Allergan Botox โบท็อกอเมริกาดียังไง ราคาเท่าไหร่ รวมทุกเรื่องที่อยากรู้!

Allergan Botox โบท็อกยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็ถามหา เพราะเป็นตัวตึงโบท็อกของฝั่งอเมริกาที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก และยังเป็นแบรนด์โบท็อกอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ คุ้นหน้าคุ้นตามาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ Allergan ยังเป็นโบท็อกยี่ห้อแรกที่ได้รับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) จึงสามารถการันตีได้เลยว่าเป็นโบท็อกที่ได้มาตรฐาน ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพในการนำมาใช้รักษาในด้านต่าง ๆ รวมถึงในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วยค่ะ วันนี้ Doctor Mek Clinic ก็ไม่พลาดที่พาทุกคนไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับโบท็อก Allergan ที่หลายคนอยากรู้ค่ะ

Allergan Botox หรือ Botox คือ แบรนด์ของสารโบทูลินั่มท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin type A) ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลิตโดยบริษัท Allergan (บริษัทเดียวกันกับที่ผลิตสารเติมเต็ม HA ยี่ห้อ Juvederm) โดยในความเป็นจริงแล้ว คำว่า “Botox” เป็นชื่อยี่ห้อหรือชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ แต่ด้วยความที่บริษัท Allergan เป็นเจ้าแรกที่คิดค้นและนำสารโบทูลินั่มท็อกซิน เอ มาใช้ในแวดวงความงาม อย่างการนำมาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอย รวมไปถึงนำมาใช้ในวงการแพทย์ทั่วไป เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท คนทั่วไปจึงนิยมเรียกแทนสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ว่า “Botox” และไม่ว่าจะมีสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกมากี่ยี่ห้อก็จะเรียกติดปากว่า Botox นั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ Allergan Botox ยังมีการศึกษาที่ได้รับการถูกเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์มากว่า 16 ปี ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกใน 95 ประเทศเลยทีเดียว รวมถึงยังมีงานวิจัยที่รองรับที่ยาวนาน (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989) และมีมากกว่า 3,500 ผลงาน และยังเป็นแบรนด์โบท็อกแรกที่ได้รับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ในด้านประสิทธิภาพของการลดริ้วรอย ซึ่งได้รับความนิยมสูงอย่างแพร่หลายในคลินิกความงามทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราค่ะ

อย่างที่ทราบกันดีนะคะว่า สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin type A)จะมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่สามารถหดตัวได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกเป็นอัมพาตชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ จะส่งผลให้ริ้วรอยไม่เกิดเพิ่มขึ้น และทำให้ริ้วรอยที่มีลดเลือนลง โดยโบท็อกจะช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือการขมวดคิ้วบ่อย ๆ รวมถึงช่วยยกกระชับผิว สามารถลดกล้ามเนื้อกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง นอกจากนี้ Allergan Botox ยังนิยมนำมาใช้เพื่อการปรับรูปหน้า ยกกระชับ หรือที่เรียกว่าการลิฟกรอบหน้า ซึ่งตัวยาจะเข้าไปออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อกรอบหน้า ใต้คาง และลำคอ ช่วยให้กรอบหน้ายกกระชับและดูชัดมากยิ่งขึ้นค่ะ

• ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้โอกาสดื้อยาหรือดื้อโบต่ำมาก นับว่าเป็นโบท็อกระดับพรีเมียม
• ตัวยาถูกพัฒนาให้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และเมื่อฉีดตัวยาเข้าไปแล้วจะกระจายตัวได้เป็นวงแคบ ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญฉีดตัวยาได้อย่างแม่นยำและง่ายขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด
• หลังการฉีดโบท็อกจะให้ผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน และให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานกว่า (เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ)
• นิยมนำมาใช้เพื่อการลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า, ลดกล้ามเนื้อกราม, ยกกระชับกรอบหน้า และรักษาภาวะปวดศีรษะไมเกรน

สำหรับ Allergan Botox จะออกผลิตภัณฑ์มาเพียงรุ่นเดียวและเป็นตัวยาเดียวค่ะ แต่จะมีแยกย่อยตามจำนวนยูนิต ซึ่งออกมา 2 แบบด้วยกัน คือ Allergan Botox กล่องสีขาว – ม่วง จะบรรจุตัวยาปริมาณ 100 ยูนิต ส่วน Allergan Botox กล่องสีขาว – แดง จะบรรจุตัวยาปริมาณ 50 ยูนิตค่ะ ส่วนคนไข้แต่ละรายจะใช้จำนวนโบท็อก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาและแนะนำกับคนไข้แต่ละเคสตามความเหมาะสมค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกยี่ห้อไหน ๆ ทั้ง Allergan Botox ของอเมริกาและโบท็อกของเกาหลี ต่างก็มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติ ความบริสุทธิ์ของตัวยา ชนิดของโมเลกุล รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีดที่แตกต่างกันไปด้วยค่ะ

