โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว
“โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม” หรือหลายคนอาจเรียกว่า “โปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว” (Botox for Masseter Reduction / V-Line Program) เป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพราะเป็นหัตถการยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แก้ปัญหากรามใหญ่ แบบไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน ทำแล้วเห็นผลจริง ไม่มีรอยแผลเป็น ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ด้วยสารโบทูลินัม ท็อกซิน ที่ได้มาตรฐานนั้นสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ผสานกับเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนโดยทีมแพทย์ผู้มีทักษะด้านโปรแกรมการฉีดโบท็อกยกกระชับปรับรูปหน้า
กรามใหญ่ หน้าบาน หน้าเหลี่ยม เกิดจากอะไร
ก่อนอื่น เราลองมาเช็กกันก่อนว่า สาเหตุของกรามใหญ่เกิดจากอะไร สำหรับปัญหากรามใหญ่นั้นเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ นั่นก็คือ กระดูกขากรรไกรใหญ่ (มักเกิดจากพันธุกรรม) และกล้ามเนื้อบริเวณกรามใหญ่ (มักเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน)
-
กระดูกขากรรไกรใหญ่
เกิดจากโครงสร้างทางร่างกายที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากคนในครอบครัว ซึ่งการแก้ไขในกรณีมีปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน ที่เกิดจากกระดูกขากรรไกรใหญ่แบบนี้ สามารถทำได้โดยการทำศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกขากรรไกร
-
กล้ามเนื้อกรามใหญ่
เกิดจากกล้ามเนื้อกรามทำงานหนักบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน จากการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่าง เช่น ชอบเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ (ข้าวเหนียว, หมากฝรั่ง, ขนมกัมมี่) หรือชอบเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ (น้ำแข็ง, ลูกอม) ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อกรามถูกใช้งานหนัก ๆ ซ้ำ ๆ กัน ก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามใหญ่ขึ้น โดยกรณีกรามใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ จะสามารถแก้ไขได้โดยการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
วิธีเช็กง่าย ๆ ว่ากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกรามหรือไม่
สังเกตโดยการกัดกรามให้แน่น แล้วจับบริเวณแนวกรามจะพบว่ามีกล้ามเนื้อนูนขึ้นอย่างชัดเจน หากเช็กดูแล้วว่า ปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน กรามเหลี่ยม ที่กำลังเป็นอยู่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งปัญหานี้สามารถจัดการได้ด้วยการฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียวค่ะ
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม คืออะไร
การยกกระชับปรับหน้าเรียวด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม (กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่บดเคี้ยว) เพื่อหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามหดตัวและมีขนาดเล็กลง นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ ยังช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยบริเวณกรอบหน้า ลดเหนียงใต้คาง และยกกระชับลำคอ โดยหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามหรือโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียวจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 1-2 สัปดาห์ กรอบหน้าชัดขึ้น มีรูปหน้าเรียวเล็ก
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว กับ 3 เทคนิค
สำหรับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม โปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น จะเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาทำเพียงไม่นาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เทคนิค คือ เทคนิคลดกล้ามเนื้อกราม, เทคนิคลิฟกรอบหน้า Dermolift และ เทคนิคลิฟกรอบหน้า Nefertiti lift ซึ่งแต่ละเทคนิคนั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ในแต่ละคน ส่วนเคสไหนจะใช้เพียงเทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง หรืออาจใช้ควบคู่หลายเทคนิค แพทย์จะพิจารณาจากปัญหารูปหน้าของคนไข้ในแต่ละรายค่ะ
-
เทคนิคลดกล้ามเนื้อกราม
ในการลดกล้ามเนื้อกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าเหลี่ยม หน้าบาน จากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกจะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำให้กล้ามเนื้อกรามเป็นอัมพาตชั่วคราว เมื่อกรามทำงานลดลงจะมีผลให้กล้ามเนื้อกรามค่อย ๆ มีขนาดที่เล็กลงได้ ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้นค่ะ
-
เทคนิคลิฟกรอบหน้า Dermolift (ยกกระชับกรอบหน้า)
เป็นเทคนิคฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินที่บริเวณแนวกรอบหน้า (ลักษณะขึ้นไปด้านบน) และฉีดไปยังผิวหนังชั้นตื้น เพื่อช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับฉีดในช่วงเวลาที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
-
