โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาร่องใต้ตาลึกและขอบตาดำ

ในปัจจุบันโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือนวัตกรรมด้านความงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง  เพราะโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้ผิวบริเวณใต้ตาของเราดูสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยเสริมให้ใบหน้าของเราดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งเมคอัพ เป็นหัตถการที่ใช้เวลาทำไม่นานก็สามารถพลิกผลลัพธ์ให้กลายเป็นคนที่ดูอ่อนวัยลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ สำหรับใครที่เพิ่งเข้าสู่วงการฉีดโปรแกรม Filler ใต้ตา ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นพอเกี่ยวกับคุณสมบัติ ราคาค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ฉีด 1 ccพอไหม ใต้ตามีปัญหาหนักควรใช้กี่ซีซี หรือควรเลือกฉีดยี่ห้อไหนแต่ละตัวแตกต่างกันยังไง รวมไปถึงการเลือกใช้บริการหมอและคลินิกที่น่าไว้วางใจควรดูจากอะไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้น ในบทความนี้เราก็จะตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษามาฝากค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา คือ

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler Program)  คือ นวัตกรรมที่เติมสารประเภท HA Filler เข้าไปในบริเวณชั้นผิวหนังใต้ตาที่ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดปัญหาริ้วรอย ความหมองคล้ำ ขอบตาดำและถุงให้ตาให้กลับมาอ่อนเยาว์ ดูสดใสกว่าเดิม ซึ่งสารชนิดนี้จะเข้าไปเติมเต็มในบริเวณที่มีช่องว่าง พร้อมเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ทำให้เนื้อผิวบริเวณนั้นกลับมาเต่งตึง มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถสลายออกไปได้เองตามธรรมชาติ และนอกจากจะช่วยให้ใบหน้าดูชุ่มชื้นและเต่งตึงขึ้นแล้วก็ยังช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่รักษาได้ดีด้วยค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ไขปัญหาใดได้บ้าง

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น บริเวณใต้ตาเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งสำคัญบนใบหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า ไม่สดใส และทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยได้อีกด้วยค่ะ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณใต้ตาได้อย่างครอบคลุม ดังนี้ค่ะ

  • ลดเลือนริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหางตา (รอยตีนกา) รอยเหี่ยวย่น
  • แก้ปัญหาใต้ตาโบ๋ ใต้ตาลึก ช่วยปรับให้ใต้ตาดูเต็มยิ่งขึ้น
  • แก้ไขใต้ตาดำหมองคล้ำ ขอบตาดำ ช่วยทำให้ผิวใต้ตากลับมากระจ่างใส
  • แก้ปัญหาถุงใต้ตาหรือใต้ตาหย่อนคล้อย ทำให้ใต้ตากลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์

สาเหตุของการเกิดปัญหาใต้ตา มีอะไรบ้าง

  1. อายุที่เพิ่มขึ้น – เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโครงสร้างต่าง ๆ ของผิวและใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป กระบวนการสร้างเส้นใยคอลลาเจนเริ่มถดถอยลง จากความเต่งตึงดูกระชับก็กลายเป็นความหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด
  2. กรรมพันธุ์ – ลักษณะทางพันธุกรรมเป็นส่วนหนึ่งหรือแทบจะเห็นสาเหตุหลัก ๆ ของผู้ที่มีตาโหล เบ้าตาลึกหรือตาดำเลยก็ว่าได้ค่ะ
  3. การพักผ่อนน้อย – เป็นสาเหตุที่เรามักพบกันบ่อยมากการนอนน้อยไม่เพียงแต่ส่งผลต่อบริเวณใต้ตาเท่านั้นแต่มันยังส่งผลไปยังระบบอื่น ๆ ในร่างกายได้ด้วย
  4. โรคภูมิแพ้ – สาเหตุหลัก ๆ ที่มาจากโรคภูมิแพ้ก็คือระบบไหลเวียนเลือดมีปัญหาบริเวณใต้ตา ทำให้เลือดในบริเวณนั้นไม่สามารถไหลเวียนไปยังส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าได้ เลือดที่คั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวจึงทำให้ผิวใต้ตามีความคล้ำดำขึ้นนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ยังมาได้จากหลาย ๆ สาเหตุเช่น การเจริญเติบโตของกระดูกช่วงบริเวณเบ้าตาไม่ดี ทำให้เกิดถุงใต้ตา หรือจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราเองด้วยเมื่อมันสะสมเป็นเวลานาน ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อผิวบนใบหน้ารวมไปถึงใต้ตาที่ต้องตามมาแก้ไขกันภายหลัง