ภาพรวมของ Allergan Botox 

ข้อดี 

• ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% โอกาสในการดื้อยาต่ำมาก
• ตัวยากระจายตัวแบบวงแคบ ทำให้แพทย์สามารถฉีดได้อย่างแม่นยำ
• ให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน 6-8 เดือน* ซึ่งอยู่ได้นานกว่าโบท็อกเกาหลี

ข้อเสีย 

• เป็นโบท็อกระดับพรีเมียมที่มีราคาต่อยูนิตค่อนข้างสูงกว่าโบท็อกเกาหลี

ภาพรวมของโบท็อกเกาหลี 

ข้อดี 

• มีหลากหลายยี่ห้อ เช่น Botulax, Nabota และ Aestox ซึ่งแต่ละยี่ห้อเป็นตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก เช่น ใน Nabota เป็นตัวยาบริสุทธิ์ 98.7% ส่วนยี่ห้อ Botulax และ Aestox เป็นตัวยาบริสุทธิ์ถึง 99.5% ซึ่งเทียบเท่าได้กับโบท็อก Allergan ของอเมริกา
• มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ที่รวดเร็วกว่าโบท็อกอเมริกาเล็กน้อย
• ราคาเบาสบายกระเป๋ากว่าโบท็อกอเมริกา

ข้อเสีย 

• ให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกประมาณ 4-6 เดือน* ซึ่งอยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกอเมริกา

สรุป Allergan vs โบท็อกเกาหลี แบบไหนดีกว่ากัน 

จากข้อมูลความแตกต่างของโบท็อก Allergan และโบท็อกเกาหลี จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันในเรื่องราคาและระยะเวลาการออกฤทธิ์หลังฉีดโบท็อกค่ะ ซึ่งในเรื่องประสิทธิภาพของตัวยานั้นไม่มีตัวได้ดีไปกว่ากัน ซึ่งหากจะถามว่าโบท็อกแบบไหน ยี่ห้อไหน ที่ดีที่สุด หรือเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนไข้เป็นหลักค่ะ หรือหากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับโบท็อก Allergan หรือโบท็อกเกาหลี สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Doctor Mek Clinic ได้ก่อนตัดสินใจค่ะ

สำหรับโบท็อก Allergan สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งเพื่อลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อย ๆ เช่น โบท็อกลดริ้วรอย, โบท็อกหน้าผาก หรือโบท็อกตีนกา เป็นต้น และโบท็อก Allergan ยังนำมาใช้เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ เช่น โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ ยังนำมาใช้เพื่อการปรับรูปหน้าด้วยการโบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ช่วยให้รูปหน้าเรียวเล็ก ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 เทคนิค ได้แก่ เทคนิค Dermo lift เป็นเทคนิคฉีดโบท็อกในชั้นผิวตื้น ฉีดไล่ไปแนวกรอบหน้าจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน ซึ่งตัวยาจะช่วยให้ผิวหนังเกิดการหดตัว ทำให้ผิวตึงกระชับ เห็นผลแบบเร่งด่วน และเทคนิค Nefertiti เป็นเทคนิคที่ฉีดลิฟหน้ายังบริเวณกล้ามเนื้อลำคอ ที่มีหน้าที่ดึงผิวหน้าให้ตกลงมา เมื่อฉีดแล้วจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัว ทำให้ใบหน้ายกกระชับได้ดี

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะโบท็อก Allergan ยังสามารถนำมาใช้ฉีดโบท็อกไมเกรนได้อีกด้วย เพื่อช่วยลดอาการและบรรเทาความรุนแรงของโรคปวดศีรษะไมเกรน ช่วยให้คนไข้ไม่จำเป็นต้องใช้ยารับประทานแก้ปวด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการทานยาที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ตับ และไตค่ะ

สำหรับการฉีด Allergan Botox ราคาทั่วไปจะถูกแบ่งได้ 2 แบบคือ Allergan Botox 50 units ราคาประมาณ 7,900 – 12,000 บาท* และ Botox Allergan 100 units ราคาประมาณ 14,900 – 20,000 บาท* ทั้งนี้การฉีด Botox Allergan ราคาอาจแตกต่างกันในไปแต่ละคลินิก รวมไปถึงอาจมีราคาโปรโมชั่นที่จัดอยู่ในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปริมาณตัวยาที่คนไข้แต่ละคนต้องใช้ ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากความเหมาะสมและปัญหาผิวของคนไข้ในแต่ละราย นอกจากนี้ ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาเลือกใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดโบท็อกร่วมด้วย ดังนั้น แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินอย่างละเอียดค่ะ

