โบท็อก
การฉีดโบท็อก (Botox) นับว่าเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่อยู่คู่กับวงการความงามมานาน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากดูแลตัวเองให้ดูอ่อนเยาว์ อยากลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็ก การฉีดโบท็อกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาทำเพียงไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และยังมีความปลอดภัยสูง หากเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีความชำนาญ
โบท็อก คือ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า “โบท็อก คืออะไร” สำหรับการฉีดโบท็อกเป็นการใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ชนิดที่สกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) โดยสารโบทูลินั่ม ท็อกซินมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่สามารถหดตัวได้ ซึ่งถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์เพื่อใช้รักษาในบางภาวะ เช่น หนังตากระตุก, ตาเข, ปวดศีรษะไมเกรน, ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ เป็นต้น นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกยังถูกนำมาใช้ในเรื่องความงามอย่างแพร่หลาย อย่างการฉีดโบท็อกลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (ยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วบ่อย ๆ), ช่วยยกกระชับผิว หรือแม้กระทั่งใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
โดยทั่วไปแล้ว ชนิดของโบท็อกจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ชนิด (ตั้งแต่ A-G) แต่ชนิดที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาเพื่อความงามจะเป็นชนิด A หรือโบทูลินั่ม ท็อกซินเอ ซึ่งหลังจากฉีดโบท็อกแล้ว จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน 2-3 วัน และออกฤทธิ์ได้นาน 4-8 เดือน* (*ระยะเวลาขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด, ยี่ห้อโบท็อก และการดูแลตัวเอง)
กลไกการทำงานของโบท็อก
เมื่อทำการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เข้าไปยังบริเวณที่จะทำการรักษาแล้ว ตัวยาจะออกฤทธิ์โดยเข้าไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ซึ่งจะไปยับยั้งการหลั่งสารอะซิติลโคลีน (Acetylcholine) ที่กล้ามเนื้อ โดยจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวคลายตัว ไม่สามารถหดตัวกลับไปได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนที่ฉีดโบท็อกเข้าไปมีความนิ่มและเล็กลง ส่วนของผิวหนังก็จะเรียบเนียน กระชับ ริ้วรอยดูลดเลือน
ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังฉีดโบท็อก
ฉีดโบท็อกตำแหน่งไหนได้บ้าง
การฉีดโบท็อก หรือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ นอกจากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ยังเป็นตัวช่วยในแง่ของความงามในด้านอื่น ๆ อาทิ ยกกระชับผิวให้เต่งตึง, ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง, กระชับรูขุมขน, ยกมุมปาก, ลดเหงื่อ รวมไปถึงช่วยรักษาภาวะกล้ามเนื้ออักเสบได้อีกด้วย เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะว่า ตำแหน่งฉีดโบท็อกที่ได้รับความนิยมอยู่บริเวณไหนบ้าง และโบท็อก ช่วยอะไรได้บ้าง
แนะนำ 7 ยี่ห้อโบท็อกตัวดังในไทย
สำหรับยี่ห้อโบท็อกที่ในวงการแพทย์นิยมเลือกใช้จะมีทั้งโบท็อกเกาหลี โบท็อก อเมริกา โบท็อก เยอรมัน โดยโบท็อกของแต่ละประเทศต่างก็มีคุณสมบัติ, ราคา และคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้คนไข้สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญได้ว่าจะเลือกใช้โบท็อก ยี่ห้อไหนดีที่สุด และเหมาะที่สุดสำหรับตัวเรา
เดี๋ยวเราจะไปดูกันว่า ยี่ห้อโบท็อกที่ได้รับความนิยม รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาไทย (อย.) มีอะไรบ้าง และมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรค่ะ
1. Allergan (โบท็อก อเมริกา)
โบท็อก Allergan เป็นโบท็อกสัญชาติอเมริกา และยังเป็นแบรนด์แรกที่ผลิตสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ขึ้นมาใช้และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นโบท็อก อเมริกาที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย รวมถึงมีโอกาสเกิดอาการดื้อโบท็อกได้น้อยที่สุด (เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ)
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงเล็ก ให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดแม่นยำ และอยู่ได้นาน 6-8 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
