ศัลยกรรมตา

การทำศัลยกรรมตา เป็นอีกหนึ่งประตูบานใหญ่ที่จะช่วยเสริมเสน่ห์ให้ดวงตาดูสวยสดงดงาม สร้างเสน่ห์ให้น่าดึงดูดต่อผู้พบเห็น ดั่งวลีที่ว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” นี่จึงเป็นเหตุผลที่บริการนี้กลายเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ มาโดยตลอดและยังเข้าถึงได้ทุกเพศ เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหารอบดวงตาได้อย่างครอบคลุมแล้วก็ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ต้องการมีดวงตาที่ดูกลมสวยเป็นประกาย ซึ่งการรักษาก็มีให้หลากหลายเทคนิคเช่น เทคนิคการทำตาสองชั้น ทำตาหวานแบบสาวเกาหลี ทำตาชั้นเดียว หรือการดึงหางตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาตก โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้จะต้องอาศัยการพูดคุยและให้ศัลยแพทย์ช่วยวางแผนการรักษาให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความสมดุลและเข้ากันใบหน้าให้ได้มากที่สุดค่ะ

การศัลยกรรมตา เป็นการบริการด้านความงามที่เน้นแก้ไขบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาดูกลมโต สดใส มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งด้วยการดูแลของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการใช้เทคนิคการวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไปตามปัญหาหรือความต้องการในผลลัพธ์ของคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งก่อนการรักษาแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาเบื้องต้น พร้อมวางแผนและออกแบบการรักษา จนออกมาเป็นผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้น ดวงตากลมสวย ช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจได้เป็นอย่างดี

การผ่าตัดเพื่อปรับสมดุลให้แก่ดวงตา สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

1. การผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาบน (Upper Blepharoplasty)

   เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณหนังตาบน ซึ่งก็จะมีทั้งการกำหนดตำแหน่งแนวชั้นตาให้เหมาะสม การสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ การตัดผิวหนัง กล้ามเนื้อหรือไขมันส่วนเกินออก สำหรับผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดหนังตาบนก็จะเป็นผู้ที่ไม่มีชั้นตาที่ชัดเจน ชั้นตาไม่เท่ากัน ไม่มีชั้นตา เปลือกตาอูม เปลือกตาหย่อนคล้อยลงมาปิดดวงตา หรือผู้ที่มีขนตาแยงตาจนเกิดปัญหาเยื่อตาอักเสบ

2. การผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาล่าง (Lower Blepharoplasty)

   หรือการศัลยกรรมตาล่าง เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาบริเวณเปลือกตาล่าง ขั้นตอนการรักษาก็จะเป็นการตัดผิวหนังส่วนเกินหรือเอาไขมันชั้นใต้ตาออก หรือทำการย้ายไขมันเหล่านั้นเข้าไปไว้ในบริเวณที่มีร่องลึกเพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเสมอกัน อีกทั้งยังช่วยแก้ไขในเรื่องของความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อใต้ตาล่าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาเยอะ ทำให้ใต้ตาดูหย่อนยาน นูนออกมา หรือผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณเปลือกตาล่าง

ปัจจุบันในโลกของการทำศัลยกรรมตามีอยู่หลากหลายประเภท และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามยุคตามสมัยและตามเทรน ณ เวลานั้น ๆ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมนำเอาการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องไว้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังสนใจศัลยกรรมค่ะ

1. ศัลยกรรมตาสองชั้น

   ศัลยกรรมตา 2 ชั้น หรือ ศัลยกรรมตาหวาน เป็นการผ่าตัดเพื่อสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ให้ได้ดวงตาที่ดูสวยหวานมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาดุ ตาเล็ก ตาเศร้า ชั้นตาหลบใน หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงต้องการศัลยกรรมตาให้เท่ากัน กลมโตดูสดใส เสริมความมั่นใจให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา ซึ่งในปัจจุบันการทำศัลยกรรมตาสองชั้นก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีเทคนิคการรักษาที่หลากหลายให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติและเข้ากันกับใบหน้าของแต่ละคนมากยิ่งขึ้น

