ตอบทุกปัญหา ! รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
Filler (ฟิลเลอร์) เป็นหัตถการด้านความงามที่ช่วยแก้ไขปัญหารูปหน้า เติมเต็มร่องลึก ปรับใบหน้ารวมไปถึงริมฝีปากให้มีความละมุนมากยิ่งขึ้นด้วยสาร HA (Hyaluronic Acid) และกำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศเพราะหลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าการทำศัลยกรรม ซึ่งในปัจจุบันมีหลายคนที่เพิ่งเข้าวงการฉีดหน้าและกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังไม่มีข้อมูลมากนักเราก็เลยรวบรวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์มาฝากทุกคนค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
หากให้พูดกันตามตรงการทำหัตถการกลุ่มงานฉีดย่อมมีความเจ็บอยู่แล้ว เพียงแต่จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลบางคนฉีดแล้วแทบไม่เจ็บเลย แต่สำหรับใครที่กลัวเจ็บแต่อยากฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะก่อนทำการรักษาแพทย์จะมีการฉีดยาชาหรือทายาชาในบริเวณนั้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บอยู่แล้วค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์จะแบ่งออกเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย กับอาการที่ผิดปกติโดยมีการแบ่งอาการออกเป็นดังนี้
อาการที่พบได้เป็นปกติไม่เป็นอันตราย
-
- รอยเขียวช้ำ – เกิดจากรอยเข็มที่ฉีดซึ่งมันจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- อาการปวดตึงๆ – บางเคสอาจรู้สึกตึงๆหรือปวดระบมบริเวณที่ฉีดเล็กน้อยในช่วง 3-7 วันแรก
- อาการบวม – ในช่วงแรกอาจมีอาการบวมเล็กน้อยแต่สารเติมเต็มมันจะค่อยๆเซ็ตตัวและกลืนไปกับผิว
อาการที่ผิดปกติและเป็นอันตราย (H3)
-
- มีอาการปวดมากขึ้น
- ไม่สามารถแสดงสีหน้าได้ตามปกติ
- มีอาการปวดหัวคลื่นไส้อาเจียน
- รู้สึกแขนขาอ่อนแรง
- มีการมองเห็นที่ผิดปกติหรือตามองเห็นไม่ชัด
- บริเวณที่ฉีดมีแผล มีเนื้อตายหรือเกิดการติดเชื้อ
- บริเวณที่ฉีดมีอาการซีดลงหรือแดงมากขึ้น
- มีตุ่มหนองเล็กๆหลายตุ่ม
ฟิลเลอร์อันตรายไหม
ฟิลเลอร์เป็นศาสตร์ความงามที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและไม่มีความเสี่ยงสูง เพราะตัวสารฉีดแล้วสามารถสลายไปได้เอง แต่ต้องเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ของแท้และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษามีการเลือกใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยเฉลี่ยแล้วฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน แล้วแต่ว่าสารเติมเต็มที่เราได้รับนั้นเป็นรุ่นไหนยี่ห้ออะไร เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อให้การคงสภาพของผลลัพธ์ในระยะเวลาที่ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าใครรู้สึกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลายแล้วแต่ต้องการให้ใบหน้าคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนช่วงแรกก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อยๆตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด
ฟิลเลอร์สลายไปเองได้จริงไหม
ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้เองตามกลไกธรรมชาติ โดยในแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นจะมีอายุการคงสภาพอยู่ได้แตกต่างกันออกไป บางยี่ห้ออาจสลายได้ช้าหรือบางยี่ห้อสลายเร็ว แต่ในขณะเดียวกันการที่ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงของมันก็สามารถเกิดขึ้นได้จากปริมาณที่ฉีดไม่เหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้น แพทย์ขาดประสบการณ์ในการเลือก Filler หรือพฤติกรรมการละเลยข้อห้ามของคนไข้เองจนทำให้สารเติมเต็มสลายเร็วกว่าปกติ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร
มีอยู่หลายเคสที่ฉีดไปแล้วเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนบวม ไม่เรียบเนียนซึ่งปัญหานี้เรามักพบเห็นได้บ่อยตามข่าวหรือตามโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งสาเหตุของมันก็เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังนี้
-
- แพทย์ขาดประสบการณ์ – หากแพทย์ไม่มีความชำนาญในการรักษา ขาดความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์และโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ ทำให้แพทย์ฉีดผิดตำแหน่งหรือผิดชั้นผิวจนทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้
- เลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม – Filler แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นก็จะมีความหนักเบาของโมเลกุลที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นเหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นลึกหรือบางรุ่นจะเหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวชั้นตื้นๆ ซึ่งถ้าหากเอาโมเลกุลที่มีความหนาแน่นสูงก็ทำให้สารเติมเต็มจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง
- ใช้ปริมาณเยอะเกินไป – แต่ละตำแหน่งก็จะมีข้อจำกัดในการใช้ปริมาณและความเหมาะสมที่ไม่เหมือนกัน บางตำแหน่งต้องใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะเพราะมีปัญหาร่องลึก ดังนั้นแพทย์จะต้องพิจารณาความเหมาะสมของตำแหน่งที่ฉีดและปริมาณที่เหมาะสมแบบ case by case และไม่ควรใช้ในปริมาณที่เกินความจำเป็น
- ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน – คือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากอย.ไทย หรือเป็นของปลอมที่ไม่สามารถสลายได้เอง ไม่มีประสิทธิภาพ นำเข้าแบบผิดกฎหมาย สามารถสังเกตได้จากราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าคลินิกทั่วไป เมื่อฉีดไปแล้วจะจับตัวกันเป็นก้อน ไม่เรียบเนียนหรือผิดรูปทรง
หากฉีดไปแล้วพบว่าเป็นก้อนแนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่ตรงจุด ในกรณีที่ได้รับสารเติมเต็มที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานจากอย.แต่เกิดข้อผิดพลาดจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่สำหรับใครที่ไปฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือได้รับสารเติมเต็มที่เป็นของหิ้ว ของปลอม ต้องทำการขูดหรือผ่าตัดเพื่อเอาสารออกค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ราวๆ 1-3 วันจะมีอาการบวมเล็กน้อยจากรอยเข็มที่ฉีดซึ่งมันจะค่อยๆยุบและหายเป็นปกติในช่วง 5-7 วัน และหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาการบวมจะเกิดขึ้นได้ 3-7 วัน ซึ่งในระหว่างที่มีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์กินอะไรได้บ้าง
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อสัตว์หรือไข่ขาว เพื่อให้สารอาหารเหล่านี้เข้าไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆภายในร่างกายหรือสมานแผลให้หายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อได้ สามารถรับประทานร่วมกับผักหรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนที่มีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูผิว
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร
หลังฉีดสารเติมเต็มแพทย์จะแนะนำให้งดอาหารที่มีรสจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงเพราะมันจะทำให้เกิดอาการบวมหรืออาการบวมที่เกิดขึ้นจะหายได้ช้าลง รวมไปถึงอาหารที่มีรสเผ็ดจัดซึ่งมีส่วนทำให้เกิดอาการบวมได้ง่ายและอาหารลดหวานที่มีน้ำตาลสูงจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบหรือทำให้รอยเขียวช้ำจากเข็มที่ฉีดนั้นหายได้ช้าลง นอกจากนี้แล้วอาหารที่แพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงนั่นก็คืออาหารที่มีความร้อน เช่น ปิ้งย่าง ชาบู หรือหมูกระทะ
Filler สามารถทำร่วมกับโปรแกรมหรือหัตถการความงามอื่น ๆ ได้ไหม
สามารถทำได้ค่ะ เช่น โบท็อก ร้อยไหม หรือโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ หรือเห็นผลได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดอีกครั้งว่าควรทำหัตถการใดก่อน หรือแต่ละหัตถการควรเว้นระยะห่างเท่าไหร่
หลังฉีดฟิลเลอร์แต่งหน้าได้ไหม
เป็นคำถามที่หลายคนถามเข้ามาเยอะมากนั่นก็คือหลังฉีดสามารถกลับไปแต่งหน้าได้เลยไหม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็สามารถกลับไปแต่งหน้าได้ตามปกติเพียงแต่ว่าให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่มีรอยเข็ม หรือแต่งหน้าอย่างเบามือไม่ควรลงน้ำหนักกับผิวหน้ามากเกินไปเพราะอาจทำให้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปเกิดการเคลื่อนที่ได้ แต่หากใครที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องแต่งหน้าแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อนหลังฉีด 48 ชั่วโมงแรกเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาสัมผัสกับรอยเข็มค่ะ
สรุป
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าหรือต้องการปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์แต่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดตำแหน่งไหนดี สามารถทักเข้ามาปรึกษาปัญหาหรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายโดยแอดไลน์มาได้ที่ @doctormekclinic หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ ทางคลินิกมีบุคลากรและทีมแพทย์พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดค่ะ