ฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? รวมข้อควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหัตถการที่ได้รับความสนใจจากแวดวงการความงามมาโดยตลอด ทั้งยังเป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์อีกด้วยว่ามีความปลอดภัยสูงต่อผิวหนังของมนุษย์เนื่องจากมีสารสกัดของสาร Hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มาจากธรรมชาติและมีอยู่ในร่างกายของเรา มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลง พร้อมเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ให้ดูตื้นขึ้น ใช้ระยะเวลาทำน้อย เห็นผลเร็วและยังไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นด้วย จึงทำให้การบริการนี้ถูกพูดถึงในวงกว้างเป็นระยะเวลาอันยาวนาน

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

ฟิลเลอร์ คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือ โปรแกรมความงามที่ใช้สารจำพวก Hyaluronic acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) หรือที่เราเรียกกันว่า HA ถูกสกัดมาจากธรรมชาติพร้อมกรรมวิธีในการคัดแยกแบบพิเศษจึงมีความปลอดภัยต่อผิว ซึ่งสารประเภทนี้มีคุณสมบัติเพื่อเข้ามาทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวที่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายเราก็อาจจะสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป อย่างเช่น คอลลาเจนหรือไฮยาลูรอน มีโมเลกุลขนาดเล็กสามารถลงลึกเข้าสู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วก็จะทำให้ริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง ช่วยปรับสภาพสีผิว กระชับรูขุมขนบริเวณจุดที่เกิดปัญหาร่องลึก มอบผิวที่ดูเนียนละเอียด

ฟิลเลอร์มีกี่ชนิด และแตกต่างกันอย่างไร

เราจะขอแบ่งออกมาเป็น 3 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันตามส่วนประกอบ จุดประสงค์ที่ใช้ในการรักษารวมไปถึงระยะเวลาของผลลัพธ์ ได้แก่ HA-Filler , FAT-Filler และ Filler ถาวร จะมีความแตกต่างกันอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

HA-Filler

HA-Filler หรือไฮยาลูโรนิค แอซิด เป็นสารประเภทกึ่งถาวร ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายคนเราจะมีอยู่แล้วตามกระดูกอ่อนและผิวหนัง เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนส่วนที่ร่างกายสูญเสียไป เป็นสารที่ทางการแพทย์ทั่วโลกนิยมเลือกใช้กันมากที่สุดเนื่องจากมีความปลอดภัยสูงได้มาตรฐาน ทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ระยะเวลาของสารประเภทนี้ก็จะคงอยู่ได้ราว ๆ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำหรือชนิดของ Filler เลือกใช้ค่ะ

FAT-Filler

เป็นสารกึ่งถาวรสำหรับการฉีดไขมัน (Autologous Fat Grafting) หรือเป็นการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะมีการนำเซลล์ไขมันจะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายมาผ่านกระบวนการคัดกรองเพื่อให้ได้เนื้อเยื่อไขมัน หลังจากนั้นก็จะนำมาฉีดในจุดที่ต้องการ แต่ภายหลังจากที่ฉีดไขมันเหล่านั้นอาจจะสลายไปได้ถึง 30-40% ทำให้คนไข้บางรายเมื่อฉีดเข้าไปแล้วก็หายไปเกือบหมดจนต้องฉีดเข้าไปในปริมาณที่เยอะขึ้นเพื่อไม่ให้มันสลายตัว จึงทำให้ใบหน้าจะดูบวมมากในช่วงเดือนแรก ๆ

Permanent-filler หรือ Filler ถาวร

เป็นสารที่สามารถคงสภาพอยู่ภายใต้ผิวหนังได้นาน ซึ่งมันค่อนข้างมีประโยชน์กับการนำไปรักษาโรค แต่จะไม่นิยมนำมาฉีดเพื่อเสริมความงามบนใบหน้า เนื่องจากมันก่อให้เกิดความเสี่ยงและเป็นอันตราย เพราะมันไม่สามารถสลายได้เองจึงอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิว เปรียบเสมือนการฉีดพลาสติกเข้าสู่ร่างกายที่ช่วงแรก ๆ อาจจะดูสวยแต่ในเวลาต่อมามันจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน เช่น ผิวดูขรุขระเป็นคลื่น ดูเป็นก้อน ๆ หน้าบวมผิดรูป มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ๆ หรือดูห้อยย้อย จึงเป็นสารเติมเต็มที่แพทย์หลายคนไม่นิยมนำมาใช้เพื่อตกแต่งเสริมความงามกันค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร

การฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นหัตถการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า ช่วยเติมเต็มผิวในจุดที่บกพร่อง นอกจากนี้ ยังสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดสารเติมเต็มช่วยแก้ปัญหาได้ ดังนี้

  • เติมเต็มริ้วรอย ช่วยให้ผิวอ่อนวัย เต่งตึง ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น
  • แก้ไขร่องลึกใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ให้ใต้ตาเต็มขึ้น ผิวกระจ่างใส
  • เพิ่มวอลลุ่มบริเวณที่ซูบตอบ เว้าบุ๋ม ที่เกิดจากสูญเสียไขมันหรือกระดูกทรุด ให้กลับมาอิ่มฟู
  • พยุงผิวหน้าบริเวณที่หย่อนคล้อย ให้กลับมายกกระชับ เต่งตึง
  • ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและมีมิติมากยิ่งขึ้น เช่น คางและจมูก
  • ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน
  • ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวที่แห้งกร้าน กลับมาชุ่มชื่น สุขภาพดี
  • เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื่น หรือปรับแต่งทรงริมฝีปากได้จากหลายสไตล์

ฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้าให้มีความสมดุลกัน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องลึกตามจุดต่าง ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มเฉพาะจุดตามเทรนฮิต เช่น การฉีด Filler ปาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ลดริ้วรอย

ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง

รีวิวฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์

รีวิวจากคนไข้ที่ใช้บริการ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการกับทางคลินิก หลายคนประทับใจในผลลัพธ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ* ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาที่ดูสดใสขึ้น หรือจุดอื่น ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
รวมไปถึงงานแก้จากการฉีดที่อื่นมาแล้วเกิดปัญหาก็ได้เข้ามาใช้บริการให้อาจารย์แพทย์ด้านฟิลเลอร์เป็นช่วยแก้ไขให้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับไปสร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์

4 ข้อพิจารณาในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี

ก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ควรพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะความรู้เฉพาะทางของแพทย์ รวมถึงต้องมีมาตรฐานที่ครบครัน จึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยและมีความปลอดภัย โดยควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้

  1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์
    การเลือกฉีดสารเติมเต็มกับแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์ด้านการฉีดสารเติมเต็มโดยเฉพาะเป็นปัจจัยแรกที่สำคัญ หากพลาดเลือกฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ไม่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยแพทย์ที่มีความชำนาญจะรู้ลึก-รู้จริงเกี่ยวกับโครงสร้างใบหน้าหรือหลักกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ถึงต้นตอ รวมถึงสามารถใช้เทคนิคการฉีดสารเติมเต็มที่ถูกชั้นถูกตำแหน่ง ให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ปัญหาที่เคยมีได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด และมีความปลอดภัย
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้เท่านั้น
    คนไข้สามารถสังเกตว่าคลินิกหรือสถานพยาบาลนั้น ๆ มีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มของแท้หรือไม่ โดยดูได้จากก่อนฉีดแพทย์จะต้องมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้อย่างละเอียด มีการแกะกล่องและดึงยาให้ดูต่อ มีการแจ้งวิธีสังเกตผลิตภัณฑ์ของแท้ รวมถึงมีการให้กล่องผลิตภัณฑ์กับคนไข้กลับบ้าน เพื่อทำการเช็กหรือตรวจสอบด้วยตัวเองได้
  3. เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
    คลินิกหรือสถานพยาบาลควรได้รับอนุญาตและได้รับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข โดยคนไข้สังเกตได้จากเลขใบอนุญาต 11 หลัก ที่ติดไว้ให้เห็นอย่างชัดเจนที่บริเวณหน้าสถานที่ นอกจากนี้ สถานที่ทั้งภายนอกและภายในจะต้องสะอาด โปร่งสบาย มีการบริการที่ใกล้ชิดเป็นกันเองจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเป็นสถานที่ตั้งต้องอยู่ในที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่อยู่ในบริเวณลับสายตา
  4. มีรีวิวจากคนไข้จริงให้เลือกดู