เนื่องจากในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความต้องการตัวยาที่มากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้อาจเกิดช่องว่างการเอาเปรียบผู้บริโภคที่ร้ายแรง ทำให้โบท็อกปลอมถูกผลิตมาวางขายตามท้องตลาด ดังนั้น การพิจารณาเลือกฉีดโบท็อกของแท้ที่ได้มาตรฐาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบค่ะ โดยคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีจรรยาบรรณ จะต้องแกะกล่องผลิตภัณฑ์และดึงยาต่อหน้าคนไข้ รวมถึงอธิบายรายละเอียดได้ครบถ้วนแก่คนไข้ รวมถึงการให้กล่องผลิตภัณฑ์กลับบ้านได้ โดยเราสามารถใช้วิธีสังเกตและตรวจสอบโบท็อก Allergan ของแท้ดังนี้ค่ะ

• ก่อนการฉีดโบท็อก ตัวกล่องผลิตภัณฑ์อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแกะออก
• มีการติดตัวซีลแบบสติ๊กเกอร์ใสที่บริเวณฝากล่องผลิตภัณฑ์
• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
• มีเลขการผลิต หรือ Lot. บริเวณกล่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งตัวเลข Lot. นี้ต้องตรงกับบริเวณขวดยา
• มีวัน / เดือน / ปีที่ผลิตและหมดอายุแสดงชัดเจน
• บริเวณข้างขวดตัวยาจะมีโฮโลแกรมคำว่า “Allergan” ติดอยู่
• สามารถตรวจสอบโบท็อก Allergan ของแท้ได้โดยการโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัท Allergan Thailand ได้ที่เบอร์ 02-640-4999 ต่อ 1

ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อก สิ่งที่สำคัญคือ การศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ 

• หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาชนิดใดเป็นประจำอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
• ก่อนฉีดโบท็อก 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดหยุดยากและเสี่ยงต่อการเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น
• งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมผลัดเซลล์ผิว หรือเป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงงดขัดผิวหรือสครับผิวหน้าก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกประมาณ 2-3 วัน
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนฉีดโบท็อก
• หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรฉีดโบท็อก

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการ 

• ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อก งดการนอนราบ 
• หลังฉีดโบท็อกยังไม่ควรทำการประคบเย็น เพราะร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
• 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อก สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
• 2 วันแรกหลังฉีดโบท็อก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการอยู่หน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
• 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการนวดหน้า หากฉีดโบท็อกในบริเวณหน้าผากหรือใกล้เคียงควรงดการใส่หมวกและหมวกกันน็อค รวมถึงงดการจับใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกแรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
• 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
• แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากเกินไป เช่น การขมวดคิ้วหรือเลิกคิ้ว เพราะอาจทำให้ริ้วรอยกลับมาได้เร็วกว่าปกติ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ประสิทธิภาพยาวนานเท่าที่ควร

การฉีดโบท็อกนับว่าเป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่แพทย์ทั่วไปหรือคนที่ไม่ใช่แพทย์จะทำได้ เพราะการฉีดโบท็อกเป็นการรักษาทางด้านความงามที่ต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งที่ Doctor Mek Clinic ของเราเป็นคลินิกความงามด้านปรับรูปหน้าและผิวพรรณที่เป็นมืออาชีพด้านการฉีดโบท็อกโดยตรง นำทีมโดย “อาจารย์หมอเมฆ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์แพทย์สอนเทคนิคการฉีดโบท็อกของประเทศไทย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่มาพร้อมความปลอดภัย โดยให้ความใส่ใจตั้งแต่การประเมินสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ที่มีไม่เหมือนกันในแต่ละราย ซึ่งต้องอาศัยหลักการกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า เพื่อการหาต้นตอสาเหตุของปัญหาและการวางแผนการฉีดโบท็อกที่ถูกต้อง รวมถึงเทคนิคการฉีดโบท็อกที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้คนไข้ต่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ และมีความมั่นใจกับใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์มากขึ้นค่ะ

ฉีดโบท็อกโดยอาจารย์แพทย์ 

ทุกขั้นตอนตั้งแต่การปรึกษา การวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษา และขั้นตอนการฉีดโบท็อก จะทำโดยแพทย์ด้านผิวหนัง เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-aging) ที่เป็นระดับอาจารย์แพทย์สอนด้านเทคนิคการฉีดโบท็อกในประเทศไทย รวมถึงทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อก

การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ 

การันตีผลงานและความสำเร็จด้วยรางวัลเกี่ยวกับโบท็อก Allergan ในระดับประเทศ ได้แก่ รางวัล Top 3 คลินิกที่มียอดฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์อเมริกา Juvederm Allergan สูงสุดในประเทศไทย ปี 2018 – 2019, รางวัล Certified Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 การันตีว่า Doctor Mek Clinic เป็นคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้จากบริษัท Allergan โดยตรง นอกจากนี้ อาจารย์หมอเมฆยังได้รับรางวัล Allergan Talent แพทย์ผู้มีพรสวรรค์การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็อกซ์ Allergan อเมริกาอีกด้วยค่ะ