2. ศัลยกรรมดึงหางตา

   การผ่าตัดดึงหางตา หรือการทำตา Foxy Eyes เป็นวิธีการผ่าตัดที่แพทย์จะใช้เทคนิคพิเศษเพื่อยกหางตาให้สูงขึ้นคล้ายกับดวงตาจิ้งจอก วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อน ดวงตาเศร้า ง่วง ไม่สดใส หางตาตก หรือมีในเรื่องของริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบริเวณหางตา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือได้ดวงตาที่ดูสวยเฉี่ยว เซกซี่และน่าดึงดูด

3. ศัลยกรรมตาตก

   จะเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อดึงกระชับกล้ามเนื้อที่ดูหย่อนคล้อยลงให้กลับมาเต่งตึง คล้ายกับการทำตาสองชั้น เป็นเทคนิคของการกรีดเพื่อกำหนดชั้นตา ซึ่งเส้นตาจะดูมีความเป็นธรรมชาติ ลืมตาสะดวกขึ้น ช่วยคืนความสดใสพร้อมย้อนวัยได้อีกครั้ง วิธีนี้จึงจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาชั้นตาตก ชั้นตาเล็ก หรือผู้ที่มีอายุจนทำให้ผิวหนังลงมาบังตาค่ะ

4. ศัลยกรรมตาชั้นเดียว

   การศัลยกรรมทำตาชั้นเดียวก็จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีตา 2 ชั้น หรือมีชั้นตาที่ดูโตและต้องการผ่าตัดให้เป็นตาชั้นเดียวซึ่งจะใช้เทคนิคเดียวกันกับการตกแต่งเปลือกตาบนแต่จุดประสงค์ก็จะแตกต่างกันเพราะวิธีนี้เราจะทำให้ชั้นตาดูเล็กลง วิธีการรักษาอาจจะต้องเพิ่มปริมาณไขมันเหนือชั้นตา โดยก่อนทำจำเป็นอย่างมากที่จะต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความต้องการ เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าชั้นตาของเราสามารถผ่าตัดลดชั้นตาตามที่ต้องการได้หรือไม่

5. ศัลยกรรมเปิดหัวตา

   เป็นการผ่าตัดเพื่อเปิดหัวตา หรือบริเวณหางตาให้ดูกว้างขึ้นให้ดวงตาดูกลมสวย ซึ่งการเปิดหัวตาก็มีอยู่หลายรูปแบบอีกเหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แต่โดยส่วนมากแพทย์จะรักษาร่วมกันกับเทคนิคการทำตาสองชั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูดี ใบหน้าดูสดใสขึ้นค่ะ

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหารอบดวงตาทุกรูปแบบ หรือต้องการปรับความสมดุลให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ ชวนหลงใหลหรือทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาสดใสมากยิ่งขึ้นและต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างถาวร การผ่าตัดศัลยกรรมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการรักษาก็มีหลายรูปแบบ หลายเทคนิคขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของตัวเราร่วมกันกับการวางแผนของศัลยแพทย์

การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาตาเข จะใช้วิธีการผ่าตัดเล็กเข้าไปจัดกล้ามเนื้อตา หรือตั้งศูนย์กล้ามเนื้อตาใหม่ให้กลับมาเป็นปกติ มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และทำให้การมองเห็นมีประสิทธิภาพวิธีการรักษาก็จะมีหลายเทคนิคซึ่งแพทย์จะเป็นผู้คอยประเมินลักษณะดวงตาให้อีกครั้งก่อนเข้าสู่กระบวนการรักษาค่ะ

โดยปกติธรรมชาติของมนุษย์จะมีดวงตาทั้งสองข้างที่ไม่เท่ากันร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วอาจจะไม่ได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่ในกรณีที่บางรายมีตาทั้งสองข้างที่ไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด หรือตาข้างนึงใหญ่กว่าอีกข้างดูแล้วไม่สมดุลกัน ส่วนมากมักจะมาจากผู้ที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง พันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น หรือมีโครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมดุล และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งวิธีการผ่าตัดก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีที่สุด และสามารถทำได้ด้วยเทคนิคเหล่านี้

