การทำเลเซอร์หน้าใส หรือ Laser Face Brightening เป็นทั้งตัวช่วยและทางลัดที่จะช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส เคลียร์ปัญหาผิวพรรณได้อย่างตรงจุด ทั้งจุดด่างดำ รอยแดง รอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมยอดฮิตทั้งในสาว ๆ และหนุ่ม ๆ นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังมีเครื่องเลเซอร์หน้าใสหลากหลายชนิด ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ แก้ไขปัญหาสีผิวได้อย่างแม่นยำ สำหรับใครที่กำลังสนใจและยังไม่แน่ใจว่าเลเซอร์หน้าใส แบบไหนดี เลเซอร์หน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ต้องทำเลเซอร์หน้าใส กี่ครั้งเห็นผล เลเซอร์หน้าใส ราคาเท่าไหร่ เดี๋ยวเราไปติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์หน้าใสอย่างละเอียดในบทความของ Doctor Mek Clinic กันได้เลยค่ะ

เลเซอร์หน้าใส คือ การใช้เทคโนโลยียิงเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานลงบนผิว โดยพลังงานเลเซอร์จะไปดักจับกับเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ตัวการที่ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยหมองคล้ำ เมื่อเม็ดสีเมลานินดูดซับพลังงาน เม็ดสีเหล่านี้จะแตกตัวออก ทำให้เกิดการผลัดเซลล์เม็ดสีเมลานินเก่าได้เร็วขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา จึงทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสเนียนเรียบได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
การทำเลเซอร์หน้าใส ถือว่าเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะเป็นตัวช่วยให้ผิวหน้าที่เคยหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ กลับมาสว่างกระจ่างใสขึ้นได้ในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งในบางครั้งการทาครีมบำรุงทั่วไป อาจไม่ค่อยเห็นผล หรือกว่าจะเห็นผลก็ช้า เพราะเป็นการบำรุงและฟื้นฟูได้เพียงผิวภายนอกเท่านั้นค่ะ บางคนเสียเงินไปกับครีมแพง ๆ ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ก็ไม่เห็นผล ในทางกลับกันการทำเลเซอร์หน้าใส กระชับรูขุมขน สามารถเห็นผลได้จริง ไม่ต้องรอนาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คนไข้ประหยัดทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายและเวลาค่ะ

• ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• เลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว ทั้งรอยแดงและรอยดำ
• ช่วยลดการอักเสบของสิวได้
• ทำให้หลุมสิวหรือรอยแผลเป็นจากสิวตื้นขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอยเส้นบาง ๆ เล็ก ๆ
• เลเซอร์หน้าใส กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน
• ผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าขาวใส แลดูสุขภาพดี

ภาพเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลังการทำเลเซอร์หน้าใสของคนไข้ที่ Doctor Mek Clinic จะเห็นว่าก่อนทำคนไข้มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีจุดด่างดำ รอยสิว ซึ่งหลังทำเลเซอร์หน้าใส ผิวหน้าดูสว่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังการทำเลเซอร์หน้าใสที่ Doctor Mek Clinic คนไข้หลายท่านรู้สึกประทับใจในผลลัพธ์ ผิวหน้าขาวใส มีออร่า ทำตั้งแต่ครั้งแรกก็เห็นผลได้จริง มีแต่คนทักว่าหน้าใสขึ้น

หลายคนสงสัยว่า เลเซอร์หน้าใส มีอะไรบ้าง ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีหรือเครื่องเลเซอร์หน้าใสอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เลเซอร์หน้าใสจะใช้เทคโนโลยีที่เน้นเกี่ยวกับการแก้ไขความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว เช่น การกำจัดจุดด่างดำ รอยสิว รอยแดง รอยดำ ฝ้า กระ รวมถึงช่วยในการกระชับรูขุมขน
สำหรับเครื่องเลเซอร์หน้าใสที่นิยมใช้กันจะแบ่งออกเป็น 6 ชนิดหลัก ๆ คือ Q-Switched Laser, Fractional Co2 Laser, E-Matrix Laser, Dual Yellow Laser, IPL (Intense Pulse Light) หรือเลเซอร์หน้าใส IPL และเทคโนโลยีใหม่ล่ามาแรงอย่าง Pico Laser ซึ่งแต่ละชนิดของเลเซอร์หน้าใสจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพลังงาน, จุดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงข้อดีและข้อจำกัดค่ะ