หลักการพิจารณาเลือกคลินิกฉีดสารเติมเต็มให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีความปลอดภัย สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ คลินิกนั้น ๆ จะต้องมีรีวิวจากเคสคนไข้จริงที่เข้ารับบริการให้เลือกดูเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ทั้งที่เป็นภาพนิ่งก่อน-หลัง, วิดีโอ รวมถึงการไลฟ์สดที่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างชัดเจน ซึ่งรีวิวของคนไข้จริงจะเป็นตัวการันตีฝีมือและความเชี่ยวชาญของแพทย์ท่านนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนการฉีด

  1. เบื้องต้นคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินการรักษา วิเคราะห์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาให้คนไข้ได้ทราบ ในขั้นตอนนี้หากมีอาการแพ้ยาชาควรแจ้งคุณหมอทันที
  2. คุณหมอจะเริ่มทำการแปะยาชาบริเวณที่รักษา โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
  3. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการฉีดยาชาเพื่อบล็อกเส้นประสาทบริเวณผิวหน้าคล้ายกับการฉีดยาชาก่อนถอนฟันซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 15 นาทีค่ะ
  4. หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการฉีด Filler เข้าสู่ผิวตามจุดที่คนไข้ต้องการ ระยะเวลาในการรักษาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณของ Filler ในแต่ละครั้ง
  5. เมื่อเสร็จแล้วคุณหมอจะพูดคุยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง

การเตรียมตัวก่อนฉีด

  • ก่อนทำควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ข้อมูลเบื้องต้น การสังเกตผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มของแท้ของแต่ละยี่ห้อ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่รักษา เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้เรามั่นใจว่าการรักษาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่มีผลกระทบตามมา
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้บริการถึงความต้องการ รวมไปถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องรับประทานยาบางชนิดเป็นประจำ มีอาการแพ้ยาชาหรือผู้ที่มีปัญหาด้านผิวหนังเพื่อให้แพทย์ได้ทราบและหาทางออกที่เหมาะสมต่อตัวคนไข้มากที่สุด

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลังทำบางรายอาจเกิดอาการบวมแดงขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด คลึงในบริเวณนั้น
  • สามารถใช้การประคบเย็นบริเวณที่ฉีดได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวหน้าแดง เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาการที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือบวม เช่น อาหารรสจัด
  • อาหารรสเค็ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่

ข้อดีของการฉีด Filler

  • สามารถยกกระชับ ปรับโครงสร้างใบหน้าให้เข้ารูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • แก้ไขปัญหาตามส่วนต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำดูเป็นธรรมชาติ
  • เติมเต็มในจุดที่ดูแก่กว่าวัยหรือจุดที่มีริ้วรอยดูหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์
  • ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ตาโหล ตาลึก ขอบตาดำและถุงใต้ตา
  • HA-Filler มีโมเลกุลหลากหลายรูปแบบ จึงทำให้แพทย์สามารถเก็บรายละเอียดการรักษาได้ดี
  • ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ* (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
  • ใช้ระยะเวลาในการทำน้อยประมาณ 15-30 นาที หลังทำไม่ต้องพักฟื้น
  • สามารถกลับมาทำได้เรื่อย ๆ ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
  • เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก เพราะเป็นส่วนประกอบที่มีตามร่างกายของมนุษย์อยู่แล้ว เกิดโอกาสในการแพ้น้อยมาก และส่วนมากคนที่แพ้มักเกิดจากการแพ้ยาชามากกว่าค่ะ แต่ถ้าหากใครเคยฉีดยาชาถอนฟันมาก่อนแล้วไม่เกิดอาการแพ้ ก็สามารถทำได้แบบไม่กังวลเลยค่ะเนื่องจากเราใช้ยาชาชนิดเดียวกัน
  • ช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามจุดต่าง ๆ ให้เข้ารับกับใบหน้าตามความเชื่อของแต่ละคนได้