ใช้ Allergan Botox ของแท้ตรวจสอบได้ 

Doctor Mek Clinic เราเป็นคลินิกความงามครบวงจรที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ทุกแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ Allergan Botox ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่สั่งตรงจากบริษัท Allergan ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทุกชิ้น และทางคลินิกจะให้กล่องผลิตภัณฑ์กับลูกค้ากลับบ้านไปทุกเคสค่ะ

ได้ฉายา “หมอของดารา” 

จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย และผิวพรรณมากว่า 10 ปี ผสานกับความเป็นมืออาชีพด้านโบท็อกโดยเฉพาะ ทำให้ Doctor Mek Clinic เป็นคลินิกความงามแถวหน้าของเมืองไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงเหล่าดารานักแสดงและเซเลบที่มีชื่อเสียงในไทย เพราะประทับใจในฝีมือของคุณหมอและไว้ใจให้คุณหมอช่วยดูแลความสวย-หล่อให้อย่างต่อเนื่องเสมอมาค่ะ

มีรีวิวจากคนไข้จริงเยอะ 

Doctor Mek Clinic เราเป็นคลินิกที่มีรีวิวจากเคสคนไข้จริงที่เข้ารับบริการให้เลือกดูเยอะ ซึ่งมีทั้งรูปแบบรีวิวภาพนิ่ง วิดีโอ รวมถึงการไลฟ์สดในเพจ Facebook อยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นรีวิวที่น่าเชื่อถือ แสดงให้เห็นผลลัพธ์แบบ Realtime มั่นใจได้ว่าไม่มีการตัดต่อหรือตกแต่งภาพ (กดติดตามเพจได้ที่ >> คลิก)

การดูแลและบริการที่ทำให้คนไข้บอกต่อเยอะที่สุด 

นอกจากมาตรฐานและฝีมือในการฉีดโบท็อกที่เราให้ความสำคัญแล้ว การดูแลและการบริการยังเป็นอีกสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เราคำนึงถึงเสมอค่ะ ดังนั้น จึงมั่นใจได้เลยว่า เมื่อคนไข้เข้ามาในคลินิกจะได้รับการต้อนรับ การบริการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน พร้อมกับการติดตามอาการอย่างต่อเนื่องและการนัดหมายในครั้งต่อไป เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการใช้บริการ และช่วยให้คนไข้รู้สึกอุ่นใจ จนทำให้เราเป็นคลินิกที่คนไข้ประทับใจและเกิดการแนะนำปากต่อปากเยอะที่สุดค่ะ

ฉีดโบท็อก Allergan กี่วันเห็นผล ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม 

ด้วยประสิทธิภาพของโบท็อก Allergan ที่ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงและกระจายตัวในวงแคบ จึงช่วยให้ผลลัพธ์ตรงจุดแม่นยำ ส่งผลให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังฉีด Allergan Botox สำหรับการลดเลือนริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลได้ใน 2-3 วัน ส่วนการลดกล้ามเนื้อกราม จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 1 สัปดาห์ และในด้านการยกกระชับ ปรับกรอบหน้า จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน 2 สัปดาห์ ซึ่งระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีด Allergan Botox จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 6-8 เดือน* (ผลลัพธ์ที่ได้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

Allergan Botox ดีไหม

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นนะคะว่า Allergan Botox เป็นแบรนด์แรกและถือว่าเป็นต้นกำเนิดในการนำสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ มาใช้ในวงการความงามและการรักษาภาวะต่าง ๆ จากนั้น ยี่ห้อโบท็อกอื่น ๆ จึงตามมา จากการคิดค้นและพัฒนามาอย่างยาวนานต่อเนื่อง ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ฉีดแล้วคงผลลัพธ์ได้นานกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลกค่ะ

• Allergan Botox เป็นโบท็อกแบรนด์แรกของโลก ซึ่งมีการคิดค้นและพัฒนาตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เพื่อมาใช้ในวงการแพทย์และความงาม
• Allergan Botox เป็นโบท็อกแบรนด์แรกของโลกที่ได้รับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA)
• Allergan Botox เป็นโบท็อกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย (Thai FDA)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Allergan Botox แบรนด์โบท็อกระดับตำนานที่ทำให้หลายคนยกให้เป็นที่ 1 ในดวงใจ หวังว่าทุกคนคงจะได้รับทราบรายละเอียดกันอย่างครบถ้วนนะคะ สำหรับใครที่กำลังมีแพลนหรือเล็ง ๆ โบท็อก Allergan โบดังจากอเมริกาตัวนี้อยู่ สามารถปรึกษากับแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่คลินิกค่ะ หรือสามารถทักเข้ามาเพื่อพูดคุยกับเราได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)