โบท็อกไมเกรน

ฉีดโบท็อกไมเกรน

ในปัจจุบัน การรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งยังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบว่า การฉีดโบท็อกไมเกรนจะสามารถรักษาอาการดังกล่าวได้ เพราะเข้าใจว่าโบท็อกช่วยในเรื่องความสวยงามเพียงเท่านั้น วันนี้ใครที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรนแบบเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรนอยู่ Doctor Mek Clinic เราได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจทั้งหมดไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

โบท็อกไมเกรน คืออะไร

ฉีดโบท็อกไมเกรน คือ การป้องกันและรักษาคนไข้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน ด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรนเพื่อคลายกล้ามเนื้อ และยับยั้งปลายประสาทที่เป็นตัวส่งสัญญาณทำให้เกิดความเจ็บปวดไปยังสมอง จึงช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ ทำให้คนไข้บางรายไม่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวด ถือว่าเป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่มีต่อกระเพาะอาหาร, ตับ และไต จากการใช้ยามากเกินไปค่ะ
โดยในปี 2010 สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US. FDA) รวมถึงได้รับรองจากองค์กรอาหารและยาของไทย (อย.) ให้ใช้สำหรับป้องกันและรักษาโรคปวดศีรษะไมเกรน ซึ่งตัวยาโบท็อกจะช่วยลดอาการปวดและความถี่ของอาการได้ถึง 60-70% ค่ะ

โบท็อกไมเกรน ฉีดตรงไหน

การฉีดโบท็อกไมเกรน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาฉีดที่บริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, ต้นคอ, ท้ายทอย และบริเวณบ่า โดยจะกระจายตำแหน่งการฉีดที่เหมาะสมประมาณ 31-39 จุด

หลังจากฉีดโบท็อกไมเกรน ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน และออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ใน 14 วัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฉีดโบท็อกไมเกรน โดยเว้นระยะห่างประมาณ 12 สัปดาห์ (3 เดือน) นอกจากนี้จะมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง หากอาการปวดหัวไมเกรนดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาให้สามารถหยุดการใช้โบท็อกได้ค่ะ

มาสังเกตกัน! ปวดหัวไมเกรน อาการเป็นอย่างไร

ปวดหัวไมเกรน คือ อาการปวดศีรษะแบบชนิดเรื้อรังซึ่งถือว่าเป็นโรคทางประสาทวิทยาชนิดหนึ่ง ทำให้คนไข้รู้สึกปวดศีรษะแบบรุนแรงเป็นจังหวะ โดยอาจเกิดขึ้นครั้งละนาน ๆ หลายชั่วโมง หรือบางรายอาจเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบข้ามวันข้ามคืนตั้งแต่ 4-72 ชั่วโมงเลยก็มีค่ะ นอกจากอาการปวดศีรษะแล้ว ส่วนใหญ่มักจะมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ร่วมด้วย เดี๋ยวเรามาดูกันว่า อาการปวดศีรษะไมเกรน อาการมีอะไรบ้าง

  • ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดข้างใดข้างหนึ่ง
  • ปวดศีรษะตุบ ๆ เป็นจังหวะบริเวณขมับและอาจปวดลามมายังบริเวณกระบอกตา หรือท้ายทอย
  • มีอาการไวต่อเร้าต่าง ๆ เช่น สู้แสงจ้าไม่ได้ รวมถึงที่ที่มีเสียงดัง
  • ปวดศีรษะจนอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงเบื่ออาหาร
  • มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

โดยผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน มักมีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดไมเกรน เช่น อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน, เจอแสงแดดหรือแสงไฟสว่างจ้า, อากาศร้อนหรืออยู่ในที่เย็นจัด, ความเครียด, อดนอน หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มีส่วนผสมของชีส ช็อกโกแลต หรือผงชูรส, กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นหอมฉุน, รวมไปถึงจากภาวะอาการออฟฟิศซินโดรม (ปวดคอ บ่า ไหล่)

โบท็อกไมเกรน เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้ต้องหยุดเรียนหรือหยุดงานบ่อย ๆ
  • ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรังประมาณ 15 วันต่อเดือน และปวดมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อครั้ง
  • ผู้ที่เคยรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่ดีขึ้น หรือไม่อยากใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป
โบท็อกไมเกรน เหมาะกับใคร

โบท็อกไมเกรน ต้องฉีดกี่ครั้ง

จุดประสงค์ของการฉีดโบท็อกไมเกรนเพื่อลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะไมเกรน โดยจะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ สำหรับบางกรณี คนไข้อาจต้องเข้ารับการฉีดโบท็อกไมเกรนมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของตัวยาโบท็อกของคนไข้แต่ละราย รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งควรทิ้งระยะห่างในการฉีดโบท็อกไมเกรนแต่ละครั้งประมาณ 3 เดือน หรือทุก ๆ 12 สัปดาห์ เพื่อเป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างต่อเนื่องค่ะ

