บำรุงใต้ตาผิดชีวิตเปลี่ยน ! อยากใต้ตาสดใสควรทำอย่างไรต้องดู
ถ้าให้พูดถึงการบำรุงผิวบริเวณใต้ตาก็คงไม่พ้นการใช้อายครีม ซึ่งแน่นอนว่าสรรพคุณของมันนั้นจะช่วยกอบกู้ปัญหาบริเวณใต้ตาของเราให้ดีขึ้นได้ แต่กลับกันบางคนนั้นบำรุงเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นเสียทีจนเกิดข้อสงสัยว่าสิ่งที่เราบำรุงไปนั้นมันถูกต้องแล้วหรือไม่ บทความนี้ก็เลยจะชวนมาไขข้อสงสัยว่าควรบำรุงอายครีมด้วยวิธีไหนถึงจะเป็นการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผิดใต้ตาได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ รวมไปถึงข้อผิดพลาดในการใช้อายครีมที่บางคนกำลังบำรุงแบบผิด ๆ อยู่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ไปดูกันเลยค่ะ
6 ข้อผิดพลาดในการใช้อายครีม ที่คุณอาจไม่รู้ !
การบำรุงที่ไม่เห็นผลส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการบำรุงที่ผิดวิธีโดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้าไม่อยากให้สิ่งที่เราทำไปนั้นเสียเปล่า มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้างที่เราเผลอทำโดยไม่รู้ตัว พร้อมแชร์วิธีที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูที่ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น !
ใช้อายครีมตัวไหนก็เหมือนกัน
บางคนมองว่าอายครีมตัวไหน ๆ ก็เหมือนกันใช้ไปเดี่ยวก็ดีขึ้นเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่ามันจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวใต้ดวงตาเหมือนกัน แต่ส่วนผสมต่างๆที่อยู่ด้านในนั้นกลับแตกต่างกันออกไป บางตัวอาจจะเน้นในเรื่องของความชุ่มชื้น บางตัวเน้นในเรื่องของการรักษาริ้วรอยหรือความหมองคล้ำ ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตาของเรานั้นเป็นแบบไหนเพื่อที่จะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงจุดต่อปัญหามากที่สุด
ยิ่งใช้เยอะยิ่งดี
เชื่อว่าต้องมีหลายคนประโคมสกินแคร์เข้าไปในปริมาณเยอะกว่าที่จำเป็น เพราะมีความเชื่อว่ายิ่งเยอะยิ่งดี แต่แท้จริงแล้วการใช้อายครีมนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่เยอะมากจนเกินไปขนาดนั้นค่ะ เนื่องจากพื้นที่ผิวบริเวณใต้ตาเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็กและบอบบางมาก ดังนั้นเราควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะควบคู่ไปกับส่วนผสมที่มีความเข้มข้นในระดับพอดีและมีความปลอดภัย แนะนำให้ใช้เท่ากับเมล็ดถั่วเขียวหรือทาไปที่ใต้ตาเพียง 3-5 จุดเล็กๆก็พอแล้วค่ะ
ทาไม่ถูกลำดับขั้นตอน
เพราะสกินแคร์แต่ละตัวนั้นมีส่วนผสม ความเข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการดูดซึมเข้าสู่ผิวด้วย เราแนะนำว่าให้เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาจากนั้นก็ค่อยตามด้วยอายครีม และตบท้ายด้วยการบำรุงผิวหรือใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นขั้นตอนสุดท้าย และในช่วงเวลากลางวันแนะนำให้ทาครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อป้องกันรังสี UV ที่จะเข้ามาทำร้ายผิว
ถูอายครีมแรง ๆ
บริเวณใต้ดวงตานั้นเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างบอบบางมากกว่าส่วนอื่นๆบนใบหน้า ดังนั้นเราจึงต้องมีการดูแลมากเป็นพิเศษและให้ความอ่อนโยนต่อการรักษา แนะนำให้ใช้นิ้วนางค่อย ๆ เกลี่ยอายครีมให้ซึมเข้าสู่ผิว ไม่แนะนำให้ถูอายครีมอย่างรุนแรงเพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีจนเกิดเป็นรอยคล้ำ รอยบวมหรือเกิดริ้วรอยตามมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากเป็นเช่นนั้นสิ่งที่เราบำรุงไปก็จะเสียเปล่าเลยล่ะค่ะ
บำรุงเฉพาะกลางคืน
หลายคนอาจจะคิดว่าการทาอายครีมนั้นควรบำรุงเฉพาะแค่ตอนกลางคืนเพราะเป็นช่วงที่ผิวได้รับการพักผ่อนและฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วในช่วงเช้าก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีต่อการฟื้นฟูผิวค่ะ แต่ ! ควรจะต้องลำดับขั้นตอนการบำรุงที่ถูกวิธีด้วยนะคะ
ทาเป็นพัก ๆ เป็นครั้งคราว
บางคนถ้าเป็นพัก ๆ ไม่มีความสม่ำเสมอในการรักษา ซึ่งการบำรุงผิวใต้ตาด้วยอายครีมมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการบำรุง เพราะเราจะไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว หรือใครที่ยังไม่ได้มีปัญหามากนัก ก็แนะนำให้ใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณนั้น และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบริเวณใต้ตาได้อีกด้วย
อายครีมต้องบำรุงนานไหมถึงจะเห็นผล
การบำรุงผิวไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตามต้องใช้เวลา เพราะสกินแคร์แต่ละตัวออกฤทธิ์ต่อชั้นผิวคนละชั้น และออกฤทธิ์ในระยะเวลาที่ไม่เหมือนกัน อย่างการบำรุงใต้ตาโดยส่วนใหญ่แล้วควรจะบำรุงอย่างต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง เช่น ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งมันจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนแต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ กว่าจะเห็นผลอย่างชัดเจนก็ใช้เวลา 1 ปีเลยทีเดียว แต่เชื่อเถอะค่ะว่าสิ่งที่ได้มามันคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน หากมีการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และถูกวิธีค่ะ
แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่ากำลังมีปัญหาบริเวณใต้ตาทั้งความหมองคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องลึกใต้ตาแล้วมองว่าการบำรุงแค่อายครีมคงไม่เห็นผลที่มากพอ หรือรวดเร็วได้ดั่งใจเราขอแนะนำเป็น ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้สาร Hyaluronic Acid เพื่อเติมเต็มใต้ตาให้ดูสดใสขึ้น เต็มขึ้น อิ่มฟูและช่วยปรับความกระจ่างใสให้ดวงตาดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้เราจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานอีกด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง มีประสบการณ์ รู้หลักการฉีดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและโครงสร้างผิวของแต่ละคน หากใครสนใจที่ Doctor Mek Clinic เรามีให้บริการฉีด Fillerใต้ตา โดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านผิวหนัง พร้อมให้คำแนะนำ และใช้การรักษาด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคล สามารถเข้ารับการประเมินเบื้องต้นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ
