ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? หาคำตอบครบทุกแง่มุมได้ที่นี่

ฉีดฟิลเลอร์เป็นอันตรายไหม ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ฉีดฟิลเลอร์เป็นอันตรายไหม? ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

การฉีดฟิลเลอร์เป็นอันตรายไหม? หลายคนที่มีแพลนหรือมีความสนใจอยากเข้าวงการเต็มเต็มใบหน้าเป็นครั้งแรก แต่อาจยังลังเลและตัดสินใจไม่ได้ คงต้องอธิบายไว้แบบนี้ค่ะว่า การฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นหัตถการความงามที่วงการแพทย์ผิวหนังนำมาใช้และได้รับความนิยมมานานแล้ว แต่ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เราควรพิจารณาตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกฉีด ทั้งปัจจัยเรื่องฉีดที่ไหน ฉีดกับใคร HA ที่ใช้ของแท้หรือไม่ รวมถึงข้อควรรู้อื่น ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่สามารถตอบโจทย์กับปัญหาผิวที่มีได้อย่างตรงจุด และยังมาพร้อมกับความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวกันด้วย ซึ่งในบทความนี้จะขอพาทุกคนไปไขคำตอบกันให้เคลียร์ว่าการฉีดปรับรูปหน้า เติมเต็มส่วนที่ขาดหาย แก้ไขส่วนที่บกพร่อง มีอันตรายไหม มีผลข้างเคียงหรือไม่ รวมถึงคำแนะนำเลือกฉีดสารเติมเต็มใบหน้าอย่างไรให้ปลอดภัยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการใช้กรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งถูกสังเคราะห์มาลอกเลียนแบบ HA ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายคนเรา และนำมาผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ได้สาร HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปจะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยในปัจจุบัน มีสารเติมเต็มใบหน้าหลากหลายยี่ห้อซึ่งผ่านอย. ไทยและต่างประเทศอย่างถูกต้อง เหมาะสำหรับนำมาเติมเต็มผิวที่ซูบตอบตัวการทำให้หน้าแก่ หน้าโทรม กลับมาดูอิ่มเอิบขึ้น เช่น เติมขมับตอบ แก้มตอบ หน้าผากแบน นอกจากนี้ ยังนำมาเติมบริเวณที่เป็นร่องลึก เช่น ร่องแก้ม รวมถึงนำมาเติมเต็มใต้ตา แก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ มีร่องน้ำตา ถุงใต้ตา และยังนำมาใช้ปรับรูปหน้า อย่างการฉีดคาง เติมเต็มริมฝีปากให้อิ่มฟู ปรับรูปทรงริมฝีปากได้ทั้งสายเกาหลีและสายฝอ นับว่าเป็นสารเติมเต็มใบหน้าที่มีคุณสมบัติหลากหลาย แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น จึงจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ค่ะ

ผลลัพธ์ดี + ปลอดภัย ต้องคำนึงถึง 3 สิ่งนี้

ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้คนไข้ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหัตถการนี้อย่างละเอียด ต่อมาหากจะเลือกว่าควรทำที่ไหนดี ควรตัดสินใจเลือกอย่างรอบคอบเช่นเดียวกัน โดยคำนึงถึง 3 สิ่งนี้เป็นสำคัญค่ะ

  1. ฉีดกับแพทย์เท่านั้น

เลือกทำหัตถการกับแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์ ซึ่งจบเฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามโดยเฉพาะ ได้รับใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง มีแสดงป้ายชื่อพร้อมรูปถ่ายแพทย์และใบอนุญาตอยู่ด้านหน้าห้องตรวจ – รักษา และยังต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมการฉีดสารเติมเต็มใบหน้า มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า รวมถึงเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง

  1. ฉีดของแท้เท่านั้น

ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ จะต้องมีการใช้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มใบหน้าของแท้ ได้รับรองอย่างถูกต้องจากอย.ไทยและต่างประเทศ โดยจะต้องอธิบายรายละเอียดของการใช้สารเติมเต็มกับคนไข้ และให้กล่องผลิตภัณฑ์กลับบ้านเพื่อนำไปเช็กตรวจสอบได้เอง

  1. ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

เลือกทำหัตถการกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข โดยสังเกตได้จากป้ายชื่อคลินิกพร้อมเลขที่ใบประกอบอนุญาต 11 หลัก แสดงอยู่ด้านหน้าสถานที่ รวมถึงต้องแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลติดโชว์หรือตั้งวางในตำแหน่งที่คนไข้เห็นได้ชัดเจน

อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

การปรับรูปหน้าด้วยการใช้สารเติมเต็มใบหน้านับว่าเป็นหัตถการความงามที่ได้กำลังมาแรง ความต้องการใช้ฟิลเลอร์จึงมีมากขึ้น ทำได้อาจเกิดการฉวยโอกาสด้วยการผลิตของปลอมขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีการลักลอบหิ้วยามาขายโดยที่ไม่มีมาตรฐานการจัดเก็บ การขนส่ง ทำให้ตัวยาไม่มีคุณภาพ โดยเฉพาะยี่ห้อดัง ๆ ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าหากฉีดด้วยยาปลอม ยาหิ้ว ย่อมทำให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมาได้ อาทิ

  • อาการอักเสบติดเชื้อ เนื่องจากอาจมีสิ่งปนเปื้อนที่เป็นได้ทั้งเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม สารตกค้าง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมาได้
  • ตาบอด โดยเฉพาะในบริเวณที่ใกล้กับดวงตา หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือคนที่ฉีดไม่ใช่แพทย์อาจทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา จนทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา
  • ผิวหนังตาย เกิดจากเส้นเลือดได้รับความเสียหายหรืออุดตัน แต่หากฉีดสารเติมเต็มของแท้จะสามารถใช้วิธีการฉีดสลายออกได้ แต่หากใช้ของปลอมอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง จนท้ายสุดทำให้ผิวหนังตาย
  • ผิวเป็นก้อน ผิดรูป จากการที่ใช้สารเติมเต็มของปลอม ไม่ผ่านอย. ทำให้เกิดการไหลของสารจนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นก้อน มีลักษณะผิดรูป ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีฉีดสลายออกได้
  • อาการแพ้ เนื่องจากเราไม่รู้เลยว่าสารเติมเต็มของปลอมมีสารแปลกปลอมชนิดใดเจือปนอยู่ จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงที่เกิดการแพ้ตามมาได้
  • ภาวะเส้นเลือดอุดตัน อย่างในรายที่เลือกฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับกับคนที่ไม่ใช่แพทย์หรือแพทย์ที่ไม่มีทักษะและประสบการณ์ อาจฉีดไปโดนเส้นเลือดและทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดอุดตันที่สมองได้

ฟิลเลอร์ของแท้ ดูยังไง

ได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมกันไปแล้วในข้างต้น โดยทั่วไปแล้ว คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้แต่ของแท้ที่ผ่านอย.แล้ว จะต้องให้กล่องผลิตภัณฑ์กับคนไข้กลับบ้านเพื่อนำมาเช็กด้วยตัวเอง เดี๋ยวเราลองมาดูวิธีเช็กให้ชัวร์กันก่อนค่ะว่า ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มของแท้นั้นต้องดูจากอะไรกันบ้าง

  • กล่องบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแกะ
  • มีฉลากอย. และมีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
  • มีเลข Lot. การผลิตที่ตรงกันทั้งที่กล่องและตัวขวดยา
  • มีวันที่ผลิต วันหมดอายุ และรายละเอียดบริษัทที่ผลิตแสดงชัดเจน
  • ส่วนมากจะมี QR Code ข้างกล่องเพื่อทำการแสกนตรวจสอบผลิตภัณฑ์แท้ได้จากโทรศัพท์มือถือ
  • มีเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทที่นำเข้า เพื่อโทรตรวจเช็กผลิตภัณฑ์ของแท้ได้โดยตรง จากข้อมูลเลข Lot., วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ

อาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้

หลังการฉีดสารเติมเต็มใบหน้าอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่พบได้ตามปกติ และเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หลังจากนี้จะค่อย ๆ บรรเทาลงและหายได้เองโดยไม่ต้องกังวลค่ะ

  • ผิวบวม ซึ่งจะเกิดในแนวบริเวณที่ทำการฉีดสารเติมเต็มใบหน้าจะคงอยู่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด จากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เซ็ตตัวเข้าที่และกลืนเรียบเนียนไปกับผิว
  • รอยช้ำรอยแดง เป็นอาการที่เกิดจากรอยเข็ม และจะหายได้เองภายใน 7 วัน
  • อาการปวด หรืออาการระบมที่ผิวบริเวณที่ทำการฉีด รวมถึงคนไข้อาจรู้สึกตึง ๆ ได้เล็กน้อย ซึ่งจะเกิดในช่วง 3 – 7 วัน จากนั้นอาการต่าง ๆ จะเริ่มบรรเทาและหายได้เองตามปกติ

อาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้และอาการข้างเคียงผิดปกติ

อาการข้างเคียงที่ผิดปกติ

หลังการฉีดฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ การสังเกตอาการข้างเคียงที่ผิดปกติ ซึ่งหากพบแล้วควรรีบเข้าพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีค่ะ

  • ผิวหนังบริเวณที่ฉีดบวมแดง มีอาการปวด แบบไม่บรรเทาลงและเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • ผิวหนังเริ่มซีดหรือมีสีแดงขึ้น
  • มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แขนขาเริ่มอ่อนแรง
  • มีอาการพร่ามัวที่ดวงตา มองเห็นได้ไม่ชัด หรือการมองเห็นที่ผิดปกติ
  • ผิวหนังมีตุ่ม มีหนอง เกิดแผล

เตรียมตัวให้พร้อม หลีกเลี่ยงเกิดผลข้างเคียง

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อม และเป็นข้อมูลปฏิบัติตัวสำคัญที่คนไข้ต้องเตรียมตัว ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่ตามมาภายหลังค่ะ

  • หากมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว และกำลังรับประทานยารักษาโรคชนิดใดอยู่ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับบริการ
  • หากผิวหนังบริเวณที่ทำการฉีดสารเติมเต็มใบหน้ามีบาดแผล เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังอักเสบ ควรเลื่อนนัดไปก่อนและทำการรักษาจนหายดีเสียก่อน
  • 1 สัปดาห์ก่อนฉีด งดรับประทานยา อาหารเสริม และวิตามิน ที่ส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า และก่อให้เกิดอาการบวมช้ำหลังทำหัตถการ เช่น แอสไพริน, ยาต้านการอักเสบในกลุ่ม NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น
  • 2 – 3 วันก่อนฉีด งดการใช้ผลิตภัณฑ์ ยา หรือสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบสารผลัดเซลล์ผิว
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 วัน

สรุป

หากจะถามว่า ฉีดฟิลเลอร์เป็นอันตรายไหม แน่นอนว่าต้องพิจารณากันในหลายปัจจัย ทั้งการเลือกใช้สารเติมเต็มใบหน้าของแท้ที่ได้รับรองจากอย. รวมถึงการเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีทักษะ มีประสบการณ์ ฉีดในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข โดยหากหลงเชื่อไปเผลอฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ หมอเถื่อน หมอกระเป๋า และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาปลอม ยาหิ้ว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มาอาจไม่คุ้มค่าและมีอันตรายต่อร่างกายตามมาได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดจะต้องศึกษาและพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่ต้องมาควบคู่กับความปลอดภัยเสมอค่ะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก