ปัญหาการยุบตัวลงของโครงหน้าโดยเฉพาะบริเวณขมับ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแข็ง ไม่ละมุนและยังทำให้ดูโทรมดูมีอายุขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงเข้ามาเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับโหล ขมับลึก ปรับให้ดูละมุนขึ้นเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องไปผ่าตัดศัลยกรรมปรับรูปหน้าอีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่สำหรับใครที่สนใจหัตถการฟิลเลอร์ขมับแต่ไม่รู้จะเริ่มศึกษาตรงไหนก่อนดี หรือฉีดยี่ห้อไหนดี เราได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้วค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ (Temporal filler)คือการนำสารประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA มาฉีดเข้าสู่ผิวบริเวณขมับ เพื่อแก้ไขปัญหาขมับเป็นแอ่ง ขมับตอบ ขมับลึก ซึ่งการฉีดก็จะช่วยให้เนื้อผิวช่วงขมับดูอิ่มขึ้น ผิวเรียบเนียนเต่งตึง มีความชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง และลดริ้วรอยบริเวณหางตา พร้อมทั้งช่วยปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วนที่ดีขึ้นหรือปรับโหงวเฮ้งใบหน้าตามความเชื่อโบราณ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ได้รับการยอมรับจากแพทย์ความทั่วโลกในเรื่องของความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ส่วนใหญ่มักเกิดได้จากสาเหตุการยุบตัวของกระดูกหรือการฝ่อตัวของไขมันบริเวณขมับ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อมีอายุมากขึ้น ช่วงอายุประมาณ 30 ขึ้นไปใบหน้าตามจุดต่าง ๆ จะดูตอบลง เห็นโหนกแก้มเด่นชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส หรือดูแข็งกระด้าง นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากน้ำหนักตัวที่ลดลงหรือการจัดฟันอีกด้วยค่ะ
สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับหลักของโหงวเฮ้งนั้น ในปัจจุบันเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนทำให้การเสริมความงามโดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์นับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะมาทำให้โหงวเฮ้งดีขึ้นได้ ซึ่งตามความเชื่อนั้นบริเวณขมับเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่บ่งบอกลักษณะนิสัยและการทำนายเกี่ยวกับวาสนาโชคลาภ หากผู้ใดที่มีขมับที่อิ่มเอิบ ไม่มีรอยยุบรอยบุ๋ม ดูนูนสวยรับกับไรผมและกรอบหน้า จะเป็นผู้ที่อยู่ดีมีสุข ได้รับการเอาใจใส่จากคนรอบข้างและคนรักค่ะ
ลักษณะเด่นที่สังเกตได้ของโหงวเฮ้งขมับที่ดีตามความเชื่อโบราณคือ ขมับที่มีความอิ่มฟู เนื้อเต็มเข้ารับกับแนวไรผมและหน้าผากได้อย่างสมดุล รวมถึงบริเวณหางตาเรียบเนียนไปกับผิวไร้ริ้วรอย ซึ่งขมับในลักษณะนี้ก็จะช่วยเสริมในเรื่องของชีวิตคู่ราบรื่น สมบูรณ์ค่ะ ดังนั้นหลายคนจึงต้องการเข้ามาเติมเต็มขมับเพื่อปรับโหงวเฮ้งตามความเชื่อเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ช่วยเติมวอลลุ่มให้ผิวบริเวณที่ซูบตอบกลับมาอิ่มฟู ช่วยแก้ไขปัญหาขมับยุบ ขมับบุ๋ม เป็นแอ่งเว้าที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูแก่ก่อนวัย และยังช่วยปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้อีกด้วย เป็นหัตถการที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หลังทำแล้วจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนวัย มีมิติ และยังมีผลช่วยให้ริ้วรอยที่หางตาหรือรอยตีนกาลดเลือนได้อีกด้วย รวมถึงช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาชุ่มชื่น สุขภาพดี บริเวณขมับมีความเต่งตึงกระชับยิ่งขึ้นค่ะ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ จากผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการกับทางคลินิก หลังทำจะเห็นว่าบริเวณขมับจากทีแรกที่เคยมีการยุบตัวก็ดูอิ่มฟูขึ้นเข้ากับสัดส่วนของโครงหน้า จนทำให้ผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจและหลายคนประทับใจกับบริการนี้เป็นอย่างมากค่ะ *ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล*