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ขอบตาดำทำให้หน้าดูโทรม
  2. ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก รอบดวงตาดูโบ๋
  3. ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา
  4. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา มีความหย่อนคล้อย
  5. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และไม่ต้องพักฟื้น
  6. ผู้ที่มีปัญหาบริเวณใต้ตาอันเนื่องมาจากพันธุกรรม
  7. ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตาแบบไม่ต้องผ่าตัด

ปัญหาใต้ตาแบบใดที่ไม่เหมาะในการฉีด

หลายท่านอาจะคิดว่า การฉีดสารเติมเต็มที่บริเวณใต้ตาจะเหมาะกับปัญหาใต้ตาทุกประเภท แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีภาวะหรือปัญหาใต้ตาบางอย่างที่ไม่เหมาะในการฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ตา เนื่องจากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ถึงต้นตอ โดยภาวะหรือปัญหาใต้ตาที่ว่านี้ คือ ถุงใต้ตาเทียม หรือ การเกิดถุงใต้ตาแบบชั่วคราวจากภาวะแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การร้องไห้บ่อย, การขยี้ตาเป็นประจำ รวมไปถึงการใช้สายตามากจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้บริเวณใต้ตามีอาการบวม จนอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นถุงใต้ตาแบบถาวร โดยภาวะของถุงใต้ตาเทียมนั้นจะเกิดขึ้นและสามารถหายไปได้เองตามปกติหากมีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี รวมถึงหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาเทียม ส่วนการฉีดสารเติมเต็มที่บริเวณใต้ตานั้นจะเหมาะกับปัญหาถุงใต้ตาแท้ ซึ่งเกิดจากภาวะที่มีการยุบตัวของกระดูกและมีเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตาที่ยืดตัวออกมา จนทำให้ส่วนที่เป็นไขมันใต้ตาเกิดการหย่อนตัวตกลงมาและทำให้เห็นเป็นถุงใต้ตา โดยการฉีดสารเติมเต็มใต้ตาจะช่วยเติมเต็มส่วนที่กระดูกยุบตัวได้นั่นเองค่ะ

Before & After ของโปรแกรม filler ใต้ตา

ส่วนหนึ่งของภาพรีวิวเปรียบเทียบก่อนและหลังฉีดโปรแกรม Filler ใต้ตาจากเคสคนไข้จริงที่เข้ารับบริการกับ Doctor Mek Clinic จะเห็นได้ว่าก่อนทำนั้นคนไข้มีปัญหาร่องใต้ตา ใต้ตาหมองคล้ำ มีริ้วรอย แต่หลังจากเข้ารับบริการแล้ว ผิวใต้ตากระจ่างใส ร่องลึกและริ้วรอยใต้ตาที่เคยมีดูตื้นขึ้น ทำให้ใต้ตาดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูอ่อนวัยและสดใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดสารเติมเต็ม

รีวิว โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

รีวิวโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหมอเมฆ จากผู้มาใช้บริการกับทางคลินิก โดยจะเห็นได้ว่าผู้มาใช้บริการหลายท่านเกิดความประทับใจต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตา ใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้ทำแค่ครั้งแรกก็เห็นผลทันที รวมถึงความประทับใจที่มีต่อแพทย์และการบริการ

ดูรีวิวเพิ่มเติม คลิกเลย!

