Ultra V Hyal Filler แบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่บินตรงมาจากเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศนำเทรนด์เรื่องความสวยความงามที่ใคร ๆ ต่างก็รู้กันดี และยังเป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายใน 41 ประเทศทั่วโลก รวมถึงกำลังจะมาครองใจสาวกคนเลิฟฟิลเลอร์ในบ้านเราด้วยเช่นกันค่ะ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าและยังเป็นรายแรกที่ใช้นวัตกรรม 2 in 1 HA Filler ผสาน 2 อนุภาคของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อยากเติมเต็มตรงไหนก็สวยเป๊ะ! อย่างเป็นธรรมชาติ วันนี้ใครที่อยากอินเทรนด์หรือสนใจเข้าวงการฉีดฟิลเลอร์ ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ! เพราะ Doctor Mek Clinic – Home of Filler ได้รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดมาพร้อมเสิร์ฟถึงที่เลย ใครที่อยากรู้ว่าคืออะไร ดีไหม ปลอดภัยไหม มีกี่รุ่น ใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง มีจุดเด่นอะไร เดี๋ยวตามมาทำความรู้จักกับ Ultra V Filler กันได้เลยค่ะ
Ultra V Hyal Filler คืออะไร
Ultra V Hyal Filler คือ ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่เป็น Dermal Filler ผลิตจากวัสดุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ มีคุณสมบัติในการรักษาความชุ่มชื่นและคงความยืดหยุ่นของผิว นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ ยังช่วยในการเติมเต็มเพื่อการปรับรูปหน้า เพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่บุ๋ม-ยุบ-ซูบตอบ ช่วยพยุงโครงหน้าให้เกิดความกระชับ รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวที่มีร่องริ้วรอยต่าง ๆ มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่เฉพาะตัวทันสมัย และยังเป็นนวัตกรรมการผลิตรายแรกของโลกที่นำกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดทั้ง 2 อนุภาคมาไว้รวมกันจนได้เป็นสารเติมเต็ม HA ที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย เติมเต็มผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
นวัตกรรมการผลิตแบบ R2 Technology ผสาน HA 2 อนุภาค
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นนวัตกรรมสารเติมเต็มแรกของโลกที่นำกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดแบบ Crosslink (Crosslinked HA) ทั้ง 2 อนุภาคมาผสานกันเป็นหนึ่งเดียว (The World’s First 2 in 1 HA Filler) ซึ่งมีการผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบเฉพาะตัวที่เรียกว่า “R2 หรือ R Square Technology” โดยการ Rotation และการ Revolution กรดไฮยาลูรอนิก แอซิดทั้ง 2 อนุภาค ได้แก่ Monophasic HA และ Biphasic HA เข้าด้วยกัน จนกลายมาเป็น Muti-Layered Phasic Filler ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการผสานคุณสมบัติและความโดดเด่นของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดทั้ง 2 อนุภาคมาไว้ด้วยกันในหนึ่งเดียว ทำให้ได้สารเติมเต็ม HA ที่มีประสิทธิภาพสูง ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่สามารถยกยึดเกาะได้อย่างแข็งแรง คงรูปได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์, สภาพผิว และการดูแลตัวเองในแต่ละบุคคล)
ลักษณะและคุณสมบัติของ Monophasic HA
Monophasic HA หรือฟิลเลอร์แบบเนื้อเดียว มีคุณสมบัติโดดเด่นตรงที่เนื้อเจลมีความหนืดสูง (High Viscosity) เกาะตัวกันได้ดี การกระจายตัวยาทำได้ดี ฉีดง่าย เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
ลักษณะและคุณสมบัติของ Biphasic HA
Biphasic HA หรือฟิลเลอร์แบบเนื้อผสม เป็นสารเติมเต็ม HA ที่มีโมเลกุลแบบอนุภาคหรือเนื้ออ่อน และแบบเนื้อเจลคงตัวรวมกัน มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง (High Elasticity) นำมาเติมเพิ่มวอลลุ่มได้ดี (Volume) และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Tips – เกร็ดความรู้
สารเติมเต็ม HA สามารถถูกผลิตออกมาได้หลายชนิด หลายคุณสมบัติ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและตำแหน่งที่เลือกฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสารเติมเต็ม HA จะถูกแบ่งออกเป็น
Non-Crosslinked HA เป็นสารเติมเต็ม HA แบบบริสุทธิ์ ไม่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ทำให้คงตัว ทำให้ HA ที่มีความเหลว ไม่ขึ้นรูป เหมาะกับการนำมาฉีดเพื่อปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่น อิ่มฟู ผิวฉ่ำสวย
Crosslinked HA เป็นสารเติมเต็ม HA ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่เกิดเป็นเนื้อเจลคงรูป คงตัว จึงเหมาะกับการนำมาฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม เติมปริมาตร แก้ไขร่องลึก ริ้วรอย และปรับรูปหน้า
นอกจากนี้ Crosslinked HA ยังสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทหลัก ได้แก่
Monophasic HA เป็นสารเติมเต็ม HA ที่ประกอบด้วย Crosslinked HA ทั้งหมดและได้โมเลกุลแบบเนื้อเจลทั้งหมด เรียกว่า “ฟิลเลอร์เนื้อเดียว” มีข้อดีที่เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
Biphasic HA เป็นสารเติมเต็ม HA ที่ประกอบด้วย Crosslinked และ Non-Crosslinked HA จึงได้โมเลกุลของฟิลเลอร์แบบเนื้ออ่อนและแบบเนื้อเจลคงตัว มีข้อดีที่ปั้นขึ้นรูปง่าย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
Ultra V Hyal Filler vs สารเติมเต็ม HA ชนิดอื่น
อย่างที่ได้อธิบายไว้ในตอนต้นนะคะว่า ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ของ Ultra V Hyal Filler นั้นเป็นนวัตกรรมการผลิตแบบใหม่ที่ผสานนำเอา Monophasic HA และ Biphasic HA มาไว้ด้วยกัน จนเป็นสารเติมเต็มแบบ Multi-Layered Phasic Filler ทำให้มีคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่าสารเติมเต็ม HA ชนิดอื่น ๆ ทั่วไปที่มีเพียง Monophasic แบบเดียว หรือ Biphasic แบบเดียวค่ะ
Multi-Layered Phasic Filler เป็นการผสมผสานระหว่างการเชื่อมขวางแบบเจลและแบบอนุภาค ให้ผลลัพธ์ที่ยึดเกาะแบบแนบแน่นและคงรูปได้ดี
Biphasic เนื้อฟิลเลอร์มีความไม่สม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นธรรมชาติ
Monophasic เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นน้อย อาจทำให้ง่ายต่อการยุบตัว
Ultra V Hyal Filler ดีไหม ปลอดภัยไหม
โดยทั่วไปแล้ว สารเติมเต็ม HA ที่ดีและมีความปลอดภัยกับร่างกาย จะต้องมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและได้สารเติมเต็มที่มีค่า MoD (Modification Degree) ที่ต่ำหรืออยู่ในระดับที่เหมาะสม หากผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์มีค่า MoD ต่ำเท่าไหร่ ก็จะบ่งบอกได้ว่ามีการใช้สาร BDDE (สารที่ทำให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ) ปริมาณน้อย นั่นก็ยิ่งแปลว่าผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์นั้นมีความปลอดภัยกับร่างกายมาก ลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการแพ้
สำหรับผลิตภัณฑ์ Ultra V Hyal เป็นสารเติมเต็ม HA ที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสารตกค้างค่ะ ด้วยกระบวนการผลิตที่ทำให้ในแต่ละรุ่นของฟิลเลอร์มีค่า MoD ที่ต่ำมาก อย่างในผลิตภัณฑ์ รุ่น Fine มีค่า MoD 2.14%, Medium มีค่า MoD 2.44% และ Hard มีค่า MoD 2.45% ทำให้เหลือสารตกค้างน้อยมากและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีระดับความเข้มข้นของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดที่เหมาะสม ทำให้มีความชุ่มชื่นที่ค่อนข้างสูงและอยู่ในระดับที่พอเหมาะ รวมถึงเกิดการขยายตัวที่ค่อนข้างน้อยเมื่อถูกดูดซึมเข้ากับสารน้ำ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เองจึงช่วยลดโอกาสบวมตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ ได้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ไม่บวม ไม่โป๊ะแน่นอนค่ะ
Tips – เกร็ดความรู้
BDDE คือ สารที่ถูกเติมเข้าไปในสารเติมเต็ม HA เพื่อทำให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ (Crosslinking) ยิ่งพันธะมากจะยิ่งคงรูปได้ดี สลายตัวช้า ทำให้ระยะเวลาของผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่หากใส่ในปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ง่าย
MoD คือ ค่าที่บ่งบอกปริมาณการใช้สาร BDDE ที่มีอยู่ในฟิลเลอร์ ยิ่งใส่สาร BDDE ในปริมาณที่น้อยเท่าไหร่ ก็จะทำให้ค่า MoD น้อยลงตามไปด้วย
รู้สึกสบายผิวขณะฉีด ด้วยเทคโนโลยี TSKiDTM Technology