2. Dysport (โบท็อกจากอังกฤษ)
โบท็อกจากประเทศอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบเร่งด่วน พร้อมลดเลือนริ้วรอยร่องลึก โดยการใช้เทคนิค ABO Active 3D Toxin (อ่านเพิ่มเติม คลิก ABO Active 3D Toxin) นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้เพื่อลดเหงื่อและลดกล้ามเนื้อน่องขาอีกด้วย
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงกว้าง และให้ผลลัพธ์นาน 4-6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
3. Xeomin (โบท็อก เยอรมัน)
จุดเด่นของ Xeomin โบท็อก เยอรมันอยู่ตรงที่ มีการพัฒนานำเอาคุณสมบัติของโบท็อก Allergan และโบท็อก Dysport มาผสานไว้ ทำให้ตัวยามีคุณสมบัติไม่กระจายตัวและไม่กระจุกตัวมากจนเกินไป รวมถึงตัวยายังมีความบริสุทธิ์สูงมาก จึงทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกออกมาสวยเป็นธรรมชาติ และยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการดื้อโบท็อกในระยะยาวได้อีกด้วย
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงแคบ เหมาะสำหรับใช้ในเคสดื้อโบท็อก และให้ผลลัพธ์นาน 4-6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
4. Neuronox (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Neuronox เป็นยี่ห้อที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโบท็อก Allergan (อเมริกา) มากที่สุด และยังมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย แต่ทั้งนี้ยังมีข้อเสียตรงที่ตัวยาออกฤทธิ์ไวและหมดฤทธิ์ไวเช่นเดียวกัน
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงแคบ จึงให้ความแม่นยำที่สูง และให้ผลลัพธ์นาน 4-5 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
5. Nabota (โบท็อกเกาหลี)
Nabota เป็นโบท็อกเกาหลีที่มีค่าความบริสุทธิ์ถึง 98.7% และนิยมนำมาใช้ฉีดเพื่อลดกราม ปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอย ลดกล้ามเนื้อที่แขนและน่องขา นอกจากนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และลดโอกาสในการดื้อโบท็อกในอนาคตได้
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงแคบ ให้ผลลัพธ์นาน 6-8 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
6. Botulax (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Botulax เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อ เช่น บริเวณกรามและน่องขา นอกจากนี้ยังเหมาะกับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และยังมีราคาที่ย่อมเยากว่าโบท็อก อเมริกา ทำให้ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงกว้าง (อาจส่งผลให้มีความแม่นยำน้อย) ให้ผลลัพธ์นาน 4-6 เดือน แต่ทั้งนี้ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้ไวกว่ายี่ห้อ Neuronox
7. Aestox (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Aestox เป็นอีกหนึ่งแบรนด์โบท็อกสุดฮิตในบ้านเรา เนื่องจากมีข้อดีที่โดดเด่นคือ ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับผิว รวมถึงลดเลือนริ้วรอยได้ดี และลดโอกาสการดื้อโบท็อกในอนาคต
คุณสมบัติ : เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวเป็นวงแคบ ให้ความแม่นยำในการฉีด และให้ผลลัพธ์นาน 3-6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
โบท็อก ยี่ห้อไหนดีที่สุด
คนไข้หลายคนยังลังเลและสงสัยว่าจะเลือกโบท็อก ยี่ห้อไหนดี…ในความเป็นจริงแล้ว โบท็อกแต่ละยี่ห้อ แต่ละประเทศ ต่างก็มีคุณสมบัติ คุณภาพ และราคาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ต้องเลือกโบท็อกที่เหมาะกับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละราย ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ที่ต้องการลดกราม ปรับรูปหน้า แนะนำเป็นโบท็อกเกาหลี ส่วนผู้ที่อยากลดเลือนริ้วรอย จะแนะนำเป็นโบท็อก อเมริกา หรือโบท็อก Allergan และผู้ที่ต้องการกระชับผิว ลิฟกรอบหน้าให้ชัดสวย แนะนำเป็นโบท็อก Dysport
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้คนไข้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์และรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ
ฉีดโบท็อก รีวิวจากคนไข้จริง
ส่วนหนึ่งของความประทับใจจากคนไข้ที่เข้ารับบริการฉีดโบท็อกที่ Doctor Mek Clinic ซึ่งหลายท่านพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างมาก ทำแล้วเห็นผลจริง บวมช้ำน้อย รวมถึงความประทับใจที่มีต่อคุณหมอและการบริการจากคลินิกค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ก่อนฉีดโบท็อก 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดโบท็อก