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังฉีด Filler

หลังจากการฉีดสารเติมเต็มหรือ Filler นั้น อาจมีรอยเข็มให้เห็นบริเวณผิวที่ฉีดสารเติมเต็ม รวมถึงอาการบวม รอยแดง รอยเขียวช้ำที่เกิดจากรอยเข็ม สำหรับอาการปวดตึงพบได้ 3-7 วันแรก, รอยแดง รอยเขียวช้ำ จะค่อย ๆ บรรเทาและหายได้ใน 7 วัน และอาการบวมจะอยู่ประมาณ 7-14 วัน โดยอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นภาวะปกติที่พบได้ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งคนไข้สามารถใช้วิธีการประคบเย็นและการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการตามที่แพทย์สั่งได้ค่ะ

อาการเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุ ?

เป็นสิ่งที่หลายคนกลัวว่าเมื่อฉีดไปแล้วจะเกิดปัญหานี้ขึ้นกับตัวเองเพราะมีข่าวเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายตามสื่อต่าง ๆ แต่เรามาดูสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะว่า Filler เป็นก้อนที่มักพบบ่อยในปัจจุบันเกิดจากสาเหตุใดบ้าง

  1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับบริเวณที่จะฉีด
    เพราะผิวหน้าของเรามีหลายชั้น ซึ่งความหนาและความบางของชั้นผิวในแต่ละจุดก็ยังไม่เท่ากันด้วย Filler ในปัจจุบันก็ถูกออกแบบมาอย่างหลากหลาย แต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติและโมเลกุลที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นใช้ฉีดชั้นผิวลึกหากนำไปฉีดในชั้นผิวตื้นก็ทำให้เป็นก้อนได้ค่ะ
  2. แพทย์ไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง
    เทคนิคการฉีดนั้นมีผลต่อการปรับรูปหน้าเป็นอย่างมาก ความรู้ด้าน Filler ทักษะและศิลปะในการตกแต่งใบหน้าจึงเป็นสิ่งที่แพทย์ควรจะต้องมี หากแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ในด้านนี้ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดก้อนขึ้นบริเวณผิวหนัง
  3. ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของปลอม
    Filler ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ผ่านการรับรองจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีราคาถูกเมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดเป็นก้อน ๆ ได้ซึ่งทำให้คนไข้ต้องไปทำการสลายหรือขูดออก บางรายจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรม
  4. ปริมาณที่ฉีด
    ปริมาณที่ใช้ควรจะต้องมีความเหมาะสมและพอดีต่อปัญหาที่เกิดขึ้น หากใช้ปริมาณที่มากเกินไปแน่นอนว่าส่งผลกระทบตามมาให้ได้แก้ไขกันอย่างแน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการติดเชื้อเกิดขึ้น สามารถสังเกตได้จากการเอามือไปกดบริเวณที่บวม หากมีอาการปวด เจ็บ หรือรู้สึกร้อนบนใบหน้ามากกว่าปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีค่ะ

การฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร ?

คือ การนำเอาตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ฉีดเพื่อสลาย Filler ออกไปได้ ซึ่งในกรณีของการฉีดสลายจะต้องเป็นของแท้ที่มีสาร HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้นจึงจะสามารถทำได้ แพทย์จะเข้ามาสอบถามเบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาและจำนวน CC ที่คนไข้เคยฉีดเข้าไป เพื่อคำนวณปริมาณตัวยาที่ฉีดสลายให้เหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อเยื่อหรือส่วนอื่น ๆ

ฉีดสลายจะเห็นผลเมื่อไหร่

ตัวยาจะเริ่มทำงานทันทีหลังจากที่ฉีดเข้าไป ซึ่งภายใน 48 ชั่วโมงหรือหลังจากที่ฉีดเข้าไปแล้ว 2 วัน จะเห็นได้ว่าก้อน Filler เริ่มยุบตัวลงและหายไป ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้นาน 2 สัปดาห์หลังจากนั้นแพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาให้อีกครั้งค่ะ

ฉีดสลาย Filler สามารถกลับมาทำซ้ำได้ไหม ?