ดูรีวิวเพิ่มเติม คลิกเลย!อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีกว่าการเติมไขมันค่ะ เนื่องจากบริเวณขมับต้องมีความระมัดระวังสูง และหากผลลัพธ์ไม่ตรงใจก็สามารถฉีดสลายได้เลย
สำหรับแบรนด์นี้จะเป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสวีเดน โดยรุ่นที่แนะนำสำหรับใช้ฉีดที่ขมับก็คือ รุ่น Restylane Volyme ซึ่งตัวเนื้อชนิดนี้มีความนิ่มในระดับนึง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มขมับให้ดูฟูขึ้น อยู่ได้นาน 18 เดือน
เป็นแบรนด์สารเติมเต็มใบหน้าที่นำเข้าจากอเมริกา ถูกนำมาใช้เป็นวงกว้างในการเติมขมับ ซึ่งรุ่นที่แนะนำให้ฉีดบริเวณขมับเพื่อเพิ่มวอลลุ่มก็จะเป็นรุ่น Juvederm Ultra , Juvederm Ultra Plus , Juvederm Voluma ทั้ง 3 รุ่นนี้จะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี
ต่อมาเป็นแบรนด์สารเติมเต็มที่นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมนำมาใช้บริเวณขมับก็คือ Belotero Volume กล่องสีม่วง เพราะเป็นรุ่นที่มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง แก้ไขตำแหน่งใบหน้าตอบได้ดี ซึ่งให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
อีกหนึ่งแบรนด์ของสารเติมเต็มที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี มาพร้อมประสิทธิภาพในการเติมเต็มผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างดีเยี่ยม แต่มาในราคาที่เป็นมิตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มร่องขมับ แก้ปัญหาขมับยุบ ได้แก่รุ่น Neuramis Deep ไม่ผสมยาชา , Neuramis Deep Lidocaine และ Neuramis Volume Lidocaine
สำหรับแบรนด์นี้เป็นสารเติมเต็มที่นำเข้าจากเกาหลีและนิยมใช้ในบ้านเราเป็นอย่างมาก มีออกมาให้เลือกใช้หลากหลายรุ่น โดยรุ่นที่แนะนำและเหมาะกับการฉีดที่บริเวณขมับ คือ รุ่น Volume Plus กล่องสีม่วง ที่สามารถเติมวอลลุ่มพร้อมกับแก้ปัญหาร่องต่าง ๆ บนใบหน้า และยังช่วยเรื่องริ้วรอยได้ด้วยค่ะ
ต่อกันที่แบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีเช่นเดียวกัน มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ได้สารเติมเต็มที่ประสิทธิภาพสูง ออกแบบมาหลากหลายโมเลกุลเพื่อการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณ โดยรุ่นที่นิยมนำมาเติมเต็มที่ขมับ ได้แก่ รุ่น S100 ที่มีคุณสมบัติเนื้อเจลละเอียด มีความบางเบา แต่ยึดเกาะและยืดหยุ่นได้ดี เกลี่ยหรือเบลนไปกับผิวได้อย่างง่าย ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ผิวเรียบเนียนมีความเป็นธรรมชาติ
แบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่มาแรงมาก! สำหรับรีโวแลกซ์ที่เป็นสารเติมเต็มอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษ ซึ่งเหล่าเซเลบชื่อดังในฝั่งยุโรปต่างก็ชื่นชอบ ทำให้เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราค่ะ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัว ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีความบริสุทธิ์ เข้ากันได้ดีกับร่างกาย รวมถึงให้ผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานสูงสุดถึง 18 เดือนเลยทีเดียวค่ะ
อีกหนึ่งน้องใหม่ของวงการฟิลเลอร์ที่ห้ามพลาด กับ Teoxane ด้วยกระบวนการผลิตที่เฉพาะตัว ได้สารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นได้สูง มีความบริสุทธิ์ ปลอดภัยต่อร่างกาย ออกแบบมาหลากหลายโมเลกุล เพื่อรองรับการใช้งานในการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล และยังช่วยเติมวอลลุ่มให้ผิวดูสวยเป็นธรรมชาติ เติมขมับให้อิ่มเอิบ ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน เพราะตัวสารเติมเต็มมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น
