Hifu

Hifu (ไฮฟู่) นวัตกรรมแห่งการยกกระชับ ปรับรูปหน้าและสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด

Hifu (ไฮฟู่) เทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย สร้างกรอบหน้าชัด พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อีกครั้งแม้ไม่มีขั้นตอนของการผ่าตัด จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมเป็นอันดับแรก ๆ ที่หลายคนพุ่งเป้าและให้ความสนใจด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น มีความหลากหลาย ไม่เป็นอันตรายและมีความปลอดภัยสูง สำหรับใครที่กำลังมองโปรแกรมนี้เป็นทางเลือกและต้องการข้อมูลเกี่ยวกับไฮฟู่ให้มากขึ้นตั้งแต่มันช่วยอะไร เหมาะกับใคร ผลลัพธ์อยู่ได้กี่เดือน มีข้อดีหรือข้อควรระวังอย่างไร ราคาเท่าไหร่ เราได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ที่นี่แล้วค่ะ รวมไปถึงรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่ทำให้ทุกท่านอ่านจบแล้วสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

Hifu คืออะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร

Hifu (ไฮฟู่) คือนวัตกรรมการยกกระชับผิวและสัดส่วน โดยมีเทคโนโลยีพิเศษที่ชื่อว่า High Intensity Focus Ultrasound ที่สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า แก้ม คอ รวมไปถึงต้นแขน ต้นขา หรือสัดส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้ตามความต้องการ ด้วยหลักการทำงานของคลื่น Ultrasound (อัลตราซาวนด์) จะมีการเปลี่ยนจากคลื่นเสียงเป็นพลังงานความร้อนที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่มีอิทธิพลต่อการยกกระชับและความยืดหยุ่นของผิว เมื่อคลื่นอัลตราซาวนด์ส่งพลังงานเข้าไปแล้วกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นจะเกิดการหดตัวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง กระชับขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยดูลดเลือนลง ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้รูปโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายและผิวหนังอีกด้วยค่ะ

Hifu คืออะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร

โปรแกรม Hifu มีกี่แบบ

Hifu จริง ๆ แล้วมีอยู่หลายแบบหลายยี่ห้อตามผู้ผลิตในแต่ละประเทศ แต่สามารถแบ่งออกมาได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ คือแบ่งตามชนิดของหัวยิงและลักษณะการเรียงตัว ได้แก่

  • ชนิดของหัวยิง

โปรแกรมนี้ค่อนข้างมีหัวยิงที่หลากหลายที่นำมาใช้ในระดับความลึกของชั้นผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งมันแบ่งออกมาได้เป็น 3 ระดับคือ

  1. หัวยิงที่มีความลึก 1.5-2.0 mm. – เหมาะสำหรับนำมาใช้บริเวณผิวหนังชั้นบนที่มีริ้วรอยในระดับที่ไม่ลึกมาก
  2. หัวยิงที่มีความลึก 3.0 mm. – เหมาะสำหรับนำมาใช้บริเวณผิวหนังชั้นกลาง ลดไขมันเซลล์ลูไลท์ ลดความหย่อนคล้อยพร้อมกระชับใบหน้า
  3. หัวยิงที่มีความลึก 4.5 mm. – เหมาะสำหรับนำมาใช้กับบริเวณผิวหนังชั้นลึก (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการศัลยกรรม ใช้ยกแก้มและเหนียง
ชนิดของหัวยิง
  • ลักษณะการเรียงตัว

Single Shot – หัวยิงมีลักษณะเป็นหัวกลม ๆ ยาว ๆ โดยจะมีการปล่อยพลังงานทีละจุด 

Multiple shots in Line – จะมีลักษณะเป็นหัวยิงแบน สามารถปล่อยพลังงานได้ออกมาทีละ 10-40 จุด ต่อ 1 shot เมื่อยิงออกมาแล้วจะเรียงตัวกันเป็นเส้น ๆ (Line) จึงทำให้หัวยิงนิดนี้มีประสิทธิภาพที่มากกว่าแบบแรก

