมอเมฆและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากคนไข้เป็นจำนวนมาก รวมถึงเหล่าดาราและเซเลบริตี้ชื่อดังในไทย จนทำให้ได้รับฉายา “หมอของดารา” นอกจากนี้ ด้วยมาตรฐานระดับพรีเมียมที่เรายึดถือมาโดยตลอด โดยเล็งเห็นความสำคัญของผลลัพธ์และความปลอดภัย จึงได้คัดสรรแต่ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ตัว Top ระดับโลกเข้ามาใช้ในคลินิก ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลายแบรนด์ดัง รวมไปถึง Teoxane ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้รับรองจาก อย. ไทย และมีการสั่งซื้ออย่างถูกต้องผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

นอกจากเรื่องมาตรฐานฟิลเลอร์ของแท้ มีคุณภาพสูง ที่เราเลือกใช้แล้ว เรายังมีมาตรฐานการรักษาระดับมืออาชีพ นำทีมโดย “อาจารย์หมอเมฆ” อาจารย์แพทย์สอนเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของประเทศไทย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ผสานกับการใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมือนใคร! หรือที่เรียกว่า “Triple Layers Lift” เติมเต็มผิวได้ในหลายระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นกระดูก โดดเด่นด้วยการปรับเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีไม่เหมือนกันในคนไข้แต่ละรายอย่างลงตัว ตรงจุด และแม่นยำ รวมถึงมีการเลือกใช้ขนาดโมเลกุลของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข ส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์กับความต้องการของคนไข้ได้อย่างลงตัวค่ะ

ต้องลอง! ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียมผสานเทคนิคการฉีดเฉพาะตัว

รวมคำถามที่พบบ่อย

ฉีดแล้วจะอยู่ได้นานไหม

เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ที่มีคุณภาพสูง ผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูง จึงทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ จะให้ผลลัพธ์ได้ยาวนานสูงสุดถึง 18 เดือน* ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมไปถึงการดูแลตัวเองตามคำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อส่งผลให้ประสิทธิภาพของฟิลเลอร์อยู่ได้ยาวนาน ดังนั้น หากอยากให้ผลลัพธ์อยู่กับเราไปได้นาน ๆ ฉีดแล้วคุ้มค่า ก็ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดค่ะ

หัตถการนี้ ราคาค่าบริการเท่าไหร่

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท* ทั้งนี้ ราคาอาจมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของสารเติมเต็มที่ใช้, บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์, เทคนิคพิเศษที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะกับในคนไข้แต่ละเคส นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในเรื่องของการจัดโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา แนะนำให้คนไข้สอบถามรายละเอียดกับทางคลินิก และเข้ารับการประเมินปัญหาผิวเบื้องต้นกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้ทราบข้อมูลค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดค่ะ

สรุป

Teoxane Filler นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ฟิลเลอร์ที่น่าจับตามองมากเลยค่ะ เพราะด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่โดดเด่น มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามปัญหาผิวที่แตกต่าง และยังมีรุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่ม RHA ที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการรักษาร่องริ้วรอยแบบ Dynamic ที่เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งยังไม่มีเจ้าไหนทำได้มาก่อน และยังคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน สำหรับใครที่กำลังมองหาฟิลเลอร์ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่เหมือนใครแบบนี้อยู่ สามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือเข้ารับการประเมินปัญหาผิวหน้าเบื้องต้นแบบไม่มีค่าใช้จ่าย กับทีมแพทย์ของทางคลินิกเรา ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะได้เลยค่ะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก