ถ้าจะพูดถึงการฉีดโบหรือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน แบรนด์น้องใหม่ที่เปิดตัวในบ้านเราไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ คงต้องยกให้โบท็อกซ์ Aestox สัญชาติเกาหลีเลยค่ะ เพราะเป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซินที่มีคุณภาพทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงได้กับโบอเมริกาเลย แต่มาในราคาน่ารักสบายกระเป๋า จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Aestox เป็นที่ถูกพูดถึงกันเกรียวกราวในแวดวงของการลดเลือนริ้วรอยค่ะ วันนี้ใครที่กำลังสนใจเกี่ยวกับโบน้องใหม่สัญชาติเกาหลีแบรนด์นี้อยู่ Doctor Mek Clinic เราก็ไม่พลาดนำข้อมูลทั้งหมดมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วไปออก Start! กันได้เลยค่ะ
ทำความรู้จักโบท็อกซ์ Aestox
Aestox คือ ยี่ห้อของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) หรือโบท็อกสัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งนำมาใช้ในด้านการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดกราม ลดน่อง รวมถึงยังช่วยลดเหงื่อซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นกายได้อีกด้วย สำหรับโบท็อกซ์ Aestox เป็นแบรนด์ที่นำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma (บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์รวมถึงยาจากทั่วโลก นอกจากนี้ Aestox ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองในด้านมาตรฐานและความปลอดภัยอย่างถูกต้องจากอย. ในไทย (Thai FDA), เกาหลีใต้ (KFDA) รวมถึงในยุโรป (E.U.FDA)
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม
ความโดดเด่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณภาพของ Aestox ก็คือ เป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ได้รับการค้นคว้า วิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชมากว่า 5 ปี เพื่อให้ได้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการดื้อโบตามมา และยังมีประสิทธิภาพเหมาะกับนำมาใช้ในคนไทย ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย ลดกราม ลิฟกรอบหน้า ย้อนวัยให้ผิวหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นอกจากนี้ Aestox ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงได้กับโบท็อกตัวดังจากฝั่งอเมริกาเลย และยังได้รับรองอย่างถูกต้องจากอย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยถ้าจะถามว่าโบท็อกซ์ Aestox ดีไหม ปลอดภัยหรือไม่ ก็คงการันตีได้จากมาตรฐานที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
4 คุณสมบัติของโบท็อกซ์ Aestox
จากความโดดเด่นในแง่ของคุณภาพที่มีอยู่ใน Botox Aestox ที่อธิบายไว้ข้างต้นแล้ว เดี๋ยวเรามาเจาะลึกลงไปกันอีกค่ะว่า เจ้าโบเกาหลีพรีเมียมตัวนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติอื่น ๆ อะไรกันอีกบ้างค่ะ
- Stability เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่มีความเสถียรและยังถูกควบคุมคุณภาพอย่างเข้มข้น ซึ่งทำให้ได้มาตรฐานในด้านการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ดี การันตีได้จากการรับรองของ KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้), Thai FDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) และ E.U.FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหภาพยุโรป)
- Safety & Efficacy ตัวยาใน Aestox มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์เร็ว และฉีดไปแล้วเห็นผลได้ไว
- Purity ด้วยตัวยาที่ได้รับพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์กว่า 99.5% ช่วยลดโอกาสที่จะดื้อยา ดื้อโบ
- Natural Look ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ไม่หนักหน้า ไม่แข็งทื่อ หน้าไม่ตึง ไม่โป๊ะ
Aestox ฉีดตรงไหนได้บ้าง ช่วยเรื่องอะไร ใช้กี่ยูนิต
- โบท็อกหน้าผาก ใช้ปริมาณ 15-20 ยูนิต ช่วยลดเลือนริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ผิวหน้าผากเรียบเนียนดูเต่งตึง
- โบท็อกลดกราม ใช้ปริมาณ 50-80 ยูนิต ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ปรับใบหน้าให้เรียวเล็กลง
- โบท็อกลดริ้วรอย ใช้ปริมาณ 15-25 ยูนิต (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการฉีด) ช่วยลดเลือนริ้วรอยใบหน้า เช่น สันจมูก ข้างจมูก ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหางตา รอยตีนกา หรือบริเวณใต้ตา เป็นต้น
- โบท็อกยกคิ้ว ใช้ปริมาณ 10-15 ยูนิตต่อข้าง ช่วยได้ทั้งการลดเลือนริ้วรอยระหว่างคิ้ว และยกหางคิ้ว
- โบท็อกปีกจมูก ใช้ปริมาณ 5-10 ยูนิตต่อข้าง ช่วยให้กล้ามเนื้อที่ขยับปีกจมูกให้กางออกหดตัวลง ทำให้ปีกจมูกกางออกได้น้อยลงเวลาแสดงสีหน้า
- โบท็อกแขน ใช้ปริมาณ 50-100 ยูนิตต่อข้าง ช่วยลดกล้ามเนื้อที่แขนให้นิ่มและเล็กลง ทำให้แขนเรียวขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาแขนใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ
- โบท็อกน่อง ใช้ปริมาณ 100-200 ยูนิตต่อข้าง (ขึ้นอยู่กับาขนาดของกล้ามเนื้อ) ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณน่องขาเล็กลง ปรับน่องขาให้เรียวเล็ก
- โบท็อกลดเหงื่อ ช่วยลดเหงื่อบริเวณรักแร้ (50-100 ยูนิตต่อข้าง) ฝ่ามือ (50-100 ยูนิตต่อข้าง) และฝ่าเท้า (80-100 ยูนิตต่อข้าง) อันเป็นสาเหตุของกลิ่นกาย และช่วยให้ใช้ชีวิตประจำวันได้สบายมากขึ้น
Aestox Botox ราคาเท่าไหร่
ที่ Doctor Mek Clinic การฉีด Aestox Botox ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,999 บาท* Aestox 100u ราคา 6,999 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันในไปแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปริมาณตัวยาที่ใช้ ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากความเหมาะสมของคนไข้ในแต่ละเคสค่ะ นอกจากนี้ ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาเลือกใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดโบท็อกร่วมด้วย ดังนั้น แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินอย่างละเอียดค่ะ
Aestox vs Nabota
ทั้งโบท็อกซ์ Aestox และ Nabota ต่างก็เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน สัญชาติเกาหลี ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า Nabota กับ Aestox ต่างกันอย่างไร เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดแบบสรุปของทั้ง 2 แบรนด์นี้กันค่ะ
ความโดดเด่นของ Aestox
- ตัวยามีความบริสุทธิ์ 99.5% โอกาสดื้อโบท็อกน้อยมาก
- ออกฤทธิ์ได้ไว เห็นผลได้รวดเร็ว
- การกระจายตัวยาแบบวงแคบ ทำให้เกิดความแม่นยำสูง
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
- เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ในราคาที่สบายกระเป๋า
ความโดดเด่นของ Nabota
- ตัวยามีความบริสุทธิ์ 98.7% โอกาสดื้อโบท็อกน้อยมาก
- ออกฤทธิ์ได้ไว เห็นผลได้รวดเร็ว
- การกระจายตัวยาแบบวงแคบ ทำให้เกิดความแม่นยำสูง
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน* (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง)
- เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วนทันใจ ผลลัพธ์ธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
สรุปให้! Nabota กับ Aestox ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า
จากข้อมูลด้านบนจะเห็นได้ว่า สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ของ Nabota และ Aestox ถูกพัฒนาและผลิตให้มีความบริสุทธิ์ที่สูงมาก ฉีดแล้วช่วยลดโอกาสการดื้อโบได้ ฉีดแล้วเห็นผลที่ไว และให้คุณภาพสูงมากเทียบได้กับโบอเมริกาเลย แต่อาจมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนจะเลือกแบบไหนดีกว่ากัน ตอบได้เลยว่าทั้ง 2 แบรนด์ต่างก็มีคุณสมบัติที่ดีด้วยกันทั้งคู่ เทียบกันได้ยากค่ะ ดังนั้น หากตัดสินใจไม่ถูก แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้โบท็อกที่เหมาะกับปัญหาและความต้องการของเรามากที่สุดค่ะ
วิธีเช็กโบท็อกซ์ Aestox ของแท้
- ฝาของกล่องผลิตภัณฑ์ถูกปิดแน่น ไม่มีรอยแกะกล่อง
- มี QR Code อยู่ที่ด้านบนของกล่องผลิตภัณฑ์ สามารถขูดออกและทำการสแกนเช็กได้
- มีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย และมีเลขทะเบียนอย. อยู่บริเวณหน้าข้างกล่องของผลิตภัณฑ์