ลักษณะการเรียงตัว

ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำโปรแกรมยกกระชับ Hifu

Hifu ช่วยอะไรได้บ้าง ? ขอเกริ่นก่อนว่าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกลไกการทำงานของผิวก็จะลดประสิทธิภาพลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยขาดความกระชับ อีกทั้งยังสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินลงอีกด้วย Hifu จึงถูกออกแบบการทำงานมาเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในทุก ๆ ชั้นผิวและกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้นกว่าเดิม ลดไขมันตามจุดต่าง ๆ ทำให้ผิวมีความเต่งตึง เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ หรือให้กล่าวโดยสรุปผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ ก็คือ

  • ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับมากยิ่งขึ้น
  • ไขมันส่วนเกินหายไป ทำให้หน้าเรียวสวยได้รูป
  • รูขุมขนมีความเล็กลง
  • ริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ ดูลดเลือนลง
  • ใบหน้าจากที่เคยหมองคล้ำก็จะดูสดใสมากขึ้น
  • ผิวมีความเรียบเนียน อ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติ
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองได้เป็นอย่างดี
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำโปรแกรมยกกระชับ Hifu

หัตถการนี้สามารถทำได้ที่บริเวณไหนได้บ้าง

โปรแกรมนี้สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณในร่างกายที่เราต้องการให้ผิวกระชับ ส่วนมากจะนิยมทำบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง หรือแม้แต่บริเวณสัดส่วนอื่น ๆ อย่างต้นแขน ต้นขา โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

  • บริเวณใต้ตา

เป็นบริเวณที่หลายคนอาจจะไม่ได้คุ้นเคยมากนักแต่โปรแกรมนี้สามารถทำบริเวณใต้ตาได้ด้วยค่ะ ซึ่งมันจะช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ บริเวณรอบดวงตาได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวรอบดวงตาดูเต่งตึง กระชับ มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยส่วนมากผู้คนมักจะนิยมทำ Hifu ใต้ตาร่วมกับหัตถการอื่น ๆ อย่างเช่น ฟิลเลอร์

  • บริเวณแก้ม

เป็นตำแหน่งยอดฮิตมากเลยทีเดียวสำหรับ Hifu ลดแก้ม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไขมันที่แก้มเยอะ แก้มหย่อนคล้อย ซึ่งหัตถการนี้ก็จะช่วยให้ผิวยกกระชับ ไขมันที่แก้มลดลง เก็บกรอบหน้าให้เรียวสวยได้รูป พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่แข็งแรงยิ่งขึ้น

  • บริเวณใต้คาง หรือเหนียง

บริเวณนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนเลือกให้โปรแกรม Hifu ช่วยแก้ไขปัญหา มันจะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินเยอะ มีคางสองชั้น ซึ่งไฮฟู่ก็จะช่วยทำให้ผิวบริเวณนี้กระชับขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถยกกระชับผิวบริเวณลำคอได้อีกด้วย

  • ส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย

ไม่เพียงแค่ใบหน้า แต่ยังทำได้ตามลำตัวอย่างต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก หรือหน้าท้องก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งบริเวณเหล่านี้มักเป็นที่สะสมของไขมันส่วนเกิน และยังเป็นบริเวณที่ผิวเกิดความหย่อนคล้อยมากที่สุด ดังนั้นโปรแกรมไฮฟู่จึงเข้ามาช่วยให้ผิวกระชับขึ้นได้อบบไม่ต้องผ่าตัดเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ยังสามารถทำได้ในบริเวณร่องมุมปาก ร่องแก้ม หน้าผาก และกรอบหน้าได้ด้วย ทุกการรักษาแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน เลือกใช้หัวเลเซอร์และปรับค่าพลังงานที่แตกต่างกันไปตามสภาพปัญหาผิวของแต่ละคน

Hifu เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือผิวขาดความกระชับ
  • คนที่ต้องการลดแก้ม ลดเหนียง หรือต้องการสร้างกรอบหน้าชัด
  • คนที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ไม่ลึกมาก หรือมีปัญหาร่องใต้ตา ร่องแก้ม
  • คนที่ต้องการความเต่งตึง แน่นกระชับของผิวแต่ไม่มีเวลาพักฟื้น
Hifu เหมาะกับใคร

ข้อดีของการทำ Hifu

  • ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยพร้อมสลายไขมันตามสัดส่วนได้บางจุด
  • ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา มันจึงสามารถรักษาเป็นใต้ตาหรือรอบ ๆ ดวงตาได้
  • เป็นหัตถการที่สามารถทำได้เรื่อย ๆ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง ไม่เป็นอัตราย
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่มีรอยแดงช้ำ สามารถกลับไปใช้ชีวิต แต่งหน้าได้ตามปกติ
  • ไม่ต้องใช้เต็ม ไม่มีการผ่าตัด เหมาะสำหรับคนกลัวเข็มหรือกลัวการทำศัลยกรรม
  • สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวังในการใช้บริการ

  • ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบเรื้อรังหลายจุดบนใบหน้า
  • ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีรากฟันเทียม หรือมีอุปกรณ์โลหะฝังอยู่ในร่างกาย
  • ผู้ที่มีบาดแผล หรือแผลเปิดบริเวณผิวแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการจนกว่าแผลจะหายดี
  • บริการนี้ไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร

ระวัง ! ของปลอมระบาดหนัก Hifu เครื่องแท้-เครื่องปลอม ดูยังไงเช็กเลย !

เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งคำถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องไหนที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย ทำแล้วได้ผลลัพธ์ดีโดยไม่ต้องห่วงถึงผลกระทบที่ตามมา ? เพราะในปัจจุบันเวลาเข้าคลินิกเสริมความงามก็แทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าเครื่องไหนเครื่องแท้-เครื่องปลอม หรือจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดผลกระทบกับใบหน้าไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพามาดูวิธีเช็กเครื่องที่ได้มาตรฐานกันค่ะ

  • Hifu เครื่องแท้

เครื่องแท้หรือเครื่องที่ได้มาตรฐานจะต้องนำเข้ามาอย่างถูกต้องจากประเทศที่ผลิตและอย.ไทย ซึ่งคลินิกที่มีการนำเข้าเครื่องแท้จะต้องมีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่ได้รับรองโดยบริษัทผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าเครื่อง Hifu โดยหลังทำไปแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผิวยกกระชับขึ้นจริงและไม่เกิดผลกระทบต่อผิวหนังและร่างกาย

  • Hifu เครื่องปลอม

สำหรับเครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานจะมีการลอกเลียนแบบภายนอกที่เหมือนกับของแท้ แต่ภายในเครื่องไม่มีวงจรการรักษาที่ได้มาตรฐานเลย ส่วนมากจะมาจากประเทศจีนที่มีราคาค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีต้นทุนการนำเข้าไม่แพง สังเกตได้จากคลินิกที่มีราคาถูกยิงไม่จำกัด Shot เพราะเครื่องแท้มีต้นทุนสูงจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทำไฮฟู่ 1 ครั้งจะมีราคาถูก เมื่อยิงแล้วจะไม่รู้สึกอะไร ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง และยังเสี่ยงหน้าไหม้ หน้าเบิร์นหรือเป็นแผลในปากได้ เพราะมีค่าพลังงานที่ไม่เสถียร อีกทั้งบางจุด focus ยังให้พลังงานที่ส่งออกไปไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกเครื่องที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาดเลยค่ะ

พิเศษกว่าหากเข้ามาใช้บริการ Hifu ที่ Doctor Mek Clinic

  • ให้ความปลอดภัยขั้นสุดด้วยการนำเข้าเครื่องที่ได้มาตรฐาน

Doctor Mek Clinic ใช้เครื่องไฮฟู่ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาเกาหลี (KFDA) และองค์การอาหารและยาของไทย (TH FDA) หรืออย. นอกจากนี้ยังมีใบอนุญาตรับรองการใช้เครื่องแท้จากบริษัทนำเข้าเครื่องไฮฟู่

  • ให้การดูแลด้วยมาตรฐานอาจารย์แพทย์

มาตรฐานอาจารย์หมอเมฆ ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง ที่ให้การดูแลพร้อมถ่ายทอดเทคนิคให้กับทีมแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและให้ความแม่นยำทุกการรักษา

  • มีหัวยิงที่หลากหลายเพื่อรองรับปัญหาทุกรูปแบบ

ไม่ว่าปัญหาไหนก็เอาอยู่ เพราะเรามีหัวยิงให้เลือก 2 แบบได้แก่

  1. Pen Applicator – เป็นหัวยิงเรียวเล็กที่สามารถเข้าถึงบริเวณแคบ ๆ หรือร่องเล็กได้อย่างดี ซึ่งหัวยิงนี้ก็ยังมีด้วยกัน 3 ระดับที่สามารถส่งพลังงานไปได้ถึง 3 ชั้นผิว คือชั้นหนังกำพร้า ชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน
  2. Line Cartridge – เป็นหัวยิงที่มีขนาดใหญ่กว่าชนิดแรก มีลักษณะเป็นทรงเหลี่ยม เน้นนำมายกกระชับในพื้นที่กว้าง อย่างกรอบหน้า โหนกแก้ม ลำคอหรือเหนียง
  • เลือกใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้เจ็บน้อยกว่าเครื่องไฮฟู่ทั่วไป

เราเลือกใช้ Thermal Diffusion Treatment (TDT™) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Liftera เป็นเทคโนโลยีที่สามารถส่งพลังงานเข้าสู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ และให้ช่วงความยาวคลื่นรวมไปถึงอุณหภูมิในระดับที่มีความเหมาะสมกับผิว ทำให้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนัง ไม่ทำให้เจ็บเหมือนเครื่องไฮฟู่ทั่วไป 

  • เราเลือกปล่อยพลังงานด้วยคลื่นโฟกัสอัลตราซาวด์

คุณสมบัติของคลื่นชนิดนี้จะค่อนข้างต่างจากคลื่นความถี่ทั่วไป เนื่องจากมันเป็นคลื่นความถี่สูงเข้มข้นและมีความเฉพาะเจาะจง ส่งพลังงานเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้อย่างตรงจุด และยังคงสภาพอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ส่งพลังงานที่เสถียรภาพและมีความแม่นยำสูง

คลินิกของเราถูกออกแบบมาเป็นพิเศษคือให้พลังงานที่มีความแม่นยำสูง มีเสถียรภาพที่ดีทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน และทำให้คนไข้รู้สึกถึงความผ่อนคลายระหว่างทำ

พิเศษกว่าหากเข้ามาใช้บริการ Hifu ที่ Doctor Mek Clinic

รีวิวโปรแกรมยกกระชับ Hifu จากผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ

หลายท่านที่เข้ามาใช้บริการโปรแกรมยกกระชับไฮฟู่ต่างประทับใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษา เพราะเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผิวกลับมากระชับและดูเต่งตึงขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงโดยเฉพาะบริเวณเหนียงใต้คาง กรอบหน้าดูชัดขึ้น

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล

บางเคสทำไปแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร

หลายเคสที่ทำไปแล้วแทบไม่เห็นผล หรือบางเคสไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเลย เราเลยมาแบ่งกันให้แบบเข้าใจง่าย ๆ ไปเลยว่าการรักษาที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