นอกจากเทคโนโลยีการผลิตสารเติมเต็มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว Ultra V Hyal Filler ยังนำเทคโนโลยีเฉพาะของเข็มฉีดฟิลเลอร์ที่เรียกว่า “TSKiDTM Technology” มาใช้ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผู้ผลิตเข็มอันดับ 1 ของโลก โดยเป็นเข็มที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีความคม ผนังบาง จึงช่วยลดการบาดเจ็บในขณะฉีดฟิลเลอร์ ทำให้ลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้เป็นอย่างดีค่ะ สำหรับใครที่กลัวว่าฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ก็สบายใจหายห่วงกันได้เลยค่ะ เพราะนอกจากเทคโนโลยีของเข็มแล้ว ในผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมของยาชา รวมถึงที่ Doctor Mek Clinic เรายังมีการแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บในขณะฉีดฟิลเลอร์อีกด้วยค่ะ
Ultra V Hyal Filler ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล
Ultra V Hyal Filler เป็นแบรนด์สารเติมเต็ม HA คุณภาพสูงและมีความปลอดภัยต่อร่างกาย มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ผลิตในโรงงานที่ได้รับมาตรฐานจากหลายประเทศทั่วโลก และเป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม HA ที่ผ่านการรับรองในด้านมาตรฐานและความปลอดภัยจาก 4 หน่วยงานในไทยและระดับสากล ได้แก่
- Thai FDA สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย หรือ อย.
Fine เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013000
Medium เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013002
Filler Hard เลขที่ใบอนุญาต 66-2-1-2-0013001 - CE 2195 เครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตามข้อบังคับของสหภาพ
ยุโรป - ISO 13485 เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสากลด้านระบบบริหารงานคุณภาพ สำหรับเครื่องมือแพทย์
- KFDA สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศเกาหลีใต้
จุดเด่นของ Ultra V Hyal Filler
เป็น “The World’s First 2 in 1 HA Filler” นวัตกรรมสารเติมเต็มแรกของโลก ที่นำกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ทั้ง Monophasic HA และ Biphasic HA 2 มาผสานกันเป็นหนึ่งเดียว
เป็นสารเติมเต็ม HA ที่มีประสิทธิภาพสูง เนื้อฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะแนบแน่น คงรูปได้ดี ฉีดง่าย ฉีดแล้วเป็นธรรมชาติ
เนื้อเจลของ Ultra V Hyal ให้ความชุ่มชื่นสูง ซึ่งช่วยลดโอกาสบวมตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำ
มี 3 รุ่น แยกตามขนาดโมเลกุลที่แตกต่าง สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์, สภาพผิว และการดูแลตัวเองในแต่ละบุคคล)
เป็นแบรนด์สารเติมเต็ม HA ที่นิยมใช้กันในโรงพยาบาลและคลินิกความงามอย่างแพร่หลายกว่า 41 ประเทศทั่วโลก
Ultra V Hyal Filler มีกี่รุ่น
สำหรับผลิตภัณฑ์ Ultra V Hyal Filler จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันที่ขนาดโมเลกุล และคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาผิวที่ไม่เหมือนกันค่ะ
1. Fine
Fine เป็นรุ่นที่มีส่วนผสมของ Lidocaine หรือยาชา 0.3% มีเนื้อเจลบางเบา เหมาะสำหรับนำมาฉีดในชั้นผิวหนังแท้ส่วนกลาง (mid-dermis) ช่วยแก้ไขปัญหาร่องริ้วรอยแบบตื้น สามารถนำมาเติมเต็มที่บริเวณใต้ตา รวมถึงฉีดฟิลเลอร์ปากให้มีความอวบอิ่ม เต่งตึง
2. Medium
Medium เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลคงรูป มาพร้อม Lidocaine หรือยาในปริมาณ 0.3% เช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มลดเลือนริ้วรอยหรือร่องลึก เช่น เติมหน้าผากและร่องแก้ม ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้กับแก้มและบริเวณหน้าผาก
3. Hard
Hard อีกหนึ่งรุ่นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา 0.3% มีเนื้อเจลที่ค่อนข้างแข็งกว่ารุ่น Medium จึงเหมาะสำหรับการนำมาเติมเต็มผิวเพื่อเพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปหน้า อย่างการยกกระชับบริเวณหน้าแก้ม เพิ่มมิติให้กับกรอบหน้าบริเวณกราม, หน้าผาก, ขมับ และคาง
Ultra V Hyal Filler เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูแก่ ไม่อ่อนเยาว์
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด แก้มหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าขาดมิติ ไม่มีวอลลุ่ม มีบริเวณที่ยุบ บุ๋ม เช่น หน้าผาก แก้ม และขมับ
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่อวบอิ่ม ริมฝีปากบาง ขอบปากไม่ชัด ริมฝีปากไม่ได้รูป
