ฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียว
“โบท็อกลดกราม” หรือหลายคนอาจเรียกว่า “โบท็อกหน้าเรียว” (Botox for Masseter Reduction / V-Line) เป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพราะเป็นหัตถการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แก้ปัญหากรามใหญ่ แบบไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน ทำแล้วเห็นผลจริง ไม่มีรอยแผลเป็น และปลอดภัยสูง เพราะสารโบทูลินั่ม ท็อกซินเอ หรือโบท็อกของแท้สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ผสานกับเทคนิคเฉพาะตัวของ Doctor Mek Clinic ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและอาจารย์แพทย์ผู้สอนโบท็อกของประเทศไทย
กรามใหญ่ หน้าบาน หน้าเหลี่ยม เกิดจากอะไร
ก่อนอื่น เราลองมาเช็กกันก่อนว่า สาเหตุของกรามใหญ่เกิดจากอะไร สำหรับปัญหากรามใหญ่นั้นเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ นั่นก็คือ กระดูกขากรรไกรใหญ่ (มักเกิดจากพันธุกรรม) และกล้ามเนื้อบริเวณกรามใหญ่ (มักเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน)
-
กระดูกขากรรไกรใหญ่
เกิดจากโครงสร้างทางร่างกายที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากคนในครอบครัว ซึ่งการแก้ไขในกรณีมีปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน ที่เกิดจากกระดูกขากรรไกรใหญ่แบบนี้ สามารถทำได้โดยการทำศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกขากรรไกร
-
กล้ามเนื้อกรามใหญ่
เกิดจากกล้ามเนื้อกรามทำงานหนักบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน จากการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่าง เช่น ชอบเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ (ข้าวเหนียว, หมากฝรั่ง, ขนมกัมมี่) หรือชอบเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ (น้ำแข็ง, ลูกอม) ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อกรามถูกใช้งานหนัก ๆ ซ้ำ ๆ กัน ก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามใหญ่ขึ้น โดยกรณีกรามใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ จะสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดโบท็อกลดกราม
วิธีเช็กง่าย ๆ ว่ากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกรามหรือไม่
สังเกตโดยการกัดกรามให้แน่น แล้วจับบริเวณแนวกรามจะพบว่ามีกล้ามเนื้อนูนขึ้นอย่างชัดเจน หากเช็กดูแล้วว่า ปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน กรามเหลี่ยม ที่กำลังเป็นอยู่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งปัญหานี้สามารถจัดการได้ด้วยการฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวค่ะ
โบท็อกลดกราม คืออะไร
การปรับหน้าเรียวด้วยโบท็อกลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม (กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่บดเคี้ยว) ด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามหดตัวและมีขนาดเล็กลง นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ยังช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยบริเวณกรอบหน้า ลดเหนียงใต้คาง และยกกระชับลำคอ โดยหลังฉีดโบท็อกลดกรามหรือโบท็อกหน้าเรียวจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 1-2 สัปดาห์ กรอบหน้าชัดขึ้น มีรูปหน้าเรียวเล็กแบบวีเชฟ
ฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวกับ 3 เทคนิคพิเศษ
สำหรับการฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น จะเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาทำเพียงไม่นาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เทคนิค คือ เทคนิคลดกล้ามเนื้อกราม, เทคนิคลิฟกรอบหน้า Dermolift และ เทคนิคลิฟกรอบหน้า Nefertiti lift ซึ่งแต่ละเทคนิคนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ในแต่ละคน ส่วนเคสไหนจะใช้เพียงเทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง หรืออาจใช้ควบคู่หลายเทคนิค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากปัญหารูปหน้าของคนไข้ในแต่ละรายค่ะ
-
เทคนิคลดกล้ามเนื้อกราม (ลดกราม)