สามารถกลับมาทำได้ค่ะ โดยเฉพาะในกรณีที่มีก้อนบวมขนาดใหญ่จะต้องกลับมาฉีดซ้ำหลายครั้งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนครั้งการรักษาให้ ส่วนมากจะทิ้งระยะห่างประมาณ 2 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
  • Restylane ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศสวีเดน
    เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาให้มีโมเลกุลขนาดเล็ก ใกล้เคียงกันกับไฮยาลูโรนิค แอซิด เป็นสารที่มีอยู่ตามร่างกาย ทำให้มีการตอบสนองได้ดีไม่เกิดอาการแพ้ มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยยกกระชับผิวได้ดี มีเนื้อสัมผัสที่นิ่ม ช่วยเติมเต็มจุดที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ปรับโครงหน้าให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ในส่วนของการฟื้นฟูสภาพผิวก็มีทั้ง Restylane Vital และ Restylane Vital Light มีเนื้อโมเลกุลบางเบา ช่วยเสริมความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า ถูกออกแบบมาใช้กับผิวชั้นตื้น
  • Belotero ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
    เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลด้านความงามจากยุโรป มีทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับปรับสภาพผิวเติมเต็มร่องลึก หลุมสิวต่าง ๆ ให้ตื้นขึ้น ลดริ้วรอยบนใบหน้า หรือรุ่นที่มีคุณสมบัติช่วยยกระชับ แก้ไขปัญหาบริเวณช่วงคางหรือปรับรูปหน้า เติมริมฝีปากให้มีน้ำมีนวล เต่งตึง เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทีช่วยยกกระชับและช่วยเรื่องการฟื้นฟูงานผิวได้ดีเลยค่ะ
  • Juvederm ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา
    เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับปรับรูปหน้าให้ดูสวยละมุน ไม่เป็นก้อน ทำให้มีความเป็นธรรมชาติ สามารถเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น รวมไปถึงบริเวณที่มีการยุบตัว อย่างเช่น ปัญหาแก้มตอบ ขมับยุบ หรือบริเวณใต้ตาให้ดูฟูขึ้น เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี และล่าสุดก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า  Juvederm Volite ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับลดริ้วรอยโดยเฉพาะ ปรับผิวให้เรียบเนียน ทั้งยังฟื้นฟูปัญหาผิวในครั้งเดียว นับว่าเป็นจุดเด่นที่หลายคนกำลังให้ความสนใจไม่น้อย
  • Neuramis ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี
    ผลิตภัณฑ์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีที่มีโมเลกุลแข็งเหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาร่องแก้ม เติมขมับหรือคาง ให้ความยืดหยุ่นได้ดีไม่จับตัวเป้นก้อน เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานกว่า 7 เดือนไปจนถึง 1 ปี
  • Yvoire ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี
    มีเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ฉีดง่าย ดูเรียบเนียน ใช้โมเลกุลขนาดใหญ่เพื่อผลลัพธ์ที่อยู่ได้อย่างยาวนาน เส้นใยเกาะตัวกันแน่นกว่าและดีกว่า เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัยสูงได้รับความไว้วางใจกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นที่ให้คุณสมบัติแตกต่างกัน ตอบโจทย์ปัญหาผิวอย่างลงตัว และเป็นธรรมชาติ
  • Definisse ผลิตภัณฑ์นำเข้ามาจากประเทศอิตาลี
    เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณสมบัติในการเติมเต็ม ปรับรุปหน้าและยกกระชับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปัจจุบันได้ทำออกมาแล้งทั้งหมด 3 รุ่นเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับชั้นผิวที่แตกต่างกัน

อย่างที่ทราบกันดีว่าคุณสมบัติของแต่ละแบรนด์นั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเข้าทำการรักษาแพทย์จะเป็นผู้สอบถาม พูดคุยเกี่ยวกับความต้องการของคนไข้รวมไปถึงวิเคราะห์ปัญหาผิวบนใบหน้าเพื่อวางแผนการรักษาและใช้ยี่ห้อที่เข้ากับผิวของคนไข้แบบรายบุคคลค่ะ

วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ – ปลอม

สมัยนี้มี Filler ให้เลือกใช้บริการตามคลินิกเยอะแยะมากหมาย เพื่อไม่ให้ถูกหลอกเราสามารถสังเกตได้จาก