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า โดยเพิ่มความยาวบริเวณคาง
- ผู้ที่ไม่ต้องการให้เกิดความบวมหลังฉีดสารเติมเต็ม HA
Ultra V Hyal Filler ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- บริเวณหน้าผาก เพื่อเสริมหน้าผากให้มีวอลลุ่ม และลดเลือนร่องริ้วรอยหน้าผาก
- บริเวณใต้ตา เติมเต็มร่องลึกและลดเลือนริ้วรอย
- บริเวณขมับและแก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ ขมับยุบ และช่วยยกกระชับแก้ม
- บริเวณร่องแก้ม เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น
- บริเวณริมฝีปาก เพิ่มความอวบอิ่ม ตกแต่งรูปทรงปาก
- บริเวณแนวกรอบหน้าหรือแนวกราม เพื่อปรับและยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
- บริเวณคาง ปรับเสริมคางให้ยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ที่ทำให้หน้ากลม ไม่มีมิติ
ผลลัพธ์หลังฉีด Ultra V Hyal Filler อยู่ได้นานไหม
Ultra V Hyal Filler เป็นผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในแง่ของการเติมเต็มและแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม รวมถึงให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 8-24 เดือน* ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองในแต่ละบุคคล และขนาดโมเลกุลของฟิลเลอร์ในแต่ละรุ่นที่เลือกใช้ค่ะ ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นต่างก็มีคุณสมบัติในแง่ของระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนี้
- Fine ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 6-8 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- Medium ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 8-16 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- Hard ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 16-24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
วิธีเช็กผลิตภัณฑ์ของแท้
- กล่องผลิตภัณฑ์ปิดสนิท ไม่มีรอยแกะ ไม่มีการเปิดใช้งานมาก่อน
- มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับรายละเอียดยาทั้งภาษาไทยและต่างประเทศอยู่ภายในกล่อง
- มีวัน / เดือน / ปีที่ผลิตและหมดอายุแสดงชัดเจน
- มีเลข Lot. การผลิตที่ตรงกันทั้งบริเวณกล่อง, ซอง, สติ๊กเกอร์ และที่หลอดยา
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังรับบริการ
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้คนไข้เรียนรูและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนฉีด รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ และเพื่อผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ดีและคงอยู่ได้อย่างยาวนานค่ะ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยาประจำตัวอยู่
- แนะนำควรหยุดใช้ยากลุ่มแก้ปวด แอสไพริน ยาในกลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs เช่น Ibuprofen, Naproxen เป็นต้น อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะช้ำ
- ควรงดทานวิตามินในกลุ่มที่มีส่วนผสมของวิตามินอี, น้ำมันปลา, น้ำมันอีฟเวนนิ่งพริมโรส, สารสกัดจากโสม, ขิง, กระเทียม และใบแป๊ะก๊วย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเลือดไหลไม่หยุด
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วัน
การดูแลตัวเองหลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการกด นวดคลึง และบีบใบหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนและแสงแดด 2 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงยาในกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 7 วัน
- หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อส่งเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
อยากฉีดฟิลเลอร์ ต้องที่ Doctor Mek Clinic – Home of Filler
การฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์สุดปัง แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และมีความปลอดภัย จะอาศัยเพียงผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ แต่จะต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง สำหรับที่ Doctor Mek Clinic เรากล้าการันตีว่าเราเป็น Home of Filler – ตัวจริงเรื่องฟิลเลอร์! อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราเป็น “ที่ 1 ในใจคนไข้” มาดูกันเลยค่ะ!
- มาตรฐานระดับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ทุกเคสมีการวิเคราะห์ปัญหา ประเมินการรักษา และฉีดฟิลเลอร์ นำทีมโดย “คุณหมอเมฆ” แพทย์ที่มีประสบการณ์ผู้สอนเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ในประเทศไทย และทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
- คว้ารางวัลอันดับ 1 ในเอเชีย ด้วย 2 รางวัลใหญ่สุดภาคภูมิใจ! ในระดับเอเชียปีล่าสุด 2023 ได้แก่ รางวัลอันดับ 1 ยอดฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกสูงสุดในเอเชียแปซิฟิก (The Winner of Belotero Highest Achievement Regional APAC Awards และ Xeomin Best Newcomer Regional APAC Awards 1st Runner Up) รวมถึง
- รางวัลอันดับ 1 Single Clinic ที่มียอดฉีดฟิลเลอร์สูงสุดรวมทุกแบรนด์ในประเทศไทย 6 สมัยซ้อนปี 2018 – 2023
- ฉายา “หมอของดารา” ที่ไม่ใช่ว่าจะได้กันมาง่าย ๆ Doctor Mek Clinic เราได้รับฉายานี้เพราะได้รับความไว้วางใจจากเหล่าดาราและเซเลบริตี้ชื่อดังในไทยเป็นจำนวนมาก ให้ดูแลเรื่องความสวยความหล่อกันมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง เพิ่มความมั่นใจในการออกหน้ากล้อง!
- ยึดหลักกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหา, ดีไซน์รูปหน้า และใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคส
เทคนิคเฉพาะ Triple Layers Lift ที่คุณหมอเมฆเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเอง เป็นการปูรากฐานการฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ชั้นกระดูก เติมเต็มผิวในหลายระดับชั้น ให้ - ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเทคนิคอื่น ๆ ทั่วไป รวมไปถึงลดโอกาสการเกิดอาการบวมช้ำ
- ฟิลเลอร์ของแท้แบรนด์ดังระดับโลก ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากอย. ไทยและต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งในเอเชีย อเมริกา และยุโรป
- คลินิกที่มีรีวิวแน่นสต็อก ทั้งภาพนิ่ง, วิดีโอ, ไลฟ์สด และการเขียนบอกเล่าความประทับใจจากคนไข้จริงที่เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ การันตีได้ถึงผลงานการฉีดฟิลเลอร์ที่หาตัวจับยาก!
สรุป
ทั้งหมดนี้ คือ รายละเอียดแบบจุใจเกี่ยวกับ Ultra V Hyal Filler แบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่ส่งตรงจากเกาหลี ที่มีความโดดเด่นกันตั้งแต่เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัว ที่เป็นนวัตกรรมแรกของวงการฟิลเลอร์ที่นำเอาสารเติมเต็ม 2 อนุภาคมารวมกัน จนได้สารเติมเต็ม HA ที่มีประสิทธิภาพสูง เนื้อฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะแนบแน่น คงรูปได้ดี ให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติอย่างยาวนาน และอีกหนึ่งคุณสมบัติสุดปัง นั่นก็คือ ลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างดี นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะ สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษากับทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยการแอดไลน์เพื่อทักแชทพูดคุยกับเราได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)