- แสดงรุ่นการผลิต (Lot.), วันเดือนปีที่ผลิต, วันหมดอายุ ที่ต้องตรงกันทั้งที่ใต้กล่องและฉลากข้างขวด
- ด้านข้างกล่องผลิตภัณฑ์จะมีรอยปรุเพื่อทำการแกะกล่อง
เพิ่มเติม : คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะต้องมีการแกะกล่อง ดึงยาจากขวด และผสมยาโชว์ให้คนไข้ดูต่อหน้า และให้คนไข้นำกล่องผลิตภัณฑ์กลับบ้านเพื่อตรวจสอบได้
ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้ารับบริการนี้
ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อก สิ่งที่สำคัญคือ การศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ค่ะ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาชนิดใดเป็นประจำอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ก่อนฉีดโบท็อก 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดหยุดยากและเสี่ยงต่อการเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมผลัดเซลล์ผิว หรือเป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงงดขัดผิวหรือสครับผิวหน้าก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกประมาณ 2-3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดโบท็อก
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีดโบท็อก
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการ
- ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก งดการนอนราบ
- หลังฉีดโบท็อกยังไม่ควรทำการประคบเย็น เพราะร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
- 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อก สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
- 2 วันแรกหลังฉีดโบท็อก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการอยู่หน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
- 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการนวดหน้า หากฉีดโบท็อกในบริเวณหน้าผากหรือใกล้เคียงควรงดการใส่หมวกและหมวกกันน็อค รวมถึงงดการจับใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
- 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากเกินไป เช่น การขมวดคิ้วหรือเลิกคิ้ว เพราะอาจทำให้ริ้วรอยกลับมาได้เร็วกว่าปกติ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ประสิทธิภาพยาวนานเท่าที่ควร
- หากฉีดโบท็อกเพื่อลดเหงื่อ แนะนำให้สวมเสื้อผ้าโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี และงดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อหรือโรลออน 1 วันหลังฉีดโบท็อก
อาการดื้อโบเป็นอย่างไร ก่อนฉีดต้องศึกษาได้ดี!
มีหลายคนสงสัยกันเยอะค่ะว่า อาการดื้อโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “อาการดื้อโบ” เป็นอย่างไร สำหรับอาการดื้อโบ คือ ภาวะที่ร่างกายของเราไม่มีการตอบสนองต่อการฉีดโบท็อก หรือฉีดไปแล้วไม่เห็นผลเหมือนเดิมแล้วค่ะ เช่น บางท่านฉีดโบท็อกครั้งแรกไป จากที่เคยเห็นผลนานหลายเดือน แต่พอกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำผลลัพธ์อยู่ได้แค่ไม่นาน อยู่ได้แป๊บเดียว หรือบางคนอาจรู้สึกว่าไม่เห็นผลเลยก็มีค่ะ ซึ่งอาการดื้อโบท็อกอาจมีสาเหตุมาจากการโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงการฉีดโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เมื่อฉีดโบท็อกซ้ำ ๆ บ่อยขึ้น ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้มากขึ้น และไปทำลายสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ฉีดเข้าไปจนหมด ทำให้แม้ว่าจะฉีดเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล ยังไงลองเช็กอาการเหล่านี้ดูค่ะ หากเข้าข่ายอาการเหล่านี้ ก็ตั้งข้อสันนิษฐานได้เลยค่ะว่าเป็นภาวะดื้อโบ
เรื่องโบท็อกต้องยกให้ Doctor Mek Clinic
ดูแลทุกเคสโดยอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังและอาจารย์แพทย์ผู้สอนฟิลเลอร์-โบท็อกของประเทศไทย
วิเคราะห์ปัญหาและดีไซน์รูปหน้าแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case)
ได้รับฉายา “หมอของดารา” โดยได้รับความไว้วางใจจากดาราและเซเลบชื่อดังของประเทศเป็นจำนวนมากในการเข้ารับบริการที่คลินิก
เป็นคลินิกความงามครบวงจรที่มีคนไข้ไว้วางใจเป็นจำนวนมาก และยังเป็นคลินิกที่มีการบอกต่อมากที่สุด