1. เลเซอร์หน้าใส Q-Switched Laser 

   Q-Switched Laser เป็นชนิดเลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว ที่มีความยาวคลื่น 532 และ 1064 นาโนเมตร โดยจะปล่อยพลังงานออกมาเพื่อทำให้เม็ดสีแตกตัว พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว นอกจากนี้ ด้วยความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร ยังช่วยลบรอยปานแดงได้
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว, มีฝ้า กระ, ผิวหน้าหมองคล้ำ
   ข้อดี : กำจัดรอยจุดด่างดำได้ดีและใช้ได้กับทุกสภาพผิว
   ข้อจำกัด : หลังทำอาจมีผิวแดงและผิวลอกตกสะเก็ดได้

2. เลเซอร์หน้าใส Fractional Co2 Laser 

   Fractional Co2 Laser เป็นชนิดเลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว ที่ใช้หลักการ (FP) คือ การปล่อยลำแสงออกมาในลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ หลายจุดเรียงกันเป็นตาราง โดยมีช่วงความยาวของคลื่นแสงอยู่ที่ 10,600 นาโนเมตร ซึ่งมีความแม่นยำสูง ทำให้สามารถลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูใสขึ้น
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว, รูขุมขนกว้าง, มีรอยดำรอยแดง, ผิวหน้าหมองคล้ำ
   ข้อดี : ทำการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง (1-2 ครั้ง) สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1-2 ปี
   ข้อจำกัด : อาจทำให้เกิดอาการบวมแดงหลังทำ, มีโอกาสเกิดรอยดำ รอยด่างหลังทำ, ไม่เหมาะกับคนมีผิวคล้ำ

3. เลเซอร์หน้าใส E-Matrix Laser 

   E-Matrix Laser เป็นชนิดเลเซอร์หน้าใส กระชับรูขุมขน ที่ใช้หลักการ Sublative โดยการปล่อยพลังงานในรูปแบบคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้า เพื่อให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจน และสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาทดแทน เน้นการจัดการปัญหาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว, รูขุมขนกว้าง, สีผิวไม่สม่ำเสมอ
   ข้อดี : รักษาปัญหาหลุมสิวได้ดี เห็นผลเร็ว
   ข้อจำกัด : ผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกได้เพียงเล็กน้อย, หากต้องการรักษาหลุมสิวอาจต้องเข้ารับบริการ 3-4 ครั้งถึงจะเห็นผล และอาจทำให้เกิดรอยไหม้หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญในการปรับค่าพลังงาน

4. เลเซอร์หน้าใส Dual Yellow Laser 

   Dual Yellow Laser เป็นชนิดเลเซอร์หน้าใสที่ใช้การผสมผสานระหว่างแสงเลเซอร์ทั้ง 2 ชนิดไว้ด้วยกัน คือ แสงสีเหลืองและแสงสีเขียว ซึ่งสามารถรักษาสิวและรอยสิว โดยเฉพาะรอยที่เป็นสีแดง ปานแดง หรือเส้นเลือดฝอย เป็นต้น โดยเป็นการเน้นรักษารอยแดงและเส้นเลือดฝอย ทำให้หน้าใสขึ้น
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาสิว รอยแดง และเส้นเลือดฝอยที่ใบหน้า
   ข้อดี : หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เลยตามปกติ และไม่เจ็บขณะทำ
   ข้อจำกัด : ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำแบบลึก และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง

5. เลเซอร์หน้าใส IPL 

   หลายคนคงคุ้นหูคุ้นตากันดีกับเลเซอร์หน้าใส IPL แต่ทราบไหมคะว่า ในความเป็นจริงแล้ว IPL ไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นพลังงานลำแสงที่มีความเข้มข้นสูง (Intense Pulse Light) ซึ่งมีช่วงความยาวของคลื่นแสงตั้งแต่ 420 ถึง 1,200 นาโนเมตร โดยมีจุดเด่นอยู่ที่สามารถปล่อยลำแสงได้ค่อนข้างกว้าง ถ้าหากจะถามว่า เลเซอร์หน้าใส IPL ดีไหม ตอบได้เลยค่ะว่า มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ซึ่งจะต้องพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมค่ะ
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหารอยแดงรอยดำจากสิว, รูขุมขนกว้าง
   ข้อดี : รักษาความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินได้ดี เช่น รอยดำ รอยแดง, ขณะทำไม่เจ็บ, หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เลยตามปกติ
   ข้อจำกัด : จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6-10 ครั้ง, ทำให้ผิวบริเวณข้างเคียงเกิดรอยแดง เนื่องจากเป็นช่วงลำแสงที่ค่อนข้างกว้าง และอาจเกิดรอยไหมหากแพทย์ไม่มีความชำนาญในการปรับค่าพลังงาน