3. เทคนิค Nefertiti lift (ยกกระชับกรอบหน้า)
เป็นเทคนิคการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินไปยังบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ Platysma ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่พยุงใบหน้าไว้ เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้เกิดความอ่อนแอลงเนื่องจากอายุที่มากขึ้น จะส่งผลให้ผิวหนังที่ใบหน้าหย่อนคล้อย แต่เมื่อฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินด้วยเทคนิค Nefertiti lift แล้ว จะช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัดสวย รูปหน้าเรียวขึ้น
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าเหลี่ยม ที่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่
- ผู้ที่ต้องการลดกรามแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากมีแผลผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการลดกรามแบบให้ผลลัพธ์รวดเร็ว
- ผู้ที่ต้องการลดกรามในราคาสบายกระเป๋า
ข้อดีและข้อเสีย / ข้อควระวังโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
ก่อนตัดสินใจทำหัตถการเพื่อความงามทุกชนิด รวมไปถึงการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกราม สิ่งที่คนไข้ควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียด นั่นก็คือ “ข้อดีและข้อควรระวัง” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีดและหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ตามมานั่นเองค่ะ
ข้อดีของโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
- เป็นการลดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ทำแล้วเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
- ราคาสบายกระเป๋ากว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดหรือวิธีอื่น ๆ
ข้อเสีย / ข้อควรระวังของโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
- การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียวให้ผลลัพธ์ 4-8 เดือน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร แต่ทั้งนี้เมื่อยาหมดฤทธิ์สามารถฉีดซ้ำได้ เพื่อคงประสิทธิภาพที่ยาวนาน
- หากเลือกทำโปรแกรมฉีดโบท็อกในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับแพทย์ที่ขาดทักษะ หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ อาจเสี่ยงอันตรายจากการรับบริการได้ เช่น การฉีดผิดจุดอาจทำให้ใบหน้าผิดรูป หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ยิ้มได้ไม่สุด ดังนั้นจึงควรตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนทำ
- ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนเข้ารับบริการ เช่น การขอเช็กเลข Serial Number ข้างผลิตภัณฑ์ และในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะมีการดึงยาและผสมยาต่อหน้าคนไข้ พร้อมอธิบายข้อมูลแก่คนไข้ในระหว่างการรักษา
ภาพก่อนและหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
ด้วยประสิทธิภาพของตัวยาหรือสารโบทูลินัม ท็อกซินที่ได้มาตรฐาน ผสานกับเทคนิคของแพทย์ที่มีทักษะ ทำให้โปรแกรมการฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามที่ Doctor Mek Clinic ออกมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยสมส่วน
รีวิว โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
ด้วยผลลัพธ์หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียวที่น่าพึงพอใจ ส่งผลให้คนไข้จำนวนมากเกิดความประทับใจ และเลือกกลับมาใช้บริการที่ Doctor Mek Clinic อยู่เรื่อย ๆ รวมไปถึงการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้เราเป็นคลินิกที่ได้รับความนิยมจากคนไข้จำนวนมากค่ะ
เลือกทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ยี่ห้อไหนดี
โปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ยี่ห้อไหนดี จะต้องเลือกแบบไหน…สำหรับการทำโปรแกรมนี้สามารถใช้ตัวยาได้หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับรองมาตรฐาน เช่น
- Allergan จากอเมริกา ที่ได้รับความนิยมมาก มีประสิทธิภาพ ลดโอกาสดื้อโบในอนาคต ด้วยตัวยากระจายตัวเป็นวงแคบ ทำให้มีความแม่นยำในการออกฤทธิ์ของตัวยา และนิยมนำมาใช้ร่วมกับการใช้เทคนิคยกกระชับกรอบหน้า Nefertiti lift
- Xeomin จากเยอรมัน เป็นตัวยาที่กระจายตัวในวงแคบ ไม่กระจุกตัวเกินไป ฉีดแล้วให้ความเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการดื้อโบได้ในระยะยาว
- Dysport จากอังกฤษ นิยมนำมาใช้ร่วมกับการใช้เทคนิคยกกระชับกรอบหน้า Dermolift เพื่อลิฟกรอบหน้าให้เรียวสวย
- Nabota / Aestox จากเกาหลี ด้วยตัวยาที่มีค่าความบริสุทธิ์ ออกฤทธิ์วงแคบ ทำให้มีความแม่นยำในการรักษา เห็นผลลัพธ์เร็ว ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต เหมาะสำหรับนำมาใช้ปรับรูปหน้า ลดกล้ามเนื้อกราม และราคาสบายกระเป๋า (เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น)
ทั้งนี้ แต่ละเคสจะเหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว โปรแกรมโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ยี่ห้อไหนดี แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินเบื้องต้นและรับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนค่ะ
หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม กี่วันเห็นผล
หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียวจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ และหลังจาก 2 สัปดาห์ขึ้นไปจนถึง 1 เดือนจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะสังเกตได้ว่ากล้ามเนื้อบริเวณกล้ามนิ่มลง หดตัวลง เมื่อกัดฟันเช็กแล้วกล้ามเนื้อกรามจะไม่เด้งนูนขึ้นมา และหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกรามเข้าเดือนที่ 3 จะเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่สุดค่ะ
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม อยู่ได้นานแค่ไหน
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม อยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานแค่ไหน โดยปกติแล้วผลลัพธ์หลังฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 4-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ รวมไปถึงยี่ห้อที่เลือกใช้ และเทคนิคการฉีดของแพทย์ค่ะ โดยหากตัวยาหมดฤทธิ์ คนไข้สามารถเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามซ้ำได้ ซึ่งควรเว้นระยะห่างการฉีดในแต่ละครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ราคาเท่าไหร่
สำหรับโปรแกรมการฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามที่ Doctor Mek Clinic ราคาอยู่ที่ 4,999 บาท* ทั้งนี้การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ รวมไปถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ค่ะ เช่น หากเลือกผลิตภัณฑ์ของอเมริกา ราคาอาจสูงกว่าของเกาหลี แต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จากอเมริกาเป็นตัวยาที่มีประสิทธิภาพดี และผลลัพธ์อยู่ได้นาน ซึ่งคนไข้สามารถพูดคุยกับแพทย์ได้เพื่อการตัดสินใจที่ตรงกับความต้องการของคนไข้ค่ะ
ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ที่ไหนดี
- เลือกทำโปรแกรมฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีทักษะในการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน
- เลือกฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาต และเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐานโดยสามารถให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้
- เลือกฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีรีวิวจากคนไข้จริง และมีรีวิวให้เลือกดูเยอะ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อก 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่เป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงการทำขัดผิวหรือสครับผิวหน้า ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 2-3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรทำโปรแกรมฉีดโบท็อก
ขั้นตอนการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม
- คนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ / ประเมินปัญหา
- แพทย์พูดคุย แนะนำยี่ห้อสารโบทูลินัม ท็อกวิน รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ ให้เหมาะกับกับสภาพปัญหาของคนไข้
- แพทย์จะเริ่มทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการฉีด จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
- หลังจากนั้น แพทย์จะเริ่มทำการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินในตำแหน่งที่ต้องการ โดยเป็นการฉีดไปยังกล้ามเนื้อกรามทั้ง 2 ข้าง ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก
- เมื่อทำโปรแกรมการฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม โปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว เสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะพูดคุยและแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกับคนไข้
การดูแลตัวเองหลังทำ
- ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อก งดการนอนราบ และยังไม่ควรทำการประคบเย็น เพราะร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
- ในช่วง 2 วันแรก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการอยู่หน้าเตาปิ้งย่างร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก งดการนวดหน้า การจับหรือสัมผัสใบหน้า หรือบริเวณที่ฉีดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปยังบริเวณอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
- หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียว สามารถทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรสัมผัสใบหน้าและบริเวณที่ฉีดอย่างเบามือ
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
- หลีกเลี่ยงหรือลดการเคี้ยวอาหารเหนียว อาหารแข็ง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กล้ามเนื้อกรามกลับมาทำงานหนักอีก
หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ห้ามกินอะไร
หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ห้ามกินอะไรบ้าง ต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ควรงดทานในช่วง 2 สัปดาห์แรก คือ อาหารหมักดอง อาหารไม่สุก อาหารดิบ ๆ เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจเจือปนในอาหารเหล่านี้ค่ะ รวมไปถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้แผลจากเข็มฉีดโบท็อกหายช้า มีอาการบวมช้ำนานกว่าปกติ
