ไขคำตอบ! ขมับตอบตั้งแต่เด็กเกิดจากอะไร แก้อย่างไร

ขมับตอบตั้งแต่เด็ก เกิดจากอะไร แก้ได้ไหม

ขมับตอบนับว่าเป็นปัญหารูปหน้าไม่เต็ม ขาดมิติ ที่ทำให้หลายคนชาดความมั่นใจ เพราะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูโทรม หน้าแก่ ยิ่งเวลาถ่ายรูปในมุมต่าง ๆ ก็ต้องเสียเวลาใช้แอปมาปรับให้ใบหน้าดูดีและอิ่มเต็มมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจมีปัญหานี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย และไม่ใช่แค่ขมับที่หายไปเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาโหนกแก้มสูงเด่นตามมาด้วย ทำให้ยังอาจสงสัยว่าปัญหาขมับตอบตั้งแต่เด็ก ๆ นั้นที่แท้จริงแล้วเกิดจากสาเหตุใด วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยประเด็นนี้ รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ขมับเว้ายุบ พร้อมวิธีการจัดการแก้ไขปัญหานี้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากค่ะ

ขมับตอบตั้งแต่เด็ก เกิดจากอะไร

สำหรับใครที่สังเกตได้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วว่ามีขมับที่ตอบ ขมับยุบ ขาดวอลลุ่ม ซึ่งมีสาเหตุมาจากโครงสร้างกระโหลกศีรษะตามธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่กำเนิดหรือได้รับถ่ายทอดทางพันธุกรรม (กรรมพันธุ์) โดยโครงสร้างศีรษะของคนเรานั้นมีความแตกต่างกันไปอยู่แล้วค่ะ และในองค์ประกอบของโครงสร้างศีรษะมีอยู่ด้วยกันหลายส่วน ตั้งแต่เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ กระดูก ชั้นไขมัน ผิวหนัง ซึ่งหากในเคสที่มีปัญหาขมับยุบก็อาจมาจากกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ กระดูก หรือชั้นไขมันที่บางกว่าปกติ ทำให้บริเวณขมับนั้นยุบลงไปจนเห็นลักษณะเป็นแอ่งเว้าลึกที่สังเกตได้ชัดนั่นเองค่ะ

สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ขมับตอบ

หลายคนมักมีปัญหาขมับที่ขาดวอลลุ่มหรือขมับตอบได้ภายหลัง ซึ่งไม่ได้เกิดจากโครงสร้างศีรษะที่มีมาตั้งแต่กำเนิดนะคะ โดยมีอยู่หลากหลายปัจจัยเลยทีเดียวที่เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา อาทิ

• การจัดฟัน เนื่องจากในระหว่างการรักษาด้วยการจัดฟัน กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่บดเคี้ยวทำงานได้น้อยลงกว่าเดิม ส่งผลให้บริเวณกล้ามเนื้อด้านข้างขมับทำงานได้น้อยลงไปด้วย ทำให้ขมับยุบได้
• อายุมากขึ้น ทำให้ชั้นไขมันบางหรือฝ่อตัวลง รวมถึงกระดูกทรุดตัว จึงเกิดความเว้าบุ๋มที่บริเวณขมับตามไปด้วย
• น้ำหนักลดลง จากน้ำหนักที่ลดลงในบางรายอาจจะลดค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อขั้นไขมันและเนื้อเยื่อ โดยทำให้ใบหน้าดูซูบตอบลงตามไปด้วย รวมไปถึงบริเวณขมับที่ยุบตัวอย่างเห็นได้ชัด

เทคนิคแก้ไขขมับตอบ มีกี่วิธี

ไม่ว่าจะมีขมับตอบตั้งแต่เด็ก (กรรมพันธุ์) หรือเป็นด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ เราสามารถใช้การแก้ไขปัญหาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 วิธีดังนี้ค่ะ

การผ่าตัดเสริมซิลิโคน

วิธีแรกนี้เป็นการทำศัลยกรรมผ่าตัดโดยการใช้ซิลิโคนเพื่อเสริมที่บริเวณขมับ เพื่อทำให้ขมับดูอิ่มเต็มขึ้น ซึ่งซิลิโคนที่ใช้นั้นจะถูกออกแบบมาให้มีสัดส่วนที่พอดี โดยจะมีข้อดีตรงที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างถาวร แต่ทั้งนี้จะต้องอาศัยความชำนาญจากแพทย์ที่สูง รวมถึงต้องมีการพักฟื้นที่มากกว่า ในรายที่มีประวัติการเกิดแผลคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนได้ง่ายก็อาจไม่เหมาะกับวิธีนี้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เห็นเป็นขอบได้หากอายุมากขึ้น ส่วนราคานั้นก็อาจสูงกว่าวิธีหรือเทคนิคอื่น ๆ ค่ะ

การฉีดไขมัน

ต่อมาเป็นการใช้ไชมันจากตัวคนไข้เองมาฉีดเติมบริเวณขมับให้ดูเต็มขึ้น ด้วยการดูดไขมันจากบริเวณต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา เพื่อนำมาผ่านกระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมัน จากนั้นใช้เทคนิคการฉีดไปยังจุดที่ต้องการเติมเต็มผิวให้มีวอลลุ่ม ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีตรงที่ได้กำจัดไขมันส่วนเกินไปพร้อม ๆ กับการเติมเต็มจุดบกพร่องที่ขมับ แต่อาจมีข้อจำกัดที่ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันน้อย เป็นคนผอมมาก ๆ และหลังจากเติมไปแล้วไขมันจะเกาะติดไม่ทั้งหมดของที่เติมไป เพราะเซลล์บางส่วนอาจตายและสลายไป คนไข้อาจจะต้องกลับมาเติมบ่อย นอกจากนี้ ยังต้องมีการพักฟื้นและดูแลตัวเองจากแผลเปิดดูดไขมันและแผลที่เติมไขมันค่ะ

การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด

สำหรับเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ขมับด้วยการใช้สารเติมเต็มใบหน้าที่ได้จากไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ HA นับว่าเป็นวิธีการแก้ไขขมับตอบได้ทุกสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมพันธุ์ จากภาวะน้ำหนักลด จากอายุที่มากขึ้น ซึ่งมีการสูญเสียคอลลาเจน อิลาสติน กระดูกทรุดตัว และชั้นไขมันฝ่อตัวลง หลังจากทำแล้วจะให้ผลการเปลี่ยนแปลงได้เลย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่มีแผลผ่าตัด และยังสามารถใช้เทคนิคการฉีดเพื่อลดความโดดเด่นของโหนกแก้มได้อีกด้วย สามารถฉีดสลายได้ในกรณีที่อยากเอาออกหรือแก้ไข ที่สำคัญเลยคือ ใช้สารเติมเต็มในปริมาณที่น้อย มีหลากหลายชนิดและยี่ห้อให้เลือกใช้ ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และมีความปลอดภัยเพราะแทบจะไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษา หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านโปรแกรมนี้โดยเฉพาะค่ะ

วิธีป้องกันดูแลไม่ให้ขมับตอบ หลังแก้ไขด้วยเทคนิคทางการแพทย์

หากเป็นในกรณีของขมับตอบที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์หรือลักษณะโครงสร้างศีรษะซึ่งมีมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นตามธรรมชาติทำให้เราไม่สามารถป้องกันอะไรได้ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีหรือเทคนิคทางการแพทย์ที่นิยม อย่างการใช้สารเติมเต็มใบหน้า ซึ่งหลังการรักษาแล้ว การป้องกันไม่ให้ปัญหาขมับยุบกลับมาเร็วกว่าปกติ จะต้องมีการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องค่ะ

• ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี เน้นไปที่การควบคุมอาหารและออกกำลังกายในส่วนของการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ไม่ควรใช้วิธีการอดอาหารหรือข้ามมื้ออาหารไป รวมถึงโฟกัสที่สัดส่วนมากกว่าตัวเลขของน้ำหนักบนตราชั่ง
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีการดูแลตัวเองที่จะช่วยร่างกายเกิดการฟื้นฟูตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเนื้อเยื่อและผิวหนังให้เกิดความแข็งแรง ยืดหยุ่น
• ดื่มน้ำเยอะๆ จะเป็นการช่วยสารเติมเต็มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยในการอุ้มน้ำในผิวได้ดี ทำให้บริเวณขมับอิ่มฟูได้อย่างยาวนาน
• ปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่ขมับยุบจากการจัดฟันหรือปัจจัยอื่นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามวิธีการที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด เช่น การฉีดสารเติมเต็มใบหน้า หรือการฉีดไขมัน เพื่อเป็นการคงผลลัพธ์ขมับที่เต็มอิ่มอย่างต่อเนื่อง

สรุป

ถึงแม้ว่าปัญหาขมับตอบตั้งแต่เด็ก ๆ หรือจากกรรมพันธุ์จะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถป้องกันได้ แต่ทั้งนี้หากเกิดขึ้นแล้วและอยากปรับแก้ให้ขมับกลับมาอิ่มเต็มสวย ปรับใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบอ่อนวัย มีมิติยิ่งขึ้น สามารถใช้เทคนิคทางการแพทย์เข้ามาปรับแก้ได้ค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็ต้องอาศัยความชำนาญการของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกทำที่ไหนดี ควรพิจารณาจากสิ่งนี้เป็นหลัก รองลงมาเป็นเรื่องของมาตรฐานสถานพยาบาลหรือคลินิกที่เลือกทำ ทั้งนี้ก็เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยค่ะ สำหรับใครที่อยากปรับรูปหน้า เติมเต็มวอลลุ่มให้ใบหน้าแลดูเด็ก ด้วยโปรแกรมฉีดสารเติมเต็มใบหน้า สามารถปรึกษาเพิ่มเติมหรือรับการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการของ Doctor Mek Clinic ได้ทุกสาขา หรือแอดไลน์ได้ที่ LINE : @doctormekclinic