ฉีดโบท็อกไมเกรน ยี่ห้อไหนดี

สำหรับการฉีดโบท็อกไมเกรนสามารถเลือกใช้ได้หลากยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทยและต่างประเทศ อาทิ โบท็อกเกาหลียี่ห้อ Nabota, Botulax และ Aestox , โบท็อกจากอังกฤษ Dysport หรือจะเป็นโบท็อกเยอรมันยี่ห้อ Xeomin หรือโบท็อก อเมริกายอดฮิต Allergan โดยแต่ละยี่ห้อต่างก็มีคุณสมบัติการกระจายตัวของยา, ระยะเวลาของผลลัพธ์ และราคาที่แตกต่างกันออกไป (ราคาโบท็อกเกาหลีสบายกระเป๋ากว่า) ทั้งนี้ คนไข้สามารถพูดคุยสอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ค่ะ ทั้งนี้แพทย์จะแนะนำยี่ห้อโบท็อกไมเกรนตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายรวมถึงตามความพึงพอใจของคนไข้ค่ะ

โบท็อกไมเกรน ราคาเท่าไหร่

สำหรับการฉีดโบท็อกไมเกรนที่ Doctor Mek Clinic ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4,999 บาท* ทั้งนี้การฉีดโบท็อกไมเกรนอาจมีราคาที่แตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้และปริมาณตัวยาที่ใช้ ดั้งนั้น เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ครอบคลุม และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดค่ะ

ฉีดโบท็อกไมเกรน ที่ไหนดี

การฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยทักษะเกี่ยวกับหลักกายวิภาคศาสตร์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการฉีดโบท็อกไมเกรนอาจมีความแตกต่างจากโบท็อกเพื่อความงามอื่น ๆ ทั้งในแง่ของการกำหนดตำแหน่งที่จะฉีดอย่างถูกต้อง, การกำหนดปริมาณโบท็อกที่เหมาะสม รวมถึงเทคนิคการฉีดโบท็อกไมเกรน ซึ่งแน่นอนว่า ปัจจัยในการเลือกฉีดโบท็อกไมเกรน ที่ไหนดี เราควรคำนึงถึงผลลัพธ์และความปลอดภัยมาเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต้องพิจารณาจากความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมไปถึงมาตรฐานความปลอดภัยอื่น ๆ ทั้งในเรื่องของคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังต้องเลือกใช้โบท็อกของแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและต่างประเทศ ซึ่งคลินิกนั้น ๆ ต้องให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกไมเกรน

  • เข้ารับการปรึกษา ซักประวัติ และตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
  • ก่อนฉีดโบท็อกไมเกรน 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุดและเกิดอาการฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่เป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงการทำทรีทเม้นท์ ทำเลเซอร์ผิว หรือสครับผิว ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกประมาณ 2-3 วัน
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดโบท็อก
  • หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีดโบท็อก

ขั้นตอนฉีดโบท็อกไมเกรน

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพูดคุยและแนะนำยี่ห้อโบท็อก รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ให้เหมาะกับคนไข้
  • จากนั้น ทำการกำหนดจุดที่จะทำการฉีดโบท็อกไมเกรน
  • ขั้นตอนต่อมา เป็นการทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ จากนั้นทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีดโบท็อกไมเกรน จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มทำการฉีดโบท็อกบริเวณที่ได้กำหนดจุดไว้ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก
  • เมื่อทำการฉีดโบท็อกไมเกรนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพูดคุยและแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกับคนไข้

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไมเกรน

  • 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกไมเกรน งดออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวบริเวณศีรษะและลำคออย่างแรง
  • 1-2 วันหลังฉีดโบท็อกไมเกรน งดการทำสีผม หรือการใช้สารเคมีอื่น ๆ บนศีรษะ
  • หลังฉีดโบท็อกไมเกรน 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
  • ในช่วง 2 วันแรกหลังฉีดโบท็อกไมเกรน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก ๆ และต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อกไมเกรน งดจับบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อกไมเกรน งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
  • พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน โดยการหลีกเลี่ยงความเครียด, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และทานตรงเวลา, ดื่มน้ำเยอะ ๆ, งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, อยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท, ไม่อยู่ในที่มีแดดจ้าและในที่ที่มีเสียงดัง รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไมเกรน

เรื่องโบท็อกต้องยกให้ Doctor Mek Clinic

  • ดูแลทุกเคสโดยอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังและอาจารย์แพทย์ผู้สอนโบท็อกของประเทศไทย พร้อมประสบการณ์ด้านความงามมากกว่า 10 ปี
  • วิเคราะห์ปัญหาด้วยหลักกายวิภาคศาสตร์ก่อนฉีดโบท็อกแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case) เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและมีความปลอดภัย
  • แพทย์ให้เวลาและใส่ใจในรายละเอียดกับคนไข้ทุกเคสอย่างเต็มที่ ไม่เร่งเคส
  • “หมอของดารา” โดยได้รับความไว้วางใจจากดาราชื่อดังของประเทศเป็นจำนวนมากในการเข้ารับบริการที่คลินิก
  • รางวัลอันดับ 1 คลินิกที่มียอดฉีด Xeomin โบเยอรมันสูงสุดในประเทศไทย 2022
  • 1 ใน 10 คลินิกที่มียอดใช้โบพรีเมียมเกาหลี Aestox สูงสุดในระดับประเทศไทย 2020,2021 (Aestox Top Spender Award)
  • 1 ใน 3 Single Clinic คลินิกที่มียอดใช้โบอังกฤษ Dysport สูงสุดในประเทศไทยประจำปี 2021, 2022
  • Top 3 คลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์อเมริกา Juvederm Allergan สูงสุดในประเทศไทย ปี 2018 และ 2019
  • รางวัล Allergan Talent แพทย์ผู้มีพรสวรรค์การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็
  • อกซ์ Allergan อเมริกา
    ใช้โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและองค์การอาหารและยาในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบ Serial Number ได้
  • ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จำนวนมาก คิวแน่นทุกวัน และมีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการมากที่สุด
  • มีการการันตีว่าเห็นผลจริงทุกเคส
  • มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง
  • พร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย

การฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการป้องกันและรักษาอาการปวดหัวไมเกรน เหมาะสำหรับผู้ที่รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่เห็นผล หรืออยากหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด ซึ่งหากรับประทานยาในปริมาณมากและสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบกับอวัยวะสำคัญอย่างกระเพาะอาหาร ตับ และไต โดยหลังการรักษาด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรน จะทำให้คนไข้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นและเต็มที่ ซึ่งส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้นค่ะ สำหรับใครที่สนใจการฉีดโบท็อกไมเกรน สามารถเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือพูดคุยสอบถามโดยการแอดไลน์ LINE : @doctormekclinic ค่ะ

สรุป

ฉีดโบท็อกไมเกรน ใช้กี่ยูนิต 

ในการฉีดโบท็อกไมเกรนจะใช้ปริมาณตัวยาประมาณ 100-150 ยูนิต โดยจะเป็นการฉีดกระจายตามจุดต่าง ๆ ทั้งบริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, ต้นคอ, ท้ายทอย และบ่า ซึ่งเป็นบริเวณครอบคลุมในตำแหน่ง Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ ซึ่งเป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่มีความไวต่อแรงกด เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อในตำแหน่งซ้ำ ๆ และเป็นที่เดิม ๆ โดยการฉีดโบท็อกไมเกรนจะช่วยคลายมัดกล้ามเนื้อตามตำแหน่งต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ส่งผลให้ความรุนแรงอาการปวดหัวไมเกรนลดลงค่ะ และเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน หรือทำให้อาการเกิดอาการปวดหัวไมเกรนเว้นระยะห่างออกไปค่ะ

โบท็อกไมเกรน อันตรายไหม 

การป้องกันและรักษาอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีการฉีดโบท็อกไมเกรน ได้รับการรับรองในเรื่องผลลัพธ์และความปลอดภัยจากองค์กรอาหารและยาทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาค่ะ ซึ่งเป็นวิธีทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมและทำการรักษากันอย่างแพร่หลาย แต่ทั้งนี้ การฉีดโบท็อกไมเกรน จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกเท่านั้นนะคะ เนื่องจากบริเวณที่ทำการฉีดโบท็อกไมเกรน จำเป็นต้องอาศัยทักษะด้านกายวิภาคศาสตร์ รวมถึงเทคนิคการฉีดโบท็อกไมเกรนโดยเฉพาะ จึงจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย รวมไปถึงการเลือกใช้โบท็อกของแท้เท่านั้น ซึ่งตัวยาจะสามารถสลายไปได้เองตามระยะเวลาการออกฤทธิ์ของตัวยา ไม่ตกค้างในร่างกายค่ะ

โบท็อกไมเกรน กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม 

ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกไมเกรน จะไม่เห็นผลทันทีหลังฉีดค่ะ แต่ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน และใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ โดยคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 3-4 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไมเกรนตามคำแนะนำของแพทย์ และควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกค่ะ

คำถามพบบ่อย

โบท็อกซ์ตำแหน่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี (อาจารย์หมอเมฆ
อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์และร้อยไหม