อัตราค่าบริการ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคาของแต่ละคนจะมีราคาที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการประเมินปัญหาของแพทย์ การเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์รวมไปถึงปริมาณที่ฉีดเข้าไปดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นที่จำต้องวางแผนการรักษากันแบบ case by case แต่ที่ Doctor Mek Clinic ราคาฟิลเลอร์ขมับ เริ่มต้นที่ 9900 บาท* เท่านั้นค่ะ สามารถเข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นได้เลยค่ะ
รับโปรโมชั่นพิเศษ คลิกเลย!จากภาพเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลังเข้ารับบริการฉีด Filler ขมับ โดยจะเห็นได้ว่าก่อนทำนั้นคนไข้มีปัญหาขมับยุบตอบ ทำให้ใบหน้าขาดวอลลุ่ม ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ขาดมิติ แต่หลังจากฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาแล้วจะเห็นว่าขมับอิ่มเอิบขึ้น ใบหน้าดูได้รูปสวยขึ้น
รวมความประทับใจของคนไข้ที่เข้ารับบริการฟิลเลอร์ขมับที่ Doctor Mek Clinic กับอาจารย์หมอเมฆและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยคนไข้ล้วนรู้สึกพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด บริเวณขมับถูกเติมเต็มยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ รวมถึงความประทับใจที่มีต่อคุณหมอและการบริการจากทางคลินิกค่ะ
หลังการฉีดสารเติมเต็มขมับอาจทำให้เกิดรอยเข็ม รอยแดง อาการบวม ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้และไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด โดยอาการเหล่านี้มักจะหายไปได้เองในสัปดาห์แรกหลังฉีด และแนะนำให้คนไข้ใช้วิธีการประคบเย็นเพื่อลดความบวมช้ำ อาการแดง รวมถึงรับประทานยาที่แพทย์สั่งได้เพื่อบรรเทาอาการค่ะ แต่ทั้งนี้ หากสังเกตได้ว่าเกิดอาการดังกล่าวยังไม่ดีขึ้นและมีทีท่าว่าจะรุนแรงกว่าเดิม ซึ่งอาจเกิดได้จากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือการใช้สารเติมเต็มของปลอม ยาหิ้ว ซึ่งวิธีแก้ไขนั้นแนะนำให้คนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และทำการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือการเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ประจำคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ขมับหรือชำนาญในด้านการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ สามารถเลือกชนิดให้ตรงตามตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผิวและร่างกายของเราค่ะ สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาปัญหาด้านความงามหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถทักมาได้ที่ช่องทางการติดต่อของ Doctor Mek Clinic ได้เลยค่ะ ยินดีให้บริการปรึกษากับทีมแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
การแก้ไขด้วยฟิลเลอร์จะเป็นการเข้าไปเติมเต็มและแก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น ดังนั้นปริมาณของฟิลเลอร์ที่แพทย์ส่วนใหญ่ใช้เติมเต็มให้กับคนไข้อยู่ที่ 1-2 cc แต่บางรายอาจใช้มากถึง 5 cc อยู่ที่ระดับความลึกของตำแหน่งที่ฉีด