  • มีเลขทะเบียนอย.ติดอยู่ที่กล่องอย่างชัดเจน
  • มีฉลากหรือเอกสารภาษาไทยอย่างชัดเจน ระบุวันที่ผลิตและวันหมดอายุข้างกล่อง
  • มีข้อมูลเลข lot เลขที่อ้างอิงของกล่องตรงกับผลิตภัณฑ์ด้านใน
  • นำเลข lot จากตัวกล่องไปเช็กแหล่งที่มาได้

แนะนำให้อ่าน ดูยังไงให้ชัวร์กับวิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ ปลอม เช็คให้ดี ไม่ต้องกลัวโดนหลอก (คลิกเลย)

ภัยอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

การใช้ Filler ที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือเป็นของลอกเลียนแบบผลที่เกิดขึ้นคือเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทำให้มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ บวมแดง เนื้อผิวดูห้อยย้อยหรือเป็นก้อนแข็ง ๆ ทำให้ผิวขรุขระไม่เรียบเนียนและหนักถึงขั้นทำให้เนื้อตายได้เลยค่ะ และหากใครที่หลงไปใช้ของปลอมอาจจะต้องมีการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้นเลยค่ะ

ฟิลเลอร์ ราคา

การฉีดฟิลเลอร์ ราคา ในการฉีดแต่ละจุดมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัจจัยของสภาพปัญหาผิว บริเวณที่ฉีด จำนวนที่ฉีดเข้าไป หรือยี่ห้อที่เราเลือกใช้ และในบางพื้นที่ก็ต้องมีการใช้เทคนิคพิเศษของแพทย์ร่วมด้วยซึ่งมันก็มีความยากง่ายในการรักษาของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน แนะนำให้เข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นจะดีที่สุดค่ะ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของโปรโมชั่นอื่น ๆ ร่วมกับหัตถการภายในคลินิก หรือตามเทศกาลต่าง ๆ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมตามช่องทางการติดต่อของคลินิกได้เลยนะคะ

ดูโปรโมชั่นเพิ่มเติม

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการใช้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเลียนแบบสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายเรา และผ่านเทคโนโลยีการผลิตแบบพิเศษจนได้สารเติมเต็มที่บริสุทธิ์ มีความปลอดภัยต่อร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้างในร่างกาย แต่ทั้งนี้ การฉีดสารเติมเต็มจะมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงกับอันตรายหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในเรื่องความเชี่ยวชาญของแพทย์ เลือกฉีดกับสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงเลือกฉีดสารเติมเต็มของแท้ ไม่ใช่ยาปลอม ไม่ใช่ยาหิ้ว ดังนั้น ก่อนพิจารณาเลือกฉีดกับใคร ฉีดที่ไหน ก็ต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนค่ะ

แต่ละจุดควรฉีดฟิลเลอร์กี่ CC

จำนวน CC ในแต่ละครั้งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาและโครงสร้างใบหน้าร่วมกับความต้องการของคนไข้แต่ละคนเพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับรูปหน้าและตอบโจทย์กับสิ่งที่คนไข้อยากได้ควบคู่กันไปค่ะ แต่ละคนก็จะมีปริมาณในการใช้ Filler ที่ไม่เหมือนกัน

ฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังการฉีดสารเติมเต็มนั้น อาจมีความแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของสภาพปัญหาผิว, การเลือกใช้ประเภทหรือยี่ห้อสารเติมเต็ม, การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 6 เดือน ไปจนถึง 2 ปี* โดยถึงแม้ว่าการฉีดสารเติมเต็มนั้นอาจให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร แต่คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ในภายหลัง เพื่อคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานค่ะ

สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมได้ไหม ต้องรอระยะเวลาเท่าไหร่

อย่างที่ได้อธิบายไว้ในตอนต้นนะคะว่า ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร โดยจะคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิว, ยี่ห้อสารเติมเต็ม และการดูแลตัวเอง) ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไปสารเติมเต็มจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และหากคนไข้สังเกตได้ว่าปัญหาผิวเริ่มกลับมาอีก หรือต้องการกลับมาฉีดสารเติมเต็มใหม่อีกครั้งก็สามารถทำได้ค่ะ หรือในกรณีที่ต้องการแก้ Filler โดยที่สารเติมเต็มยังไม่สลายตัว ก็สามรถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการฉีดสลายสารเติมเต็มของเก่าออก จากนั้น จะต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ (หริอตามระยะเวลาที่แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสม) จึงจะสามารถฉีดสารเติมเต็มใหม่ได้ค่ะ