1. เทคนิคการกรีดตาแบบสั้น

   เทคนิคนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันที่ตาน้อย ตาชั้นเดียว มีหนังตาไม่เยอะ เป็นวิธีการกรีดเป็นแผลเล็ก ประมาณ 7 มิลลิเมตร ซึ่งศัลยแพทย์ต้องมีการวางแผนและพิจารณาประเมินสภาพโครงหน้าของคนไข้ร่วมด้วยว่าหากใช้เทคนิคการกรีดตาแบบสั้นไปแล้วจะดูเหมาะสมกับรูปหน้าหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ากรีดตำแหน่งไหนถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดูสวยมากที่สุด

2. เทคนิคการกรีดตาแบบยาว

   เป็นเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ดีมาก และยังสามารถบังคับวงตาได้ว่าต้องการให้ผลลัพธ์เป็นแบบไหน บางรายอาจจะอยากได้เส้นหัวตาแบบสายฝอ บางรายต้องการเส้นหัวตาแบบชาวเอเชีย ซึ่งทั้งสองแบบก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกัน แต่เทคนิคนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่นานกว่าเทคนิคอื่น ๆ

3. เทคนิคการเปิดหัวตาและหางตา

   การใช้เทคนิคนี้จะทำให้ดวงตาดูกลมโต หรือทำให้ตาดูแบ๊วขึ้น เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในประเทศเกาหลี แต่ในประเทศไทยจะไม่ค่อยนิยมใช้กันเนื่องจากในบางเคสมันอาจจะมีปัญหาเรื่องของการมองเห็นหรือมีน้ำตาคลอขึ้นที่บริเวณหางตาเยอะเกินไปค่ะ

การเตรียมตัวก่อนทำ

1. ก่อนทำ 14 วัน ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
2. ก่อนทำ 14 วัน ควรงดการรับประทานอาหารเสริมทุกชนิด
3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ได้ทราบและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
4. ในวันผ่าตัดงดการแต่งหน้าจัดและงดใส่คอนแทคเลนส์
5. แนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ มาในวันผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังทำ

1. ช่วงประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังทำ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์
2. ช่วงเวลาพักฟื้นแนะนำให้ประคบเย็นไปจนกว่าจะถึงวันกำหนดตัดไหม
3. ภายหลังการรักษาควรนอนหมอนสูงเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
4. งดการสัมผัส ถูก เกา นวด หรือล้างหน้าแรง ๆ ในบริเวณที่ผ่าตัด
5. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย
6. หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำโดนกับแผลจนกว่าจะถึงกำหนดตัดไหม
7. ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ผลลัพธ์ของการผ่าตัดมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับเทคนิคและรูปแบบที่ไม่เหมือนกันด้วย แต่โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าที่หลังจากที่มีการตัดไหมออกไปแล้วใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 เดือน ผลลัพธ์จะดูดีเป็นธรรมชาติมากขึ้น สามารถแต่งหน้าหรือล้างหน้าได้ตามปกติค่ะ

ระยะเวลาในการพักฟื้นที่แน่นอนของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับเทคนิคการรักษาหรือสภาพผิวของรายบุคคล แต่เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 เดือน จากนั้นมันจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยในช่วง 3 วันแรกจะยังมีอาการบวมหลังผ่าตัดเกิดขึ้นอยู่ การประคบเย็นจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดอาการบวมในระยะนี้ แต่ในช่วง 1 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงให้เริ่มเปลี่ยนมาประคบอุ่นแทน และช่วง 3 สัปดาห์แผลจะเริ่มเข้าที่มากขึ้นค่ะ

– อาหารที่มีรสชาติจัด เค็มจัด เช่น แกงต่าง ๆ ยำ ส้มตำ
– อาหารที่เป็นของหมักดอง เช่น ปลาร้า แหนม กิมจิ
– อาหารที่เป็นกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ปลาดิบ กุ้งแช่น้ำปลา
– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เนื่องจากส่วนผสมที่อยู่ในอาหารเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการบวม และทำให้แผลจากการทำศัลยกรรมหายช้ากว่าปกติค่ะ