หลายคนมีคำถามว่าฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ขอบอกตรงนี้เลยว่าส่วนมากอันตรายจากฟิลเลอร์มักจะขึ้นอยู่ปัจจัยเหล่านี้ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับมีความปลอดภัยอย่างแน่นอนหากอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ให้กับคนไข้ค่ะ ดังนั้นการเลือกคลินิกเสริมความงามจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรศึกษามาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ขมับเป็นบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกดังนั้นคนไข้อาจรู้สึกได้ถึงความเจ็บในระดับเล็กน้อย หรืออยู่ในระดับที่สามารถทนได้ค่ะ เนื่องจากก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา อีกทั้งตัวฟิลเลอร์บางชนิดก็ยังมีการผสมยาชารวมอยู่ด้วยจึงช่วยบรรเทาความเจ็บให้ลดลงไปนั่นเองค่ะ
ก่อนอื่นต้องชี้แจงก่อนว่าอาการบวมหลังฉีด มันสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติค่ะ ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ซึ่งหลังจากที่ฉีดไปแล้วประมาณ 3-4 วันอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง และจะหายขาดโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ค่ะ ถ้าคนไข้อยากให้อาการเหล่านั้นหายเร็วขึ้นสามารถใช้การประคบเย็นหรือทำตามคำแนะนำของแพทย์และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการบวม เช่น การนวด การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยโซเดียม เป็นต้น
คนไข้จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ รูปหน้าบริเวณขมับจากที่เคยยุบลงไปก็จะดูฟูขึ้น ทำให้ใบหน้ามีรูปทรงที่ได้สัดส่วน แต่บางรายอาจมีอาการบวมรวมอยู่ด้วยซึ่งอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยยกหางตาตรงบริเวณที่ใกล้เคียงกับขมับให้ดูกระชับ เต่งตึงขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตา หรือที่หลายคนเรียกกันว่าตีนกาให้ดูจางลงด้วยค่ะ
ช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์แรก แนะนำให้นอนหงานก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับค่ะ แต่หากว่านอนลงไปแล้วไม่ได้รู้สึกกดทับในตำแหน่งที่ฉีดก็สามารถนอนได้ค่ะ
มีหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ปวดหัวจริงไหม แล้วอันตรายหรือเปล่า ขอตอบตรงนี้เลยค่ะว่าอาการบวมหัวหลังจากได้รับสารเติมเต็มเข้าไปสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ อย่างที่ทราบกันดีว่าบริเวณขมับเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึก อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทมากมาย หลังทำจึงอาจเกิดอาการบวมที่ศีรษะเล็กน้อย ซึ่งมันจะหายไปอีกภายใน 1-2วัน ไม่เป็นอันตรายค่ะ
กรณีที่คนไข้มีสิวขึ้นบริเวณขมับและต้องการฉีดสารเติมเต็ม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะยังไม่แนะนำให้เข้ารับบริการค่ะ ทั้งนี้ ควรรอให้สิวยุบหรือหายดีเสียก่อนจึงจะทำการฉีดสารเติมเต็มได้ เพื่อป้องกันภาวะการติดเชื้อและการอักเสบของผิวค่ะ
สำหรับการฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ จะส่งผลให้ริ้วรอยที่หางตาหรือรอยตีนกาลดเลือนลง ผิวบริเวณขมับมีความเต่งตึงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้บริเวณหางตากระชับขึ้นได้ด้วย แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ โดยหากคนไข้มีปัญหาเรื่องหางตาตก สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวางแผนการรักษาด้วยเทคนิคอื่นควบคู่กันไป เพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและครอบคลุมมากที่สุดค่ะ
หลังฉีดสารเติมเต็มเพื่อลดเลือนริ้วรอยและเติมวอลลุ่มบริเวณขมับแล้ว จะให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนาน 12-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดหรือยี่ห้อของสารเติมเต็มที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละบุคคลค่ะ โดยแนะนำให้คนไข้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อคงให้ประสิทธิภาพของผลลัพธ์อยู่ได้นานเป็นปกติ ไม่สลายตัวเร็วนั่นเองค่ะ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