ในการปรับรูปหน้าด้วยการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าเหลี่ยม หน้าบาน จากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งการฉีดโบท็อกจะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำให้กล้ามเนื้อกรามเป็นอัมพาตชั่วคราว เมื่อกรามทำงานลดลงจะมีผลให้กล้ามเนื้อกรามค่อย ๆ มีขนาดที่เล็กลงได้ ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้นค่ะ
-
เทคนิคลิฟกรอบหน้า Dermolift (ยกกระชับกรอบหน้า)
เป็นเทคนิคฉีดโบท็อกที่บริเวณแนวกรอบหน้า (ลักษณะขึ้นไปด้านบน) และฉีดไปยังผิวหนังชั้นตื้น เพื่อช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับฉีดในช่วงเวลาที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน
-
3. เทคนิค Nefertiti lift (ยกกระชับกรอบหน้า)
เป็นเทคนิคการฉีดโบท็อกไปยังบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ Platysma ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่พยุงใบหน้าไว้ เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้เกิดความอ่อนแอลงเนื่องจากอายุที่มากขึ้น จะส่งผลให้ผิวหนังที่ใบหน้าหย่อนคล้อย แต่เมื่อฉีดโบท็อกด้วยเทคนิค Nefertiti lift แล้ว จะช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัดสวย รูปหน้าเรียวขึ้น
ฉีดโบท็อกลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าเหลี่ยม ที่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่
- ผู้ที่ต้องการลดกรามแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากมีแผลผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการลดกรามแบบให้ผลลัพธ์รวดเร็ว
- ผู้ที่ต้องการลดกรามในราคาสบายกระเป๋า
ข้อดีและข้อเสีย / ข้อควระวังของการฉีดโบท็อกลดกราม
ก่อนตัดสินใจทำหัตถการเพื่อความงามทุกชนิด รวมไปถึงการฉีดโบท็อกลดกราม สิ่งที่คนไข้ควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียด นั่นก็คือ “ข้อดีและข้อควรระวัง” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ตามมานั่นเองค่ะ
ข้อดีของการฉีดโบท็อกลดกราม
- เป็นการลดกราม ปรับหน้าเรียว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ทำแล้วเห็นผลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย (หากเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงและใช้โบท็อกของแท้ได้มาตรฐาน)
- ราคาสบายกระเป๋ากว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดหรือวิธีอื่น ๆ
ข้อเสีย / ข้อควรระวังของการฉีดโบท็อกลดกราม
- การฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวให้ผลลัพธ์ 4-8 เดือน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร แต่ทั้งนี้เมื่อยาหมดฤทธิ์สามารถฉีดซ้ำได้ เพื่อคงประสิทธิภาพที่ยาวนาน
- หากเลือกฉีดโบท็อกในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ อาจเสี่ยงอันตรายจากการรับบริการได้ เช่น การฉีดผิดจุดอาจทำให้ใบหน้าผิดรูป หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ยิ้มได้ไม่สุด ดังนั้นจึงควรตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนทำการฉีดโบท็อก
- ระมัดระวังโบท็อกปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้ดีก่อนเข้ารับบริการ เช่น การขอเช็กเลข Serial Number ข้างผลิตภัณฑ์ และในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะมีการดึงยาและผสมยาต่อหน้าคนไข้ พร้อมอธิบายข้อมูลแก่คนไข้ในระหว่างการรักษา
ภาพก่อนและหลังฉีดโบท็อกลดกราม
ด้วยประสิทธิภาพของตัวยาโบท็อกของแท้ ผสานกับเทคนิคของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (ระดับอาจารย์แพทย์สอนฟิลเลอร์ โบท็อก ประเทศไทย) ทำให้การฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียวที่ Doctor Mek Clinic ออกมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยสมส่วน
รีวิว ฉีดโบท็อกลดกราม
ด้วยผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวที่น่าพึงพอใจ ส่งผลให้คนไข้จำนวนมากเกิดความประทับใจ และไว้ใจกลับมาใช้บริการที่ Doctor Mek Clinic อยู่เรื่อย ๆ รวมไปถึงการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้เราเป็นคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จำนวนมากค่ะ
โบท็อกลดกราม ยี่ห้อไหนดี
โบท็อกหน้าเรียว โบท็อกลดกราม ยี่ห้อไหนดี จะต้องเลือกแบบไหน…สำหรับการฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวจะสามารถใช้โบท็อกได้หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและต่างประเทศค่ะ เช่น