หัตถการใดที่สามารถทดแทนการฉีดฟิลเลอร์

ในปัจจุบัน มีนวัตกรรมการเติมเต็มผิวอยู่หลากหลายวิธี โดยมากนั้นมักจะมีการพูดถึงและการเปรียบเทียบกับบริการอื่น ๆ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการรักษาที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ การฉีดไขมัน และนวัตกรรมการใช้สารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) ที่กำลังมาแรงมาก ๆ ในขณะนี้ค่ะ แต่ทั้งนี้ ในแต่ละบริการจะมีข้อที่แตกต่างกันในเรื่องของวิธีการ, สารประกอบ และผลลัพธ์ ดังนี้ค่ะ

สำหรับการฉีดสารเติมเต็มหรือ Filler นั้น จะเป็นการใช้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีกลไกเข้าไปเติมเต็มวอลลุ่มผิวบริเวณที่ต้องการให้กลับมาอิ่มฟู ยกกระชับ ปรับสภาพผิว ซึ่งจะให้ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในทันที ส่วนการใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนอื่น ๆ อาทิ Sculptra, Radiesse หรือ Gouri จะเป็นการใช้ส่วนประกอบหลักที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เพื่อปรับปรุงโครงสร้างผิวและให้ผลลัพธ์แบบระยะยาว ซึ่งในแง่ของการเพิ่มวอลลุ่มนั้นอาจเห็นผลได้ในช่วงแรกที่ฉีด แต่หลังจากนั้นสารน้ำที่ถูกเติมเข้าไปกับตัวยาจะถูกดูดซึม จึงทำให้ผิวกลับมายุบตัวได้เล็กน้อยอีกครั้ง แต่หลังจากนี้จะเกิดกลไกกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกลับมาอิ่มฟู ยกกระชับ ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น คุณภาพผิว (Skin Quality) ดีขึ้น ซึ่งจะคงผลลัพธ์ได้ยาวนานเป็นปี ๆ เลยค่ะ

นอกจากการใช้สารกระตุ้นคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิธีการฉีดไขมันที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันค่ะ แต่การนำไขมันมาฉีดนั้น อาจมีข้อด้อยตรงที่ใช้ปริมาณไขมันที่มากกว่าการฉีดสารเติมเต็มหรือFiller รวมถึงยังมีวิธีการที่ยุ่งยากซับซ้อนมากกว่า ทั้งการดูดไขมัน นำไขมันที่ได้มาปั่นเพื่อคัดแยกให้เหลือเพียงเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ จากนั้น จึงนำมาฉีดเติมเต็มยังบริเวณที่ต้องการ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจทำให้เซลล์ไขมันมีโอกาสสลายตัวได้ 30-40% หรือบางเคสอาจมีการสลายตัวได้เร็วกว่าปกติ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละราย นอกจากนี้ คนไข้ต้องมีการพักฟื้นหลังทำ มีการดูแลตัวเองมากกว่า และยังทำให้ใบหน้าที่ฉีดไขมันเกิดอาการบวมในช่วง 4 สัปดาห์แรก จึงอาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้หน้าหรือออกงานสำคัญ ๆ ในเวลาอันใกล้

ส่วนใครจะเหมาะกับโปรแกรมไหนนั้น แนะนำให้ศึกษาข้อดีและข้อเสียอย่างละเอียด รวมถึงแนะนำให้คนไข้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผิว รวมถึงพูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Doctor Mek Clinic กันอย่างละเอียด เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ, สอบถามความต้องการของคนไข้ และแนะนำวิธีการเติมเต็มผิวที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายมากที่สุด เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์มากที่สุดนั่นเองค่ะ