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี

ในขั้นตอนการเลือกใช้บริการโปรแกรม filler ใต้ตา ที่ไหนดี เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างสร้างความกังวลใจให้แก่ผู้มาใช้บริการไม่น้อย เพราะจะต้องดูและศึกษามาอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกจากคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน ซึ่งวิธีการเลือกคลินิกเพื่อฉีดโปรแกรม Filler ใต้ตาให้มีประสิทธิภาพสามารถสังเกตได้จากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน – คุณภาพของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับคลินิกที่เราเลือกจริง ๆ ค่ะ ฉะนั้นเราจะต้องดูคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตเลข 11 หลักอยู่หน้าคลินิกอย่างชัดเจน มีแหล่งที่อยู่ที่เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย
  • ทักษะเทคนิคของแพทย์ – แพทย์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการฉีดจะเป็นอันตรายหรือไม่ขึ้นอยู่กับทักษะและเทคนิคการฉีดของแพทย์ล้วน ๆ เลยค่ะ ต้องมีความรู้ในด้านการวิเคราะห์ ประเมินสภาพผิวของคนไข้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดที่เข้ากับปัญหา พร้อมใช้ศาสตร์และศิลป์ให้การออกแบบการรักษา เพื่อให้ผลลัพธ์มีความสมดุลเข้ากันกับใบหน้าของคนไข้รายบุคคล
  • ใช้โปรแกรม Filler ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น – นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับแพทย์แล้วโปรแกรม Filler ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราควรให้ความสำคัญเช่นกันค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานจะทำให้ผลลัพธ์ได้ประสิทธิภาพและยืนยาวกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นของลอกเลียนแบบ อีกทั้งยังไม่ส่งผลกระทบตามมาภายหลังอีกด้วยค่ะ
  • รีวิวผลลัพธ์จากผู้มาใช้บริการจริง – ภาพรีวิวต่าง ๆ จากผู้ที่เคยมาใช้บริการนับว่าเป็นอีกหนึ่งข้อการันตีผลงานของคลินิกเหล่านั้นได้เลยว่ามีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ยิ่งที่ไหนที่มีรีวิวให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

จริง ๆ แล้วโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือเป็นอันตรายเลยค่ะ หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ในด้านโปรแกรมฉีด Filler รวมไปถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพียงเท่านี้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นก็จะประจักษ์แก่ใบหน้าของคุณอย่างไร้ความกังวลเลยค่ะ

ขั้นตอนการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • คนไข้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์ปัญหาใต้ตากับแพทย์ เพื่อทำการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้แบบรายบุคคล
  • จากนั้น แพทย์มีการพูดคุย สอบถามความต้องการของคนไข้ รวมถึงแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคนไข้
  • มีการทำความสะอาดใบหน้ารวมถึงบริเวณใต้ตา และมีการทาน้ำยาฆ่าเชื้อ แพทย์ทำการกำหนดบริเวณที่จะทำการฉีดสารเติมเต็ม และทำการแปะยาชา
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว จะเริ่มการฉีดสารเติมเต็มยังบริเวณที่ได้กำหนดไว้แล้ว
  • เมื่อเสร็จขั้นตอนการฉีดสารเติมเต็มแล้ว แพทย์จะมีการอธิบายวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องกับคนไข้ จากนั้น คนไข้สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

เตรียมตัวก่อนฉีด

หากเรามีความสนใจที่จะทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแนะนำว่าให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อพูดคุยรายละเอียด ปัญหาที่ต้องการแก้ไขและผลลัพธ์ที่เราอยากได้ จากนั้นแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ปัญหา พร้อมประเมินการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้ค่ะ และหากใครที่มีประวัติการแพ้ยา มีโรคประจำตัว มีโรคเกี่ยวกับผิวหนังแนะนำให้แจ้งประวัติดังกล่าวให้แพทย์ได้ทราบด้วยนะคะ

การดูแลหลังฉีด

  • ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ เพราะโปรแกรมฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการดื่มน้ำในจำนวนที่ร่างกายต้องการจะทำให้เกิดการฟื้นฟูที่ดีขึ้น
  • หลังทำควรงดการทำหัตถการอื่น ๆ เป็นอย่างนอก 4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น ความร้อนจากไดร์เป่าผม จากเตากระทะ หรือการอาบน้ำอุ่น
  • งดการสัมผัสใบหน้า ใช้มือถู กด หรือนวดแรง ๆ ในบริเวณที่ฉีด เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 24 ชั่วโมง
  • หากมีอาการบวมหรือช้ำสามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
  • ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ข้อดีของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม และยังเป็นวิธีที่หลายคนให้ความสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้