- โบท็อก Allergan จากอเมริกา ที่ได้รับความนิยมมาก มีประสิทธิภาพสูง ลดโอกาสดื้อโบท็อกในอนาคต ด้วยตัวยากระจายตัวเป็นวงแคบ ทำให้มีความแม่นยำในการออกฤทธิ์ของตัวยา และนิยมนำมาใช้ร่วมกับการใช้เทคนิคยกกระชับกรอบหน้า Nefertiti lift
- โบท็อก Xeomin จากเยอรมัน เป็นตัวยาที่กระจายตัวในวงแคบ ไม่กระจุกตัวเกินไป ฉีดแล้วให้ความเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการดื้อโบท็อกได้ในระยะยาว
- โบท็อก Dysport จากอังกฤษ เป็นโบท็อกที่นิยมนำมาใช้ร่วมกับการใช้เทคนิคยกกระชับกรอบหน้า Dermolift เพื่อลิฟกรอบหน้าให้เรียวสวย
- โบท็อก Nabota (โบท็อกซ์นาโบตะ) / Aestox จากเกาหลี ด้วยตัวยาที่มีค่าความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์วงแคบ ทำให้มีความแม่นยำในการรักษา เห็นผลลัพธ์เร็ว ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต เหมาะสำหรับนำมาใช้ปรับรูปหน้า ลดกล้ามเนื้อกราม และราคาสบายกระเป๋า (เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น)
ทั้งนี้ แต่ละเคสจะเหมาะกับการฉีดโบท็อกหน้าเรียว โบท็อกลดกราม ยี่ห้อไหนดี แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินเบื้องต้นและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ
ฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล
หลังฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ และหลังจาก 2 สัปดาห์ขึ้นไปจนถึง 1 เดือนจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะสังเกตได้ว่ากล้ามเนื้อบริเวณกล้ามนิ่มลง หดตัวลง เมื่อกัดฟันเช็กแล้วกล้ามเนื้อกรามจะไม่เด้งนูนขึ้นมา และหลังฉีดโบท็อกลดกรามเข้าเดือนที่ 3 จะเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่สุดค่ะ
โบท็อกลดกราม อยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีดโบท็อกลดกราม อยู่ได้กี่เดือน หรือโบท็อกลดกราม อยู่ได้นานแค่ไหน โดยปกติแล้วผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวจะอยู่ได้นานประมาณ 4-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ รวมไปถึงยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ และเทคนิคการฉีดของแพทย์ค่ะ โดยหากโบท็อกหมดฤทธิ์ คนไข้สามารถเข้ารับบริการฉีดโบท็อกลดกรามซ้ำได้ ซึ่งควรเว้นระยะห่างการฉีดในแต่ละครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
โบท็อกลดกราม ราคาเท่าไหร่
สำหรับการฉีดโบท็อกลดกรามที่ Doctor Mek Clinic ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4,999 บาท ทั้งนี้การฉีดโบท็อกหน้าเรียว โบท็อกลดกราม ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ รวมไปถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ค่ะ เช่น หากเลือกโบท็อกของอเมริกา ราคาอาจสูงกว่าโบท็อกของเกาหลี แต่ทั้งนี้โบท็อกอเมริกาเป็นตัวยาที่มีประสิทธิภาพสูง มีความบริสุทธิ์สูง และผลลัพธ์อยู่ได้นาน ซึ่งคนไข้สามารถพูดคุยกับแพทย์ได้เพื่อการตัดสินใจที่ตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ
ฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี
- เลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีประสบการณ์สูงในการฉีดโบท็อก
- เลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต และเลือกใช้แต่โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและต่างประเทศ (สามารถให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้)
- เลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีรีวิวจากคนไข้จริง และมีรีวิวให้เลือกดูเยอะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกลดกราม
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ก่อนฉีดโบท็อก 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่เป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงการทำขัดผิวหรือสครับผิวหน้า ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกลดกรามประมาณ 2-3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดโบท็อก
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีดโบท็อก
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลดกราม
- คนไข้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวิเคราะห์ / ประเมินปัญหา