1. ผลไม้สีเข้ม เช่น ทับทิม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี – ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
2. ผักตระกูลกะหล่ำต่าง ๆ – ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อภายหลังการผ่าตัด
3. มันหวาน แครอท แคนตาลูป มะม่วง – สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและผิวบริเวณที่ผ่าตัด 
4. เห็ด – จะช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและช่วยลดการอักเสบหลังการผ่าตัด
5. สับปะรด มะละกอ – จะช่วยลดอาการบวมและช่วยลดอาการอักเสบ

นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่น ๆ ส่วนมากก็จะเป็นจำพวกผักใบเขียวต่าง ๆ แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อให้สารอาหารได้เข้าไปช่วยซ่อมแซมบาดแผลจากการผ่าตัด หรือช่วยให้แผลหายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากใครมีแพลนที่กำลังจะทำศัลยกรรมสามารถเอาอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ไว้ในตู้เย็นได้เลยนะคะ

อย่างที่ทราบกันดีว่าการผ่าตัดเป็นอะไรที่อันตรายถึงชีวิตหากศัลยแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญที่มากพอ และด้วยความที่มันเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมจึงอาจมีหมอเถื่อนหรือหมอปลอมแฝงตัวอยู่ ดังนั้นถ้าไม่อยากตกอยู่ในภัยอันตรายจากพิษศัลยกรรม เราควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือค่ะ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. เลือกคลินิกที่มีรีวิวเยอะจากผู้ที่เคยมาใช้บริการ
2. เลือกคลินิกที่มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง ผ่านการรับรองจากแพทยสภา และมีความเชี่ยวชาญในการเลือกใช้เทคนิคที่หลากหลาย
3. เลือกคลินิกที่มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างชัดเจน
4. เลือกคลินิกที่มีความสะอาด ไม่มีกลิ่นอับ มีพื้นที่แบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน
5. เลือกคลินิกที่เครื่องมือแพทย์ครบครัน และได้ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี

ราคาเริ่มตอนของการทำศัลยกรรมตาอยู่ที่ 32000 บาท* ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ปรับแต่งให้เหมาะกับรูปหน้าของคนไข้รายบุคคล ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียด พูดคุยเกี่ยวกับรูปทรงตาที่ต้องการเพื่อให้แพทย์ประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้เลยนะคะ

ศัลยกรรมตาผู้ชายกับผู้หญิง มีความแตกต่างกันไหม

การผ่าตัดเริ่มเข้าถึงกลุ่มเพศชายมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยปัญหาโครงสร้างของดวงตาที่ส่วนมากผู้ชายจะมีระยะห่างระหว่างคิ้วกับบริเวณดวงตาค่อนข้างน้อย และหากลองมาเปรียบเทียบกันดี ๆ แล้วการผ่าตัดของผู้ชายจะเน้นความสมดุลและธรรมชาติมากกว่า ไม่ดูหวานมากจนเกินไป ซึ่งศัลยแพทย์ต้องใช้องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างเข้ามาช่วยวางแผนการรักษา และเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในผู้ชายก็คือเทคนิคการออกแบบตาสองชั้นค่ะ

หลังทำสามารถแต่งหน้าได้เลยไหม ?

แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่ผ่าตัดไปก่อนเป็นระยะเวลา 5-7 วัน แต่หากว่าคนไข้ได้มีการตัดไหมออกไปแล้วก็สามารถกลับมาแต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ

หลังทำสามารถแต่งคอนแทคเลนส์ได้ตามปกติไหม

ในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์แรก แพทย์จะแนะนำให้ใส่แว่นตาแทนการใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อนจะดีที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแผลบริเวณที่ผ่าตัดค่ะ หรืออาจจะกลับมาใส่ในช่วงที่แผลเริ่มหายดี หรือผลลัพธ์เริ่มเข้าที่แล้ว

เพราะการศัลยกรรมตาเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นหัวใจหลัก ดังนั้นหากใครไม่รู้ว่าจะไปทำศัลยกรรมตาสองชั้นที่ไหนดี หรือจะผ่าตัดแปลงโฉมเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาที่ไหนจึงจะปลอดภัยก็สามารถเอาข้อสังเกตข้างบนนำไปประกอบการตัดสินใจกันได้เลยค่ะ