  • แก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่มีแผลผ่าตัด
  • สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโปรแกรมฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละราย
  • รักษาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหากเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสิ่งตกค้างในร่างกาย

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับอาการข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีรอยเข็ม รอยแดง อาการบวม ซึ่งถือว่าเป็นภาวะหรืออาการที่พบได้ตามปกติ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดค่ะ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะสามารถหายได้เองตามปกติ ซึ่งอาการบวมนั้นจะค่อย ๆ บรรเทาลงในเวลา 7-14 วัน ทั้งนี้ ระยะเวลาที่อาการดังกล่าวจะหายนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและร่างกายของแต่ละบุคคล โดยแนะนำให้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงสามารถใช้วิธีการประคบเย็นและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งได้ เพื่อช่วยให้อาการดังกล่าวหายเป็นปกติในระยะเวลาที่เหมาะสมได้ค่ะ

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตากับดอลลี่อาย เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับการทำโปรแกรมดอลลี่อายนั้นมีความเหมือนกันตรงที่ใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด แต่จะมีความแตกต่างกันในแง่ของจุดประสงค์ของการรักษาค่ะ ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มที่ใต้ตานั้นเพื่อทำการแก้ไขปัญหาใต้ตาต่าง ๆ เช่น ใต้ตาดำ หมองคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา มีร่องลึก ใต้ตาโบ๋ ใต้ตาลึก หรือมีถุงใต้ตา ช่วยทำให้ใต้ตากลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส ดูอ่อนวัย ส่วนการฉีดดอลลี่อายนั้น เป็นการฉีดสารเติมเต็มบริเวณชิดขอบตาล่าง (แนวขนตา) ทำให้ขอบตานั้นดูหนาขึ้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าของเราดูเด็กลง โดยทั้ง 2 บริการนี้สามารถทำควบคู่กันได้ ซึ่งสามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี

การทำโปรแกรมฉีดfiller ใต้ตา นอกจากจะต้องอาศัยความรู้หรือทักษะของแพทย์แล้วก็ยังต้องมาดูการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับปัญหาด้วยค่ะ บางผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับผิวชั้นตื้น บางผลิตภัณฑ์ก็เหมาะสำหรับฉีดเข้าไปที่ชั้นผิวลึก ดังนั้นการเลือกยี่ห้อจึงเป็นอะไรที่สำคัญมากเช่นกัน ฉีดแล้วจะต้องเข้ากับใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูมากจนเกินไป ทำให้หลายท่านเกิดข้อสงสัยว่าเราควรใช้โปรแกรม filler ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี

  • restylane – เป็นผลิตภัณฑ์จากสวีเดน มีประกอบไปด้วย 2 เทคโนโลยีด้วยกัน ได้แก่ OBT technology และ NASHA technology ทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถนำไปฟื้นฟูผิวได้หลากหลายบริเวณโดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
  • juvederm – เป็นผลิตภัณฑ์ที่จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ก็คือระยะเวลาของผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน สลายตัวช้า ให้ความเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่น หลายคนจึงนิยมนำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตากันค่ะ
  • neuramis – จากเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเรื่องของการเติมเต็มผิวให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นและยังช่วยเติมเต็มบริเวณใต้ตาชั้นลึกได้ด้วย ซึ่งแต่ละรุ่นจะถูกออกแบบมาโดยใช้ความหนาแน่นของสาร Hyaluronic acid (HA) ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้เข้ากับปัญหาต่าง ๆ ได้
  • belotero – โปรแกรมฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีรุ่นที่เป็นจุดเด่นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาใต้ตาได้ดี ช่วยคืนความอ่อนวัยให้แก่ใบหน้า

แต่ละยี่ห้อคุณสมบัติของการแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตาก็อาจจะแตกต่างกัน ทั้งนี้แนะนำให้คนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินสภาพผิว และจากนั้นแพทย์จะเป็นทำการเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อหรือรุ่นที่ตอบโจทย์ต่อปัญหามากที่สุดค่ะ

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ได้รับสารเติมเต็มไปในปริมาณเท่าไหร่ จำนวนกี่ CC และชนิดของโปรแกรม Filler ที่ใช้เติมเข้าไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้โดยจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและโครงสร้างใบหน้าของคนไข้รายบุคคลค่ะ

ซึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา หมอเมฆ ราคาจะอยู่ที่ 9900 บาท* ผู้ที่สนใจสามารถขอเข้ารับการวิเคราะห์เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวได้เลยค่ะ

Promotion RADIESSE
ลดราคา Filler 3cc
Ulthera Promotion

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหน รวมไปถึงการฉีดบริเวณใต้ตา จะเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นจากธรรมชาติและเลียนแบบไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายคนเรา รวมถึงผ่านเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทันสมัย จึงทำให้สารเติมเต็มมีความบริสุทธิ์ เข้ากันได้กีกับร่างกายเรา  แต่ทั้งนี้ การฉีดสารเติมเต็มที่บริเวณใต้ตาจะจะมีประสิทธิภาพได้ก็ต้องเลือกฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และที่สำคัญเลยคือ เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ มีทักษะในด้านการฉีดสารเติมเต็มค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ cc

การเลือกปริมาณ CC ที่ฉีดเข้าไปแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ค่ะ ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยปัญหาของผิวในบริเวณนั้น ส่วนมากโดยทั่วไปจะใช้โปรแกรม filler ใต้ตาข้างละประมาณ 1-2 CC หรือคนไข้ที่มีอายุอาจจะใช้ข้างละประมาณ 2-3 CC แล้วแต่รายบุคคลค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน

สำหรับระยะเวลาของผลลัพธ์หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน* โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดหรือยี่ห้อสารเติมเต็มที่เลือกใช้ รวมถึงปัจจัยในด้านของการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละราย ซึ่งหากอยากให้ผลลัพธ์อยู่กับเราไปได้นาน ๆ ฉีดมาแล้วคุ้มค่า ก็ต้องดูแลตัวเองกันอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ปัญหาใต้ตากลับมาใหม่ได้เร็วนั่นเองค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผล

หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ โดยปัญหาพวกริ้วรอย ร่องลึก ความหมองคล้ำจะถูกแก้ไขให้ดีขึ้น ทำให้บริเวณใต้ตากลับมาเรียบเนียนกระจ่างใส ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัยลง มีความสดใสขึ้น และหลังจากฉีดสารเติมเต็มไปแล้วประมาณ 3-5 วัน จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะสามารถเห็นผลได้อย่างเต็มที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีดค่ะ

ข้อแตกต่างระหว่างการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับ โปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา

หลายคนอาจสงสัยว่า โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและโปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา ทั้ง 2 หัตถการนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร จะเลือกแบบไหนดี ซึ่งจะขออธิบายไว้แบบนี้ค่ะว่า ทั้ง 2 หัตถการนี้ต่างก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาและเติมเต็มบริเวณใต้ตาได้เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของวิธีการ รวมถึงข้อดีและข้อด้อยกันบ้าง ดังนี้

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการใช้สารสังเคราะห์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด  เพื่อช่วยเติมเต็มบริเวณใต้ตา แก้ไขปัญหาริ้วรอย ใต้ตาที่ยุบตัว ใต้ตาดำหมองคล้ำ ทำให้ผิวใต้ตากลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส ริ้วรอยดูลดเลือน ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยได้

ข้อดีของเทคนิคนี้

  • เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด
  • โปรแกรมฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสิ่งตกค้าง
  • ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลผ่าตัด
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เสี่ยงที่ใต้ตาจะเป็นก้อนหรือเป็นคลื่น

ข้อด้อยของเทคนิคนี้

  • ให้ผลลัพธ์ประมาณ 18-24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร แต่ทั้งนี้ คนไข้สามารถกลับมาเติมเต็มใต้ตาได้อีกหรือกลับมาฉีดซ้ำในอนาคต เพื่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • อาจมีรอยเข็ม รอยแดง อาการบวมเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นอาการปกติ ไม่เป็นอันตราย และจะหายเป็นปกติได้เองตามธรรมชาติในระยะเวลาไม่กี่วัน

โปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา

สำหรับวิธีการทำโปรแกรมฉีดไขมันใต้ตาเป็นเทคนิคที่นำไขมันของตัวคนไข้เองมาฉีดบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มและแก้ปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการดูดไขมันส่วนเกินของคนไข้ออกมา แล้วนำมาผ่านกระบวนการปั่นคัดแยกเพื่อให้ได้เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ แล้วนำมาฉีดไขมันใต้ตา

ข้อดีของเทคนิคนี้

  • เป็นการใช้เซลล์ไขมันของตัวคนไข้เอง ไม่ใช้สิ่งแปลกปลอม
  • ผลลัพธ์ที่ได้อาจคงอยู่ได้นานเป็นปี* (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย, คุณภาพของเซลล์ไขมันที่ได้ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละราย)

ข้อด้อยของเทคนิคนี้

  • มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนกว่า ต้องมีการดูดไขมันและฉีดไขมัน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่า
  • ในขั้นตอนของการเก็บไขมันจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ มีความปลอดเชื้อ และต้องมีการคัดแยกเซลล์ไขมันที่ได้มาตรฐาน ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ในด้านนี้ หากเกิดความผิดพลาดอาจทำให้เซลล์ไขมันที่ฉีดไปตายเยอะ ฉีดแล้วไม่ติด ไม่ทน หรือแม้กระทั่งการอักเสบติดเชื้อจากกระบวนการที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องมือไม่สะอาด มีเชื้อโรคหริอสิ่งแปลกปลอมเจือปน
  • ต้องมีการเจ็บตัวและเปิดแผลหลายตำแหน่งกว่า
  • ต้องมีการพักฟื้นหลังทำและมีการดูแลตัวเองที่ต้องระมัดระวังมากกว่า
  • เทคนิคนี้ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ในเรื่องการยกกระชับผิวได้ เนื่องจากไขมันที่ใช้นั้นไม่มีความคงตัว แตกต่างจากเนื้อเจลของโปรแกรมฟิลเลอร์ที่คงตัวได้สูง มีความยืดหยุ่นดี จึงสามารถยกกระชับได้

สำหรับการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับตัวเราเองนั้น หรือบางท่านอาจจะยังเลือกไม่ถูกระหว่างโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและโปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา แนะนำคนไข้ให้พิจารณาศึกษาถึงข้อดีและข้อด้อยของแต่ละบริการอย่างถี่ถ้วน รวมถึงหาความต้องการของตัวเอง เช่น หากอยากได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น ไม่อยากมีอาการบวมช้ำหรือการดูแลตัวเองที่ยุ่งยาก การฉีดสารเติมเต็มใต้ตาเป็นวิธีที่แนะนำและเหมาะสมมาก ทั้งนี้ คนไข้สามารถเข้ารับการตรวจวิเคราะห์และร่วมพูดคุยปรึกษากับแพทย์ เพื่อเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และตรงกับความต้องการของคนไข้ก่อนตัดสินใจค่ะ

หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร

หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดได้จากการใช้สารเติมเต็มปลอมที่มีส่วนผสมของสารไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของปัจจัยของแพทย์ที่ไม่มีความรู้ด้านการรักษา เลือกใช้เทคนิคไม่เหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับใบหน้าคนไข้ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใต้ตาเป็นก้อนได้ค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน แก้ไขได้ไหม

เมื่อเกิดปัญหานี้แล้วขอแยกเป็น 2 กรณี ก็คือ ในกรณีแรกถ้าหากว่าคนไข้มีปัญหาผิวเป็นก้อนจากการใช้โปรแกรม Filler ได้มาตรฐาน ที่มีสาร Hyaluronic Acid (HA) ก็สามารถแก้ไขด้วยการทำโปรแกรมฉีดสลาย Hyaluronidase ได้เลยค่ะ แต่ในกรณีที่สองคือถ้าคนไข้ไปฉีดโปรแกรม Filler ไม่ได้มาตรฐานมาอาจจะต้องแก้ไขด้วยการขูดออกหรือผ่าตัดออก ซึ่งทั้งสองกรณีนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีทักษะและความรู้เท่านั้นนะคะ