  1. ขึ้นอยู่กับจุดโฟกัส
    จุดโฟกัสก็คือจุดที่ปล่อยพลังงานลงสู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งมีความสำคัญพอ ๆ กับจำนวน Shot เลยล่ะค่ะ จากรูปประกอบให้สังเกตรูป A และ B จะเห็นจุดโฟกัสมีความแตกต่างกันอย่างมาก หัวยิง A จะปล่อยพลังงานออกมาแค่ 1 Shot ต่อ 1 จุด ในขณะเดียวกันหัวยิงแบบ B ทำได้ 100 shot ต่อ 40 จุด หากในสถานความงามที่มีโฆษณาว่า Hifu 3,000 shot ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าคลินิกนั้นมีหัวยิงแบบ A ซึ่งผลลัพธ์มันอาจจะไม่ได้เห็นผลเท่าหัวยิงแบบ B ค่ะ
  2. ขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการยิง
    ถึงแม้ว่าในปกติตัวเครื่องรวมไปถึงอุปกรณ์จะมีค่าตั้งค่าแนวการยิงและพลังงานไว้อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันผู้มาใช้บริการแต่ละคนก็จะมีปัญหาและสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแนวการยิงจะต้องไม่เหมือนกันและควรปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน นอกจากนี้ลักษณะการวางหัวยิงยังส่งผลต่อการกระจายตัวของพลังงานที่เข้าสู่ผิวของเราอีกด้วยค่ะ
  3. ขึ้นอยู่กับจำนวน Shot
    เพราะจำนวน Shot น้อยมักจะไม่ค่อยเห็นผล และแทบไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย หรือในกรณีที่มีจำนวน Shot ที่เยอะเกินไปอาจทำให้เกิดพลังงานสะสมใต้ชั้นผิวเป็นจำนวนมาก ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือทำให้ผิวมีความหย่อนคล้อยลงไปได้ค่ะ ดังนั้นทุกการรักษาแนะนำให้เช็กทั้งราคาไปจนถึงจำนวน Shot ให้ดีเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโฆษณาการตลาด
  4. ขึ้นอยู่กับเครื่องโปรแกรม
    เพราะเครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพอาจนำพาความอันตรายหรือผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าที่ควรมาสู่เราได้ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอาจมาจากเครื่องไฮฟู่ที่มีต้นทุนต่ำ ไม่ได้มาตรฐานที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เพราะมันเป็นเครื่องที่ต้องอาศัยการปรับจูนพลังงานอยู่บ่อย ๆ และตัวเครื่องไม่ได้มีความเสถียรภาพเท่ากับเครื่องโปรแกรมอื่น ๆ 
  5. ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา
    ในทุก ๆ การรักษาเรามักจะย้ำอยู่เสมอว่าความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ถึงแม้จะใช้เครื่องที่ได้มาตรฐานแค่ไหน แต่หากแพทย์ไม่มีความชำนาญในการใช้โปรแกรม ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะไม่มีประสิทธิภาพที่ดีมากพอนั่นเองค่ะ

ก่อนทำควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

  • งดรับประทานยาประเภทที่ส่งผลต่อการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  • เตรียมร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการ
  • ก่อนทำ 1 สัปดาห์งดการอาบแดด ซาวน่า เพื่อลดโอกาสใม่ให้ผิวหน้าบวมแดง
  • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปัญหาและความต้องการก่อนใช้บริการ

หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับหรือถูที่บริเวณใบหน้าแรง ๆ 
  • สามารถบำรุงผิวหน้า หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
  • ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูคอลลาเจน
  • หลีกเลี่ยงการสครับผิว ขัดผิวเป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 สัปดาห์

หลังทำกี่วันถึงจะเห็นผล

โดยปกติแล้วหลังทำจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในทันทีประมาณ 30% และประมาณ 1-2 สัปดาห์จะเริ่มสัมผัสได้ถึงผิวที่มีความกระชับขึ้น โดยผลลัพธ์มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นและเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 1-2 เดือนค่ะ *ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

สำหรับในส่วนของผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้ราว ๆ 5-6 เดือน หรือบางรายอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากดูแลตัวเองอย่างดีปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ควบคุมปริมาณการกินหรือออกกำลังกายสร้างความกระชับให้กับผิว ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นด้วยค่ะ