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีดโบท็อก
ขั้นตอนการฉีดโบท็อก
- คนไข้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวิเคราะห์ / ประเมินปัญหา
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพูดคุยและแนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะกับความต้องการ และเหมาะกับสภาพปัญหาของคนไข้มากที่สุด
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีดโบท็อก จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
- หลังจากนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทำการฉีดโบท็อกในตำแหน่งที่ต้องการ โดยเป็นการฉีดลงบนกล้ามเนื้อด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก
- เมื่อทำการฉีดโบท็อกเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพูดคุยและแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกับคนไข้
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
- ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก งดการนอนราบ และยังไม่ควรทำการประคบเย็น เพราะร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
- ในช่วง 2 วันแรกหลังฉีดโบท็อก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการอยู่หน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการนวดหน้า การจับหรือสัมผัสใบหน้า หรือบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น หน้าตึงผิดปกติ หรือหางคิ้วยกสูงผิดรูป เป็นต้น
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
- ในช่วงหลังฉีดโบท็อก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ริ้วรอยกลับมาได้เร็วกว่าปกติ
โบท็อกปลอม อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความต้องการที่สูงขึ้น ทำให้เกิดเป็นธุรกิจแอบแฝงมานั่นก็คือ “โบท็อกปลอม” ซึ่งแพร่ระบาดหนักมาก นับว่าเป็นอันตรายที่แอบแฝงตัวมา ด้วยราคาที่ถูกจนน่าตกใจ และยังหาซื้อง่ายตามอินเตอร์เน็ต หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นโบท็อกหิ้ว ซึ่งเป็นโบท็อกที่แอบลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ตัวยาไม่ได้มาตรฐาน
อันตรายจากโบท็อกปลอม
การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากแพทย์ และผลิตภัณฑ์โบท็อกที่ใช้ยังต้องเป็นต้องแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานอีกด้วย เนื่องจากใบหน้าของเราเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทและเส้นเลือด ดังนั้น หากเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ขาดทักษะ รวมถึงใช้โบท็อกปลอม แน่นอนว่าย่อมมีโอกาสสูงที่จะเกิดอันตรายกับร่างกายได้ เช่น
- บางกรณีเกิดอาการปากเบี้ยว หนังตาตก หนังตาแข็ง
- บางกรณีฉีดโบท็อกไปแล้วไม่เห็นผล
- บางกรณีเกิดอาการแพ้จากสารโบท็อกปลอม
- บางกรณีฉีดโบท็อกแล้ว ตัวยากระจายไปยังหลอดลม ทำให้หายใจไม่สะดวก ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หรือบางกรณี ตัวยากระจายไปยังหลอดอาหาร มีผลทำให้กลืนอาหารและน้ำได้ลำบาก
- บางกรณีฉีดโบท็อกไปแล้วเกิดอาการดื้อยา (ดื้อโบท็อก)
อาการดื้อโบท็อก ผลพวงจากโบท็อกปลอม
สำหรับอาการดื้อโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “อาการดื้อโบท็อก” คือ ภาวะที่ร่างกายของเราไม่มีการตอบสนองต่อการฉีดโบท็อก หรือฉีดไปแล้วไม่เห็นผลเหมือนเดิมนั่นเองค่ะ เช่น บางท่านฉีดโบท็อกครั้งแรกไป จากที่เคยเห็นผลนานหลายเดือน แต่พอกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำผลลัพธ์อยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน หรือบางกรณีรู้สึกว่าไม่เห็นผลก็มี โดยอาการดื้อโบท็อกเหล่านี้ก็มาจากการที่ใช้โบท็อกปลอม และการฉีดโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อฉีดโบท็อกซ้ำ ๆ บ่อยขึ้น ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้มากขึ้น และไปทำลายโบท็อกที่ฉีดเข้าไปจนหมด ส่งผลให้ฉีดเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผลอีกต่อไป
ดูวิดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการดื้อโบท็อก คลิก
วิธีเช็กโบท็อกแท้
- โบท็อกของแท้จะมี Serial Number รวมถึงข้อมูลอย่างละเอียดอยู่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ โดยคนไข้สามารถขอตรวจสอบก่อนฉีดโบท็อกได้
- โบท็อกแท้ทุกกล่องจะมีการลงทะเบียนเลขกำกับที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. ทั้งในไทยและต่างประเทศ