  • โปรแกรมสลายฟิลเลอร​์ เห็นผลเมื่อไหร่

หลังจากที่แพทย์ทำโปรแกรมสลาย Filler ด้วยสาร Hyaluronidase ไปแล้ว คนไข้จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำเป็นบางส่วน โดยตัวยาจะเริ่มทำงานอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง จากนั้นคนไข้จะเริ่มสังเกตได้ว่าก้อนจะเริ่มค่อย ๆ ยุบตัวลงเรื่อย ๆ  ซึ่งยาสลายจะยังคงออกฤทธิ์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

  • สามารถกลับมาฉีดสลายซ้ำอีกรอบได้ไหม

หากยังมีอาการบวมเป็นก้อนอยู่สามารถกลับมาฉีดซ้ำอีกรอบได้ค่ะ ในส่วนนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาให้อีกรอบถึงจำนวนครั้งและระยะห่างของการมาฉีดในแต่ละรอบ สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาได้เลยค่ะ

รับโปรโมชั่นพิเศษ คลิกเลย!

ทำไมต้องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Doctor Mek Clinic

  • ออกแบบการรักษาด้วยเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ความต้องการ

ก่อนการรักษาจะมีแพทย์เข้ามาประเมินสภาพปัญหาผิวของคนไข้เบื้องต้น ร่วมกับการพูดคุยถึงความต้องการของคนไข้ จากนั้นแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหารายบุคคล นั่นจึงทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต่อใบหน้าของคนไข้นั้นจะดูดีขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง ดูเป็นธรรมชาติในแบบที่คุณต้องการ

  • แพทย์ผู้สอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ และทีมแพทย์เป็นผู้ดูแลทุกเคส

นำทีมโดยคุณหมอเมฆ แพทย์ผู้สอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ มีทักษะเกี่ยวกับการออกแบบ แก้ไขปัญหาบนใบหน้าของคนไข้ ฟื้นฟูปัญหาได้ตั้งแต่ต้นตอก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่ผู้มาใช้บริการหลายท่านให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด

  • เห็นความเปลี่ยนแปลงจากรีวิวผู้มาใช้บริการ

โปรแกรม Filler เป็นหัตถการที่หลายคนมีการบอกต่อกันผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และทางคลินิกก็เผยให้เห็นถึงภาพเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลัง รวมไปถึงการไลฟ์สดให้เห็นกันชัด ๆ ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สามารถดูรีวิวชัด ๆ ได้ตามแฟนเพจ Facebook ของทางคลินิกได้เลยค่ะ

  • โปรแกรมฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ ทุกชนิดสามารถตรวจสอบได้

หมดปัญหาสำหรับคนที่กลัวโปรแกรม Filler ไม่ได้มาตรฐาน เพราะที่นี่เราเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สามารถให้ผู้เข้ารับบริการตรวจสอบแหล่งที่มาได้ทุกยี่ห้อและทุกชิ้น พร้อมแกะให้ดูต่อหน้าก่อนการรักษาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคน

  • บุคลากรให้คำปรึกษาและให้บริการด้วยความจริงใจ

การบริการที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาใช้บริการตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาภายในคลินิก พร้อมคำแนะนำที่ดีเปรียบเสมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งบุคลากรภายในคลินิกจะมีการเทรนในเรื่องด้านงานบริการ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทรนความงามต่าง ๆ ทำให้พนักงานสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้มาใช้บริการ

  • ภายในสะอาด สบายตา พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบาย

ความสะอาดภายในคลินิกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราเน้นมาโดยตลอด จะสังเกตได้ว่าภายในเราจะจัดสรรเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้องหัตถการ ห้องรับรอง พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือการรักษา มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกครั้ง นอกจากนี้การเดินทางมาที่นี่ก็ยังให้ความสะดวกสบาย ใกล้กับรถไฟฟ้า ถนนเส้นหลักและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

สรุป

โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ของแพทย์ในการรังสรรค์เติมเต็มเข้าไปในชั้นผิว ต้องอาศัยทั้งเทคนิคและทักษาะเป็นอย่างมากเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การเลือกคลินิกจึงมีความสำคัญ หากใครสนใจเลือกใช้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์กับคุณหมอเมฆที่ Doctor Mek Clinic สามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามช่องทางที่ขึ้นอยู่ทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ) แพทย์ผู้สอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมร้อยไหม