หัตถการนี้ทำได้บ่อยแค่ไหน

Hifu ทำได้บ่อยแค่ไหน ? ถ้าหากว่าคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์คงประสิทธิภาพอยู่ได้เรื่อย ๆ สามารถกลับเข้ามาทำได้ตลอดโดยเว้นระยะห่าง 3 เดือน ในช่วงแรกหลังจากนั้นสามารถกลับมาทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิดเกิดการหย่อนคล้อยและคงความกระชับในอนาคต

Hifu มีค่าบริการราคาเท่าไหร่

ราคาเริ่มต้นของโปรแกรม Hifu จะอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท* ขึ้นอยู่กับจำนวน line ที่ยิง ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินให้ว่าบริเวณใบหน้าหรือสัดส่วนที่ต้องการยกกระชับควรใช้จำนวน line เท่าไหร่จึงจะมีความเหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่คลินิกจัดขึ้นร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถทักเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนได้ตามช่องทางการติดต่อ หรือแอดไลน์ LineOA : @doctormekclinic

สรุป

Hifu อันตรายไหม 

เป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ที่เป็นคลื่นชนิดเดียวกันกับเครื่องอัลตราซาวนด์ที่ใช้ตรวจครรภ์ จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยและไม่เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกายและผิวหนัง และเพื่อความปลอดภัยขั้นสุดแนะนำให้เลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน นำเข้าเครื่องมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีแพทย์ประจำคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการรักษา

ระหว่างทำ Hifu เจ็บไหม 

การทำไฮฟู่อาจทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บในระดับนึง เนื่องจากมันเป็นหัตถการที่มีคลื่นความเข้มข้นสูงเข้าไปทำปฏิกิริยาถึงชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)  เผื่อให้ผิวเกิดการยกกระชับ แต่เครื่องที่ Doctor Mek Clinic ใช้จะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างทำมากขนาดนั้น หรือรู้สึกจี๊ด ๆ เพียงเล็กน้อยอยู่ในระดับที่ทนได้ค่ะ

หลังทำหน้าบวมไหม บวมกี่วัน 

บางคนอาจมีอาการบวมหรือแดงเล็กน้อยหลังทำโปรแกรมไฮฟู่ แต่มันจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือบางเคสอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ อาหารเหล่านี้จึงจะหายกลับมาเป็นปกติ ซึ่งไม่ต้องตกใจค่ะมันสามารถเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน แนะนำให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

หลังทำสามารถออกกำลังกายได้ไหม 

หลังทำสามารถออกกำลังกายได้ค่ะ เพื่อเพิ่มความกระชับให้กับผิว แต่แนะนำว่าในช่วงแรก ๆ  1 สัปดาห์แรกควรออกกำลังกายเบา ๆ ไปก่อน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน หรือหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วไม่ควรใช้ผ้าถูหน้าหรือเช็ดเหงื่อแรง ๆ เพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ

โปรแกรม Hifu ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม 

หลายคนที่อยากจะทำไฮฟู่ร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ก็สามารถทำได้นะคะ เช่น ทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ร้อยไหม เมโสแฟตหรือหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความชัดเจนและเห็นผลเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะต้องประเมินร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าปัญหาของคนไข้ที่ต้องการแก้ไขแต่ละเคสมีปัญหาหรือมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนหากทำร่วมกับโปรแกรมอื่น บางรายทำแค่ไฮฟู่โปรแกรมเดียวก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนแล้วค่ะ

เป็นหนึ่งในโปรแกรมยกกระชับที่ได้เสียงตอบรับความประทับใจมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยหัวยิงที่หลากหลายรองรับกับทุกปัญหาได้อย่างตรงจุด สำหรับใครที่สนใจโปรแกรม Hifu (ไฮฟู่) เข้ามาที่ Doctor Mek Clinic ได้เลยค่ะ เรายินดีให้บริการและพร้อมเป็นที่ปรึกษาความงามที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาเรื่องความงามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