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพูดคุย แนะนำยี่ห้อโบท็อก รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ ให้เหมาะกับกับสภาพปัญหาของคนไข้
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
- หลังจากนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทำการฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่ต้องการ โดยเป็นการฉีดไปยังกล้ามเนื้อกรามทั้ง 2 ข้าง ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก
- เมื่อทำการฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว เสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพูดคุยและแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกับคนไข้
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกราม
- ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก งดการนอนราบ และยังไม่ควรทำการประคบเย็น เพราะร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
- ในช่วง 2 วันแรกหลังฉีดโบท็อก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการอยู่หน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการนวดหน้า การจับหรือสัมผัสใบหน้า หรือบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
- หลังฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียว สามารถทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรสัมผัสใบหน้าและบริเวณที่ฉีดโบท็อกลดกรามอย่างเบามือ
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
- หลีกเลี่ยงหรือลดการเคี้ยวอาหารเหนียว อาหารแข็ง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กล้ามเนื้อกรามกลับมาทำงานหนักอีก
ฉีดโบท็อกลดกราม ห้ามกินอะไร
ฉีดโบท็อกลดกราม ห้ามกินอะไรบ้าง ต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ควรงดทานในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว คือ อาหารหมักดอง อาหารไม่สุก อาหารดิบ ๆ เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจเจือปนในอาหารเหล่านี้ค่ะ รวมไปถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้แผลจากเข็มฉีดโบท็อกหายช้า มีอาการบวมช้ำนานกว่าปกติ
นอกจากนี้ หลังจากฉีดโบท็อกลดกรามหรือโบท็อกหน้าเรียว ควรงดการทานอาหารปิ้งย่างที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ ในช่วง 2 วันแรก เพราะจะทำให้ตัวยาสลายตัวไว รวมถึงหลีกเลี่ยงหรืองดการทานอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็ง เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อกรามจะกลับมาใหญ่อีกครั้ง ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามอยู่ได้ไม่นานค่ะ
ทำไมต้องฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวที่ Doctor Mek Clinic
- ดูแลทุกเคสโดยอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังและอาจารย์แพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ โบท็อก ของประเทศไทย
- วิเคราะห์ปัญหาและดีไซน์รูปหน้าแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case)
- “หมอของดารา” โดยได้รับความไว้วางใจจากดาราชื่อดังของประเทศเป็นจำนวนมากในการเข้ารับบริการที่คลินิก
- รางวัลอันดับ 1 คลินิกที่มียอดฉีด Xeomin โบเยอรมันสูงสุดในประเทศไทย 2022
- 1 ใน 10 คลินิกที่มียอดใช้โบพรีเมียมเกาหลี Aestox สูงสุดในระดับประเทศไทย 2020,2021 (Aestox Top Spender Award)
- 1 ใน 3 Single Clinic คลินิกที่มียอดใช้โบอังกฤษ Dysport สูงสุดในประเทศไทยประจำปี 2021, 2022
- Top 3 คลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์อเมริกา Juvederm Allergan สูงสุดในประเทศไทย ปี 2018 และ 2019
- รางวัล Allergan Talent แพทย์ผู้มีพรสวรรค์การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็อกซ์ Allergan อเมริกา
- ใช้โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและองค์การอาหารและยาในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบ Serial Number ได้
- มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการมากที่สุด
- มีการการันตีว่าเห็นผลจริงทุกเคส
- มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง
- ปรึกษาแพทย์ฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สรุป
ฉีดโบท็อกลดกราม อันตรายไหม