นอกจากนี้ หลังจากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามหรือโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียว ควรงดการทานอาหารปิ้งย่างที่ต้องอยู่หน้าเตาร้อน ๆ ในช่วง 2 วันแรก เพราะจะทำให้ตัวยาสลายตัวไว รวมถึงหลีกเลี่ยงหรืองดการทานอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็ง เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อกรามจะกลับมาใหญ่อีกครั้ง ทำให้ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามอยู่ได้ไม่นานค่ะ
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ปรับหน้าเรียว ที่ Doctor Mek Clinic
- ดูแลทุกเคสโดยแพทย์ผู้มีทักษะในด้านการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินและการยกกระชับปรับรูปหน้า
- วิเคราะห์ปัญหาและดีไซน์รูปหน้าแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case)
- ใช้ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซินที่ได้รับรองมาตรฐาน โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบ Serial Number ได้
- มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการ
- เห็นผลที่ชัดเจนทุกเคส
- มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง
- ปรึกษาแพทย์ฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย
คำถามพบบ่อย
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม อันตรายไหม
การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามหรือโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียวไม่เป็นอันตรายค่ะ หากเลือกฉีดในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาต ได้มาตรฐาน เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีทักษะในด้านนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซินที่ได้รับรองมาตรฐานที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามได้จริงไหม
การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามได้ไหม ตอบได้เลยค่ะว่า “โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามได้จริงและยังปรับหน้าเรียวได้ด้วย” แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี หน้าเรียวขึ้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดื้อยา (ฉีดแล้วไม่เห็นผล) จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ เลยนั่นก็คือ ทักษะและเทคนิคของแพทย์ รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐาน จึงจะทำให้ผลลัพธ์สามารถเห็นผลได้จริง นอกจากนี้ ด้วยกลไกการทำงานของตัวยาหรือสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่ออกฤทธิ์จับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกรามหยุดการทำงานชั่วคราว ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อกรามเกิดความอ่อนแรงลงหรือหดตัวลง จะทำให้เราไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อกรามได้บ่อยเหมือนตอนก่อนฉีด ส่งผลให้กรามของเราดูเล็กลง รูปหน้าดูเรียวขึ้นค่ะ
โปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม ใช้กี่ยูนิต
โดยทั่วไปแล้ว การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามปรับหน้าเรียวจะใช้ปริมาณยา 50-80 ยูนิตค่ะ ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าในแต่ละเคสต้องฉีดด้วยตัวยากี่ยูนิต ซึ่งพิจารณาจากลักษณะปัญหากล้ามเนื้อกรามของแต่ละเคส ทั้งนี้แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินจากแพทย์ด้วยตัวเองค่ะ
“ปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ ไม่ได้มีแค่โปรแกรมฉีดโบท็อกนะ”
บางคนอาจเข้าใจว่า การยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวย มีแต่การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกรามใหญ่ (ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ) และโปรแกรมฉีดโบท็อกหน้าเรียวยกกระชับกรอบหน้าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การยกกระชับปรับรูปหน้าวีเชฟมีอีกหลายวิธีเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาหน้าไม่เรียวสวย หน้าอ้วน หน้าสั้น ของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นการใช้สาร Hyaluronic acid ที่สกัดจากธรรมชาติมาช่วยเติมมาปรับแต่งรูปคาง ให้ใบหน้าดูเรียวยาวยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใบหน้าสั้น ไม่สมส่วน ซึ่งเกิดจากคางสั้น คางตัด
- ยกกระชับกรอบหน้าด้วยโปรแกรม HIFU และ โปรแกรม Ultherapy ซึ่งเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ในการสร้างความร้อน และส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ผิวหนังกระชับ ริ้วรอยลดเลือน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ผิวหนังหย่อนคล้อย
- โปรแกรมร้อยไหมหรือโปรแกรมมินิเฟสลิฟ ด้วยการใช้ไหมชนิดพิเศษหรือไหมมิ้นท์ (MINT thread) ที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม 360 องศาและมีแรงยึดที่มีมากกว่าไหมทั่วไป ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี (คุณหมอเมฆ) แพทย์ผู้สอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมร้อยไหม