6. เลเซอร์หน้าใส Pico Laser 

   Pico Laser จากเครื่อง PicoSure ที่ Doctor Mek Clinic ได้นำเข้ามาใช้เป็นเลเซอร์หน้าใสเครื่องแรกในโลกที่ใช้เทคโนโลยี Picosecond Technology ที่ปล่อยพลังงานคลื่นแสงได้ถึงระดับ Picosecond หรือ 1/ล้านล้านวินาที ทำให้สามารถแตกกระจายเม็ดสีที่ผิดปกติออกไปได้อย่างละเอียด หรือแม้กระทั่งรอยสักที่ลบยากก็สามารถจางลงไปได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน รวมถึงไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือผลข้างเคียงต่าง ๆ ภายหลังจากการรักษา และตัวเครื่องยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US. FDA) นับว่าเป็นเลเซอร์หน้าใส ลดรอยสิว รอยจุดด่างดำ ฝ้า กระ ที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลเร็ว ใช้เวลาไม่นาน และเป็น “เลเซอร์หน้าใสที่ดีที่สุดในขณะนี้”
   เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาฝ้า (ฝ้าแดด ฝ้าตื้น ฝ้าลึก) กระ (กระตื้น กระลึก กระแดด) จุดด่างดำ, รอยสิวม หลุมสิว, รูขุมขนกว้าง, ผิวหน้าหมองคล้ำ และยังช่วยลบรอยสักได้ทุกสี
   ข้อดี : เห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก, กำจัดเม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดจุดด่างดำได้ดีกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ, ไม่มีผลข้างเคียง ทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำได้เลยตามปกติ, ให้ผลการรักษาที่ดีกว่า ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
   ข้อจำกัด : หลังทำอาจมีอาการบวมแดงได้เล็กน้อย (หายได้เองใน 1-2 ชั่วโมง)

บางท่านอาจสงสัยและยังลังเลว่า เลเซอร์หน้าใส แบบไหนดี เลือกแบบไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำว่าควรเลือกทำเลเซอร์หน้าใสชนิดที่เหมาะกับปัญหาผิวพรรณ ดังนั้น แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ด้านผิวหนังและเลเซอร์ โดยแพทย์ผู้จะมีการตรวจสภาพผิวของคนไข้อย่างละเอียด และแนะนำการทำเลเซอร์หน้าใสชนิดที่เหมาะกับปัญหาผิว เพื่อการแก้ไขอย่างตรงจุดและผลลัพธ์ที่ดีค่ะ

การทำเลเซอร์หน้าใส สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ โดยจะค่อย ๆ เห็นผลดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทำเลเซอร์หน้าใสตามนัดตั้งแต่ 2-3 ครั้งขึ้นไป โดยการทำเลเซอร์หน้าใสควรทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ 3-5 ครั้งขึ้นไป และควรเว้นระยะห่างการทำเลเซอร์หน้าใสประมาณ 4-6 สัปดาห์ จึงจะช่วยคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าขาวใส เรียบเนียน และดูสุขภาพดีได้อย่างยาวนานค่ะ

การทำเลเซอร์หน้าใส ราคาเริ่มต้นที่ 1,999 บาท ทั้งนี้ เลเซอร์หน้าใส ราคาอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละเคส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ชนิดของเลเซอร์และคอร์สเลเซอร์หน้าใส เนื่องจากสภาพผิวของคนไข้แต่ละรายไม่เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อการแก้ไขอย่างตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้เข้ารับการตรวจสภาพผิวหน้า เพื่อวางแผนการรักษาโดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าคนไข้เหมาะกับการทำเลเซอร์หน้าใสชนิดใด และประเมินค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด นอกจากนี้ที่ Doctor Mek Clinic ยังมีโปรโมชั่น เลเซอร์หน้าใส ในราคาสบายกระเป๋าที่จัดตามช่วงเวลาต่าง ๆ โดยคนไข้สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ

การเลือกทำเลเซอร์หน้าใส ที่ไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของเราและมีความปลอดภัย แนะนำให้เลือกจากปัจจัยดังต่อไปนี้

• ความน่าเชื่อถือ เลือกทำเลเซอร์หน้าใสกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
• เครื่องเลเซอร์ได้มาตรฐาน เลือกทำเลเซอร์หน้าใสกับคลินิกหรือสถานพยาบาล ที่นำเข้าและเลือกใช้แต่เครื่องเลเซอร์หน้าใสที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของไทย (อย.) และของต่างประเทศ (FDA)
• ความเชี่ยวชาญ เลือกทำเลเซอร์หน้าใสกับแพทย์ด้านผิวหนัง มีทักษะการวิเคราะห์และประเมินปัญหาผิวพรรณได้อย่างละเอียด รวมถึงสามารถเลือกใช้เลเซอร์หน้าใสชนิดที่เหมาะสมกับคนไข้ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะการใช้เครื่องเลเซอร์อย่างถูกต้อง

ใครว่าผู้หญิงทำเลเซอร์หน้าใสได้เท่านั้น…ผู้ชายก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ โดยปัญหาผิวพรรณในคุณผู้ชายที่พบได้บ่อย คือ ผิวหน้าหมองคล้ำ ปัญหาสิว รอยแดง รอยดำจากสิว หลุมสิว และรูขุมขนกว้าง เนื่องจากขาดการดูแลตัวเอง หนุ่ม ๆ บางคนไม่ชอบทาครีมบำรุง ไม่ทาครีมกันแดด นอกจากนี้ด้วยฮอร์โมนเพศชายที่สูงทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก จึงทำให้เกิดปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง สำหรับการทำเลเซอร์หน้าใส ผู้ชาย สามารถทำได้ทุกเครื่องทุกชนิด โดยแพทย์จะทำการตรวจสภาพผิวพรรณ และแนะนำการทำเลเซอร์หน้าใส ผู้ชาย ด้วยเครื่องเลเซอร์ชนิดที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหาของคนไข้แต่ละราย เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและผลลัพธ์หน้าขาวใส ผิวดูสุขภาพดีในแบบของผู้ชายค่ะ

• เข้ารับการตรวจสภาพผิวกับแพทย์
• หากมีโรคประจำตัว ประวัติเป็นโรคเริม หรือรับประทานยาชนิดใดเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ
• งดการใช้ครีมบำรุงหรือผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนผสมผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, กรดวิตามินเอ หรือสารสกัดจากผลไม้, วิตามินซี เป็นต้น
• งดการขัดผิว สครับผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการทำเลเซอร์หน้าใส
• หลีกเลี่ยงการโดนแดด อาบแดด หรือกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแสงแดดและความร้อนก่อนเลเซอร์หน้าใส 1 สัปดาห์

• เริ่มด้วยการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อนทำเลเซอร์หน้าใส
• ทำการปิดตาด้วยที่ครอบตาหรือแว่นตาชนิดพิเศษ เพื่อป้องกันดวงตาจากลำแสงเลเซอร์
• จากนั้นทำการแปะยาชา (การทำเลเซอร์หน้าใสบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา) และทาเจลเย็นเพื่อให้สบายผิว ลดการระคายเคือง
• แพทย์ทำการยิงเลเซอร์หน้าใสบนผิวหน้า
• ใช้เวลาในการทำเลเซอร์หน้าใสประมาณ 30-45 นาที

• หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำเลเซอร์หน้าใส และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือ 50 PA+++ ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน นอกจากนี้ควรสวมหมวกปีกกว้าง หรือกางร่มเมื่อต้องเจอแสงแดด
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและครีมบำรุงสูตรอ่อนโยน
• ไม่ควรถูหรือนวดผิวหน้าแรง ๆ หลังการเลเซอร์หน้าใส
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวหน้า เช่น การเกา แกะ บีบสิว เป็นต้น
• ดื่มน้ำเยอะ ๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ที่ Doctor Mek Clinic เราเป็นคลินิกความงามครบวงจรพร้อมบริการที่หลากหลาย รวมไปถึงการทำเลเซอร์หน้าใส ด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานซึ่งได้รับรองจากองค์กรอาหารและยาในไทยและต่างประเทศ (FDA) ซึ่งแต่ละเครื่องเลเซอร์หน้าใสที่เรานำเข้ามาใช้นั้นล้วนเป็นเครื่องที่ทันสมัย รุ่นใหม่ และมีประสิทธิภาพสูง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนจากทีมแพทย์ด้านผิวหนัง ซึ่งมีทักษะและประสบการณ์ในการใช้เครื่องทุกประเภท เพื่อการแก้ปัญหาผิวพรรณได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัย

• วิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าอย่างละเอียดและดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ด้านผิวหนังและการทำเลเซอร์
• ใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การปรึกษาแพทย์ไปจนถึงการรักษา รวมถึงมีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
• มีเครื่องเลเซอร์หน้าใสหลากหลายชนิด คัดสรรเลือกใช้แต่เทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นตัว Top ในฝั่งอเมริกาและยุโรป ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง อ่อนโยนกับผิวพรรณ และทุกเครื่องได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรอาหารและยาในไทย สหรัฐอเมริกา และยุโรป
• ใช้เทคนิคการยิงเลเซอร์หน้าใส 3 รอบ เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด
  – ยิงรอบที่ 1 เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  – ยิงรอบที่ 2 ลงไปยังผิวหนังชั้นลึกเพื่อกำจัดรอยโรคต่าง ๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว รอยสัก เป็นต้น
  – ยิงรอบที่ 3 ไปยังผิวหนังชั้นตื้นเพื่อเก็บรายละเอียด หรือเน้นย้ำในบริเวณที่มีความคล้ำมากเป็นพิเศษ
• แพทย์ให้เวลาและใส่ใจในรายละเอียดกับคนไข้ทุกเคสอย่างเต็มที่ ไม่เร่งเคส
• “หมอของดารา” โดยได้รับความไว้วางใจจากดาราชื่อดังของประเทศเป็นจำนวนมากในการเข้ารับบริการที่คลินิก
• ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จำนวนมาก คิวแน่นทุกวัน และมีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการมากที่สุด
• มีรีวิวจากคนไข้จริงให้เลือกดูเยอะที่สุด พร้อมการการันตีว่าเห็นผลจริงทุกเคส
• พร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย

เลเซอร์หน้าใส เจ็บไหม 

ในขณะการทำเลเซอร์หน้าใส คนไข้อาจรู้สึกเหมือนอุ่นและตึง ๆ แปล๊บ ๆ ที่ผิวเหมือนโดนหนังยางดีดที่ผิวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ซึ่งก่อนทำการรักษาจะมีการแปะยาชาก่อน และการใช้เลเซอร์หน้าใสบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา โดยหลังการทำอาจทำให้ผิวแดงได้เล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมงค่ะ

เลเซอร์หน้าใสทำให้ผิวบางจริงไหม 

หลายคนมักมีความเชื่อและความกังวลว่า การทำเลเซอร์หน้าใสจะทำให้ผิวบางลง โดยในความเป็นจริงแล้ว การทำเลเซอร์หน้าใสไม่ได้ทำให้ผิวบางแต่อย่างใดค่ะ นั่นเป็นเพราะปกติแล้ว ในชั้นผิวของเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก ๆ 4 สัปดาห์ เพียงแต่การใช้เลเซอร์หน้าใสจะเป็นเหมือนตัวช่วยทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ รวมถึงเป็นการกำจัดเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติอันเป็นสาเหตุของจุดด่างดำได้อย่างตรงจุด และเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ด้วยพลังงานเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นในชั้นผิว และทำให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใสได้มากกว่าค่ะ

เลเซอร์หน้าใสต้องทำบ่อยไหม 

ถึงแม้ว่า การทำเลเซอร์หน้าใสจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและกำจัดจุดด่างดำได้อย่างตรงจุด ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ทั้งนี้ ควรทำเลเซอร์หน้าใสอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้งขึ้นไป และควรเว้นระยะห่างในการทำอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองค่ะ

ใครที่ไม่ควรทำเลเซอร์หน้าใส 

ผู้ที่มีแผลเปิดหรือผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ, โรคสะเก็ดเงิน, โรคด่างขาว, ผิวหนังติดเชื้อ, ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดแล้วแต่บาดแผลยังไม่สมานตัวและหายดี รวมไปถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ยังไม่แนะนำให้ทำเลเซอร์หน้าใส ทั้งนี้ หากคนไข้ไม่แน่ใจสามารถสอบถามและปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