สรุป

หากใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ หมอเมฆ หรือบริการด้านความงามสามารถทักเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ Doctor Mek Clinic ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และสำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับ Filler หมอเมฆ ราคาสามารถทักเข้ามาสอบถามกับทางแอดมินได้เลยค่ะ คลินิกของเรายินดีให้บริการและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างผลลัพธ์อันน่าประทับใจให้กับทุกท่าน

คำถามพบบ่อย

 บริการนี้เจ็บไหม

โปรแกรมนี้ก่อนทำการรักษาจะมีการแปะหรือฉีดยาชาก่อนเพื่อลดอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ตัว Filler บางชนิดก็จะมียาชาผสมอยู่ด้วย จึงทำให้ระหว่างทำจึงไม่ค่อยรู้สึกถึงความเจ็บปวดค่ะ

ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์เลยไหม

หัตถการนี้หลังฉีดแล้วเราจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทันที*ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ70-80% เลยค่ะ สามารถกลับไปใช้ชีวิต ช็อปปิ้งหรือทำงานได้ตามปกติโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเพราะไม่มีขั้นตอนของการผ่าตัด ซึ่งหลังจากนั้นผลลัพธ์จะดูเข้าที่100% ภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

โดนแดดได้ไหม ?

Filler เป็นหัตถการที่สามารถรักษาร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ร้อยไหม หรือโปรแกรมความงามอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนทำหัตถการจะมีแพทย์เข้ามาประเมินปัญหาผิว วางแผนการรักษาให้เหมาะสมแบบรายบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง

  • เทคนิคการรักษาของแพทย์ นี่เป็นส่วนหลัก ๆ ที่สำคัญเป็นอย่างมาก แพทย์จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปรับรูปหน้า และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อปัญหาของคนไข้ มีความสามารถในการรังสรรค์รูปทรงออกมาให้ดูดีมีความเป็นธรรมชาติและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน
  • ชนิดของ Filler ที่เลือกใช้ ในแต่ละรุ่นหรือแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติหรือโมเลกุลที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าเราต้องการฟื้นฟูแก้ไขปัญหาตรงจุดไหนก็ต้องใช้ชนิดของ Filler ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อสร้างโครงหน้าให้ดูสวยละมุน ซึ่งแพทย์จะต้องเป็นผู้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส
  • ขนาดโมเลกุลของ Filler แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
  1. โมเลกุลขนาดหนัก ที่เหมาะสำหรับการฉีดผิวบริเวณชั้นลึกหลายคนมักใช้ในการยกกระชับใบหน้า
  2. โมเลกุลขนาดเบา จะเหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณชั้นหนังตื้น เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง หากเลือกใช้ให้เข้ากับจุดที่ต้องการผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดูดีขึ้น

เพราะ Filler ก็เหมือนงานศิลปะรูปแบบหนึ่งจะต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์และเทคนิคการปั้นทรงของแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาโดดเด่นเข้ากับรูปหน้าของคนไข้แต่ละคน

ถ้าสารเติมเต็มสลายไปแล้วหน้าจะดูแก่ลงไหม

การฉีด Filler จะไม่ทำให้หน้าดูเหี่ยวหรือแก่ลง แต่จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นจากการที่มันเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นใต้ผิว ทำให้จำนวนคอลลาเจนมีจำนวนมากขึ้น เมื่อFiller สลายหมดแล้วทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินก็ยังคงอยู่ ไม่ทำให้หน้าดูเหี่ยวและแก่ลงอย่างแน่นอน แถมผิวหน้าดูมีสุขภาพดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วเราต้องรอให้ Filler หมดก่อนรึเปล่าถึงจะเริ่มฉีดใหม่ได้ จริง ๆ แล้วเราสามารถเติมได้เรื่อย ๆ ตามตำแหน่งที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มันหมดก็ได้ค่ะ แต่ขั้นตอนการเติม Filler ก็ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ด้วยนะคะ

สารเติมเต็มเก่าหมดแล้ว สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ไหม

ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้เราฉีดกับยี่ห้อนึง แต่อยากเปลี่ยนไปใช้อีกรุ่นนึงก็สามารถเปลี่ยนได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิมค่ะ ซึ่งการเปลี่ยนยี่ห้อนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง คนไข้สามารถปรึกษาร่วมกับแพทย์ที่ทำการรักษาได้เลยค่ะ