การฉีดโบท็อกลดกรามหรือโบท็อกหน้าเรียวไม่เป็นอันตรายค่ะ หากเลือกฉีดในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต ได้มาตรฐาน เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงมีการใช้โบท็อกของแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ในไทยและต่างประเทศ ซึ่งหากเป็นโบท็อกแท้จะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ
โบท็อกลดกรามได้จริงไหม
การฉีดโบท็อกลดกรามได้ไหม ตอบได้เลยค่ะว่า “โบท็อกลดกรามได้จริงและยังปรับหน้าเรียวได้ด้วย” แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี ลดกรามได้จริง หน้าเรียวขึ้น ไม่เกิดภาวะดื้อยา (ฉีดแล้วไม่เห็นผล) จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ เลยนั่นก็คือ ทักษะ, เทคนิค และความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมไปถึงการใช้โบท็อกของแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ในไทยและในต่างประเทศด้วยค่ะ จึงจะทำให้ฉีดโบท็อกลดกรามเห็นผลจริง
นอกจากนี้ ด้วยกลไกการทำงานของตัวยาโบท็อกหรือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่ออกฤทธิ์จับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกรามหยุดการทำงานชั่วคราว ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อกรามเกิดความอ่อนแรงลงหรือหดตัวลง จะทำให้เราไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อกรามได้บ่อยเหมือนตอนก่อนฉีด ส่งผลให้กรามของเราดูเล็กลง รูปหน้าดูเรียวขึ้นค่ะ
ฉีดโบท็อกลดกราม กี่ยูนิต
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวจะใช้ปริมาณยา 50-80 ยูนิตค่ะ ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาว่าในแต่ละเคสต้องฉีดโบท็อกลดกราม กี่ยูนิต ซึ่งพิจารณาจากลักษณะปัญหากล้ามเนื้อกรามของแต่ละเคส ทั้งนี้แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ด้วยตัวเองดีที่สุดค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็คือ ข้อมูลที่สำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวค่ะ หวังว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดีนะคะ และหากใครที่กำลังลังเลหรือมีข้อสงสัยว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวหรือไม่ ยังตัดสินใจไม่ถูก ก็สามารถเข้ามาพูดคุยและรับการประเมินปัญหาเบื้องต้นกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Doctor Mek Clinic ได้เลยค่ะ หรือทักแชทได้โดยการแอดไลน์ LINE : @doctormekclinic เรามีทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำค่ะ
“ปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ ไม่ได้มีแค่โบท็อกนะ”
บางคนอาจเข้าใจว่า การปรับรูปหน้าให้เรียวสวย มีแต่วิธีฉีดโบท็อกลดกรามใหญ่ (ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ) และโบท็อกหน้าเรียวยกกระชับกรอบหน้าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปรับรูปหน้าวีเชฟมีอีกหลายวิธีเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาหน้าไม่เรียวสวย หน้าอ้วน หน้าสั้น ของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น
- ฟิลเลอร์คาง เป็นการใช้สาร Hyaluronic acid ที่สกัดจากธรรมชาติมาช่วยเติมมาปรับแต่งรูปคาง ให้ใบหน้าดูเรียวยาวยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใบหน้าสั้น ไม่สมส่วน ซึ่งเกิดจากคางสั้น คางตัด
- ยกกระชับกรอบหน้าด้วย HIFU และ Ulthera ซึ่งเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ในการสร้างความร้อน และส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ผิวหนังกระชับ ริ้วรอยลดเลือน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ผิวหนังหย่อนคล้อย
- ร้อยไหมมินิเฟสลิฟ ด้วยการใช้ไหมชนิดพิเศษหรือไหมมิ้นท์ (MINT thread) ที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม 360 องศาและมีแรงยึดที่มีมากกว่าไหมทั่วไป ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
- เมโสแฟต เป็นการฉีดเพื่อสลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียง ช่วยปรับรูปหน้าวีเชฟ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมที่แก้มและเหนียง
คำถามพบบ่อย
ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี (อาจารย์หมอเมฆ)
อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์และร้อยไหม