การันตีผลงานได้จากรางวัลระดับประเทศมากมายที่ได้รับมาแล้วหลายปีซ้อน
การันตีผลงานได้จากรางวัล 1 ในคลินิกที่มียอดฉีดโปรแกรมโบท็อกเกาหลี AESTOX สูงสุด ประจำปี 2020 – 2022 (Aestox Top Spender Award) 3 ปีซ้อน
- ใช้โบท็อกแท้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากอย. ไทยและองค์การอาหารและยาในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบได้
- มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการมากที่สุด ทั้งในรูปแบบภาพนิ่ง วิดีโอ และไลฟ์สดทางเพจ Facebook (กดติดตามเพจได้ที่ >> คลิก)
- มีการการันตีว่าเห็นผลจริงทุกเคส
- มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง
- ปรึกษาแพทย์ฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สรุป
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม
ความโดดเด่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณภาพของ Aestox ก็คือ เป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ได้รับการค้นคว้า วิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชมากว่า 5 ปี เพื่อให้ได้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการดื้อโบตามมา และยังมีประสิทธิภาพเหมาะกับนำมาใช้ในคนไทย ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย ลดกราม ลิฟกรอบหน้า ย้อนวัยให้ผิวหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นอกจากนี้ Aestox ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงได้กับโบท็อกตัวดังจากฝั่งอเมริกาเลย และยังได้รับรองอย่างถูกต้องจากอย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยถ้าจะถามว่าโบท็อกซ์ Aestox ดีไหม ปลอดภัยหรือไม่ ก็คงการันตีได้จากมาตรฐานที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
Aestox มีกี่รุ่น แต่ละสีต่างกันไหม
หลายคนอาจเคยเห็นรูปร่างหน้าตาของกล่องผลิตภัณฑ์ Aestox กันมาบ้างแล้ว ก็คงสังเกตเห็นว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 สี เลยอาจทำให้เข้าใจว่าแต่ละสีเป็นรุ่นที่แตกต่างกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว โบท็อกซ์ Aestox จะมีอยู่รุ่นเดียวและมีส่วนผสมตัวยาเหมือนกันหมดค่ะ แต่ที่เห็นทำมาหลายสีนั้นจะมีความแตกต่างกันแค่ในเรื่องของจำนวนยูนิตของตัวยาเท่านั่นเองค่ะ สำหรับ Aestox สีชมพู บรรจุตัวยาที่ 50 ยูนิต, Aestox สีฟ้า บรรจุตัวยาที่ 100 ยูนิต และ Aestox Botox สีส้ม บรรจุตัวยาอยู่ที่ 200 ยูนิต ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาว่าในคนไข้แต่ละรายควรใช้ปริมาณตัวยากี่ยูนิตค่ะ
ฉีด Aestox กี่วันเห็นผล ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม
โดยทั่วไปแล้ว หลังฉีดโบท็อกซ์ Aestox จะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3-7 วัน ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ค่ะ แต่ในบางบริเวณที่ทำการฉีดจะออกฤทธิ์และเริ่มเห็นผลที่ต่างจากนี้ เช่น โบท็อกลดกราม จะเห็นผลใน 2 สัปดาห์ สังเกตได้ว่าเวลากัดฟันแล้วกล้ามเนื้อที่กรามไม่เด้ง และกล้ามเนื้อจะยุบสนิทจริง ๆ ใน 1 เดือน และเห็นผลอย่างเต็มที่ใน 2-3 เดือน นอกจากนี้ ในกรณีของการฉีดในบริเวณน่องจะเห็นผลประมาณ 4 สัปดาห์ค่ะ สำหรับระยะเวลาผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละตำแหน่งที่ฉีดและการดูแลหลังฉีดของแต่ละบุคคล)
โบท็อกซ์ Aestox นับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์โบฝั่งเกาหลีที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ด้วยเพราะประสิทธิภาพที่เทียบเท่าได้กับโบตัวดังจากฝั่งอเมริกาเลย แต่มาในราคาเบาสบายที่ใคร ๆ ก็สามารถเอื้อมถึง และยังเป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ได้รับรองในด้านมาตรฐานและความปลอดภัยจากอย. ทั้งในไทย เกาหลีใต้ และยุโรป สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยหรืออยากฉีดโบท็อกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์แพทย์สอนเทคนิคฉีดโบท็อกในประเทศไทย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายที่ Doctor Mek Clinic หรือสะดวกแอดไลน์พูดคุยได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)