- หากเป็นคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะมีการนำกล่องผลิตภัณฑ์ให้คนไข้ได้ตรวจสอบ
- แนะนำให้สังเกตบริเวณขวดยาและฉลากของผลิตภัณฑ์ จะต้องไม่มีสีเพี้ยน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อก
โบท็อก อันตรายไหม
การฉีดโบท็อกไม่อันตราย หากฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากบริเวณใบหน้าจะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดที่สำคัญ จึงต้องอาศัยทักษะในการฉีดโบท็อกจากแพทย์ที่มีความชำนาญ รวมไปถึงเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกของแท้เท่านั้น
ฉีดโบท็อก เจ็บไหม
การฉีดโบท็อก เจ็บไหม เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่พบบ่อยค่ะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ใช้เพียงเข็มเล็ก ๆ เท่านั้น จะรู้สึกเหมือนมดกัด และนอกจากนี้ยังมีการแปะยาชาก่อนการทำ ซึ่งเป็นวิธีระงับความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดโบท็อกได้ค่ะ
ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ฉีดโบท็อก อยู่ได้กี่เดือน
ระยะเวลาที่ตัวยาจะออกฤทธิ์และเริ่มเห็นผลได้นั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่เลือกฉีดโบท็อกค่ะ
- บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และหางตา จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 3-7 วัน
- บริเวณฉีดลดกราม จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 1-2 สัปดาห์
- บริเวณกรอบหน้า เหนียง และลำคอ จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 1-2 สัปดาห์
- บริเวณน่องขา จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 4-6 สัปดาห์
สำหรับคำถาม “ฉีดโบท็อก อยู่ได้นานกี่เดือน” ซึ่งระยะเวลาของผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกนั้น อาจมีความแตกต่างกันไป และโดยเฉลี่ยแล้วจะให้ผลลัพธ์นาน 3-6 เดือน ทั้งนี้หากเราอยากให้ผลลัพธ์อยู่กับเราไปได้นาน ๆ ก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ
ฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่
การฉีดโบท็อก ราคาจะมีความแตกต่างกันไปค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณสภาพปัญหาผิวพรรณ, บริเวณที่ทำการฉีดโบท็อก, ปริมาณตัวยาที่ใช้ รวมไปถึงยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาเลือกใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดโบท็อกร่วมด้วย ดังนั้น แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินอย่างละเอียดค่ะ นอกจากนี้ทางคลินิกยังจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งคนไข้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามช่องทางการติดต่อของคลินิกได้เลยค่ะ
ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี
- เลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีประสบการณ์สูงในการฉีดโบท็อก
- เลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต และเลือกใช้แต่โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและต่างประเทศ (สามารถให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้)
- เลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีรีวิวจากคนไข้จริง และมีรีวิวให้เลือกดูเยอะ
ทำไมใคร ๆ ถึงเลือกฉีดโบท็อกที่ Doctor Mek Clinic
- ดูแลทุกเคสโดยอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังและอาจารย์แพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์ โบท็อก ของประเทศไทย
- วิเคราะห์ปัญหาและดีไซน์รูปหน้าแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case)
- “หมอของดารา” โดยได้รับความไว้วางใจจากดาราชื่อดังของประเทศเป็นจำนวนมากในการเข้ารับบริการที่คลินิก
- รางวัลเป็นคลินิกที่มียอดใช้โบพรีเมียมเกาหลี Aestox สูงระดับประเทศ 2020,2021 (Aestox Top Spender Award)
- รางวัลคลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์อเมริกา Juvederm Allergan สูงสุดในประเทศไทย ปี 2018
- รางวัล Allergan Talent แพทย์ผู้มีพรสวรรค์การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็อกซ์ Allergan อเมริกา
- ใช้โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและองค์การอาหารและยาในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบ Serial Number ได้
- มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการมากที่สุด
- มีการการันตีว่าเห็นผลจริงทุกเคส
- มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง