ปัญหาร่องแก้มลึก ที่หลายคนอาจมองข้ามกลับกลายเป็นจุดที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ฉะนั้นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ลงดูเป็นธรรมชาติ เพราะการฉีดมีคุณสมบัติช่วยให้ร่องลึกต่าง ๆ ดูตื้นและเรียบเนียนขึ้น โดยใช้ระยะเวลาในการทำอันน้อยนิด อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จึงทำให้ผู้คนให้ความสนใจและมีรีวิวเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย เพราะมันสามารถโชว์ผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้นได้อย่างลงตัว

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือ Nasolabial fold filler Program คือ การบริการทางด้านความงามที่นำเอาสารประเภท Hyaluronic acid ฉีดเข้าไปที่ชั้นใต้ผิวหนังเพิ่มเติมเต็มร่องบนใบหน้าตั้งแต่บริเวณปลายจมูกไปจนถึงมุมปากที่ดูเป็นร่องลึกลงไป ให้กลับมาตื้นขึ้นดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากสารประเภทนี้จะมีหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ชั้นผิว และช่วยเติมเต็มในส่วนที่ยุบตัวลงพร้อมปรับใบหน้าให้ดูสดใส ไม่โทรม นอกจากนี้ยังทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำโดยไม่ต้องพักฟื้น 

ส่วนใหญ่สาเหตุของการเกิดปัญหาร่องแก้มลึกจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุหรือดูโทรมมักจะมาจากช่วงอายุ 20 ปลาย ๆ ไปจนถึงอายุ 30 ขึ้นไป พร้อมกับ 4 ปัจจัยเหล่านี้ค่ะ

1. เกิดจากการกระดูกช่องแก้มหรือบริเวณใต้ตายุบตัวลง มักพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป จะมีลักษณะที่ไขมันหรือเนื้อบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อยลงมา ทำให้แก้มดูย้อยลงมาด้วยทำให้เกิดร่องแก้ม
2. เกิดจากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม ทำให้เกิดรอยพับหรือผิวจะถูกย่นจนทำให้เกิดเป็นร่องได้ค่ะ
3. เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การตากแดดบ่อย หรือปล่อยให้ผิวแห้งจนทำให้ชั้นผิวบางลง เกิดรอยได้ง่าย
4. เกิดจากการจัดฟัน ปัจจัยนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงเลยก็ว่าได้ เพราะการจัดฟันทำให้กระดูกของโครงหน้าหรือบริเวณรอบปากเปลี่ยนไปอาจทำให้เกิดปัญหามีร่องแก้ม

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มลึก แม้บางรายอายุอาจจะยังไม่มากแต่ก็สามารถประสบปัญหานี้ขึ้นได้เช่นกัน แต่มันก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น โดยผู้เข้ารับบริการสามารถบอกเล่าถึงปัญหา และความต้องการของผลลัพธ์ให้แพทย์ได้ทราบเพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่ะ

• แก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก ใบหน้าหย่อนคล้อยให้ดูตื้นขึ้น
• ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอยร่องแก้ม
• ช่วยยกกระชับให้ใบหน้าให้อ่อนเยาว์ลงดูเป็นธรรมชาติ
• สร้างความเต่งตึงให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี
• เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หมดปัญหาผิวแห้งแตกจนเห็นรอยยับบนใบหน้า

• เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม
• เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยร่องแก้ม
• เหมาะสำหรับคนที่มีร่องแก้มลึก ไม่เรียบเนียน
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร็ว ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
• เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าแต่กลัวการผ่าตัด

จากภาพเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลังฉีดสารเติมเต็มที่บริเวณร่องแก้ม จะเห็นได้ว่าก่อนฉีดมีปัญหาร่องแก้มลึกที่ทำให้ใบหน้าดูไม่อ่อนเยาว์ แต่หลังจากฉีดสารเติมเต็มแล้วช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ช่วยให้ผิวเรียบเนียนอิ่มฟู ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงค่ะ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล*

ดูรีวิวเพิ่มเติม คลิกเลย!

นี่คือส่วนหนึ่งของความประทับของผู้เข้ารับบริการทีเข้ารับบริการฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปรับใบหน้าให้ดูอ่อนวัย กับคุณหมอเมฆและทีมแพทย์ Doctor Mek Clinic โดยต่างก็รู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทำแล้วใบหน้าดูเด็กลง ร่องแก้มดูตื้นขึ้น มีแต่คนทักว่าดูดีขึ้น ทำให้มีความมั่นใจค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาจะอยู่ที่ 9900 บาทเท่านั้นค่ะ* แต่มันจะมีในส่วนของโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ทางคลินิกจัดขึ้น รวมไปถึงการประเมินของแพทย์ที่อาจจะใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าไปในปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้ารับบริการมีปัญหามากน้อยแค่ไหน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้เลยค่ะ

Restylane

มาประเดิมกันที่แบรนด์คุณภาพอย่าง Restylane ซึ่งมีรุ่นที่ได้รับความนิยมนำมาฉีดบริเวณร่องแก้มโดยเฉพาะ Restylane Volyme ที่ให้ความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง อีกทั้ง texture ของตัวสารยังมีความนิ่มจึงเหมาะสำหรับนำมาฉีดบริเวณร่องแก้มค่ะ

Juvederm

สำหรับแบรนด์นี้ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเติมเต็มร่องลึกตามจุดต่าง ๆ ถูกออกแบบมาหลายจุดเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึก ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Juvederm Ultra XC และJuvederm Ultra Plus XC

Belotero

ต่อมาเป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยอดฮิตอย่าง Belotero ที่มาพร้อมคุณสมบัติโดดเด่นตรงเนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่น เติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกได้อย่างดีเยี่ยม กลืนไปกับผิว ให้ความเป็นธรรมชาติ ส่วนรุ่นที่แนะนำเลยก็คือ Belotero Balance กล่องสีส้มที่เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น กระชับขึ้น

Neuramis

Neuramis ที่หลายคนชื่นชอบที่จะเลือกนำมาฉีดเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า เพิ่มวอลลุ่ม และช่วยเติมเต็มร่องลึกตามจุดต่าง ๆ รวมถึงบริวณร่องแก้ม โดยมีรุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาใช้เติมเต็มร่องแก้มให้ดูเรียบเนียนขึ้น ก็คือ Neuramis Deep ที่ฉีดแล้วกลืนไปกับผิวได้ดี

Yvoire

อีกแบรนด์โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่มาพร้อมจุดเด่นที่เทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพ ยึดเกาะได้ดีเยี่ยม ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน และคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน มาพร้อมรุ่นที่เหมาะกับการเติมเต็มร่องแก้ม นั่นก็คือ รุ่น Volume Plus ค่ะ

Revolax

สารเติมเต็มที่มาพร้อมคุณสมบัติของเนื้อเจลที่ยึดเกาะได้ดี ฉีดแล้วไม่ไหล ไม่เป็นก้อน กลืนไปกับผิวได้อดีและทนทานต่อทุกภาวะอุณหภูมิ ซึ่งมีรุ่นที่นำมาใช้เติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น คือ รุ่น Deep เป็นเนื้อเจลที่ยืดหยุ่นระดับปานกลาง ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม จึงเหมาะกับการนำมาเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ ค่ะ

Teoxane

สารเติมเต็มที่มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ ออกแบบผลิตภัณฑ์มาให้ใช้ถึง 2 กลุ่ม ที่มีความโดดเด่นที่สามารถยืดหยุ่นไปตามการเคลื่อนไหวบนใบหน้า และเน้นการเติมเต็มวอลลุ่ม เติมร่องลึก ปรับสภาพผิว ซึ่งรุ่นสุดฮิตที่นำมาฉีดเติมร่องแก้ม ได้แก่ รุ่น RHA 2 และ RHA 3 ที่มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด และยังเติมเต็มร่องแก้มได้ไม่เป็นก้อน แม้จะขยับใบหน้าบ่อย ๆ ก็ยังสวยเรียบเนียน

Mesofiller

เมโสที่นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ฉีดผิวเพื่อฟื้นฟูและบำรุงผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอ่อนเยาว์แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มผิวหน้ามาให้เลือกใช้กันอีกด้วยค่ะ ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ช่วยให้ได้เนื้อเจลที่มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่า 400 ไมครอน ช่วยให้ลดอาการเจ็บและความบวมได้ดี ออกแบบมาหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ส่วนรุ่นที่นำมาฉีดแก้ไขปัญหาร่องแก้มจะเป็นรุ่น Global มาพร้อมกับเนื้อเจลที่นิ่ม ฉีดง่าย เกลี่ยง่าย 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ cc ? โดยปกติแล้วในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 cc แต่สามารถใช้สารเติมเต็มได้สูงถึง 6 cc ขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้ามาใช้บริการมีปัญหามากน้อยแค่ไหน สภาพผิวเป็นอย่างไรซึ่งในส่วนตรงนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้เหมาะสมกับรายบุคคลเองค่ะ

หลังฉีดบางรายอาจมีอาการบวม ช้ำ รู้สึกตึง ๆ หรือมีอาการคันเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด และภายในช่วง 2-5 วัน อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายดีเป็นปกติค่ะ แต่หากมีอาการปวดรุนแรง เกิดผื่นขึ้น หรือผิวในบริเวณที่รักษามีสีซีดคล้ำแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ถูกต้อง

1. แพทย์ไม่มีทักษะและความรู้ในการรักษาทางด้านนี้ อาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิค เช่น ฉีดเข้าไปโดนเล้นเลือด ทำไปแล้วเป็นก้อน บวม ไม่เป็นทรง เนื่องจากมีการใช้เทคนิคไม่ตรงกับบริเวณที่ฉีดและไม่ตอบโจทย์ต่อปัญหาของผู้เข้ารับบริการ
2. แพทย์เลือกใช้ชนิดโปรแกรมฉีด filler ไม่ตรงกับจุดที่ฉีด ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาหลายยี่ห้อ หลายรุ่น และหลายชนิดมากเพื่อตอบโจทย์ต่อปัญหาในแต่ละจุด หากแพทย์เลือกใช้สารเติมเต็มที่ไม่เข้ากับบริเวณที่รักษา อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เกิดปัญหาเป็นก้อน แข็ง ไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม และยังทำให้เกิดความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมา
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของปลอม เพราะทุกวันนี้ของปลอมเกิดขึ้นเกลื่อนตลาดมากจนบางทีเราไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับนั้นเป็นสาร HA Filler ที่ได้มาตรฐานหรือสารปลอม ซึ่งหากได้รับสารชนิดอื่นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ และเป็นอันตรายอย่างมากต่อร่างกายค่ะ 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นก้อน เกิดได้จากแพทย์ขาดความรู้ และเลือกใช้ชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีโมเลกุลและคุณสมบัติในการใช้แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแพทย์จะต้องมีความรู้และทักษะในการเลือกใช้ให้เข้ากับการรักษา นอกจากนี้ยังเกิดได้จากการใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปลอมจนทำให้เกิดการบวมเป็นก้อนค่ะ

วิธีแก้ไขฉีดแล้วเป็นก้อน

1. โปรแกรมฉีดสลาย filler – การแก้ไขด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับสาร HA Filler แท้เท่านั้นจึงจะสามารถฉีดสลายออกได้ ซึ่งการรักษาก็จะใช้ระยะเวลาไม่นาน หลังฉีดสลายแล้วก้อนเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ ยุบตัวลง ซึ่งจำนวนการรักษาอาจจะต้องขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินให้อีกครั้งค่ะ
2. ผ่าตัดนำโปรแกรม filler ออก – วิธีนี้ส่วนมากจะใช้กับผู้ที่ได้รับสารปลอมจากหมอกระเป๋า หมอเถื่อน หรือผู้ที่มีก้อนขนาดใหญ่และมีความแข็งมากจนไม่สามารถฉีดสลายได้ แต่เบื้องต้นแพทย์จะใช้วิธีการขูดออกมาก่อนค่ะ หากมีก้อนใหญ่มากจนเกินไปก็อาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนใช้บริการ

• งดการรับประทานอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี
• ควรงดการทำเลเซอร์ในบริเวณที่จะรักษา
• ก่อนทำ 24 ชั่วโมงควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
• หากมีโรคประจำตัว หรือต้องรับประทานยาตัวไหนเป็นประจำและมีอาการแพ้ยาชาควรแจ้งให้แพทย์ได้รับทราบอย่างละเอียด

การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ

• แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้โปรแกรมCufฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
• หลังทำ 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ
• งดการสัมผัสใบหน้า บีบ แกะ เกา หรือนวดในบริเวณที่ฉีด
• หลังทำ 1 เดือน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมเลเซอร์ที่ให้ความร้อนต่อผิวหน้า
• ทาครีมกันแดดเป็นประจำหากต้องออกนอกบ้านเผชิญแสงแดด
• หลังฉีด 12 ชั่วโมง ให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อน

รับโปรโมชั่นพิเศษ คลิกเลย!

เชื่อว่าเมื่อฉีดเข้าไปแล้วคงไม่มีใครอยากเผชิญปัญหาร้ายแรงอย่างแน่นอน เพราะผลลัพธ์ที่ต้องการคือใบหน้าที่ดูดีขึ้น ดังนั้นการเลือกคลินิกเสริมความงามจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยค่ะ ซึ่งวิธีการเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐานก็ต้องอาศัยปัจจัยเหล่านี้

1. คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง – ต้องมีการเปิดกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการแสดงเลขที่อนุญาตอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตได้ทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาลรวมไปถึงผู้อนุญาตเปิดสถานพยาบาล
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน – โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ในการรักษาต้องมีการแกะกล่องใหม่ สามารถขอกล่องนำมาตรวจสอบได้ว่าได้มาตรฐานที่มาจากบริษัทนำเข้า
3. แพทย์มีความรู้ด้านโปรแกรมฉีด filler – แพทย์ที่ประจำการอยู่ที่คลินิกจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพว่าเป็นแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจในการรักษาจริง ๆ สามารถนำรายชื่อไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้
4. มีการติดตามผลหลังทำ – ควรมีการติดตามผลหลังทำทุกการรักษา มีการนัดติดตามเคสผ่านช่องทางต่าง ๆ สอบถามอาการพร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
5. มีรีวิวจากผู้เคยมาใช้บริการจริง – คลินิกที่น่าเชื่อถือจะต้องเป็นคลินิกที่มีรีวิวจริงทุกบริการ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือไลฟ์สดเพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และได้รับความไว้วางใจจากผู้มาใช้บริการ

1. ที่นี่มีแพทย์ที่มีทักษะด้านโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ นำทีมการรักษาโดยคุณหมอเมฆ แพทย์ผู้สอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ 
2. เราเลือกใช้การรักษาที่มีการออกแบบมาเฉพาะรายบุคคล แบบ case by case ลงลึกถึงต้นตอของปัญหา และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นก็ยังเข้ากันกับใบหน้าของแต่ละคน พร้อมติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพผ่านการรับรองทุกยี่ห้อ ทุกชิ้น ทุกการรักษาเราเลือกใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น โดยผู้เข้ารับบริการสามารถขอนำมาตรวจสอบแหล่งที่มาได้เลยทุกชิ้น พร้อมแกะกล่องใหม่ต่อหน้าผู้เข้ารับบริการก่อนการรักษาเพื่อยืนยันว่าเราคัดสรรสิ่งที่ดีให้แก่ผู้เข้าใช้บริการทุกคน
4. รีวิวแน่น ๆ ทุกแพลตฟอร์ม เปรียบเทียบความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน ทางคลินิกของเราได้รับรีวิวจากทุกช่องทางตามโซเชียลถึงความประทับใจจากผู้เคยเข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ก็ยังมีรูปภาพทั้งก่อนและหลังทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีการไลฟ์สดโปรแกรมฉีด filler ในแพลตฟอร์ม facebook ให้เห็นกันแบบชัด ๆ ถึงผลลัพธ์ที่ดูดีขึ้น

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ดีขึ้นต้องอาศัยทั้งความรู้ของแพทย์และคุณภาพของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมฉีด filler ร่องแก้ม สามารถทักเข้ามาสอบถาม ปรึกษาทีมแพทย์ได้ฟรีได้ตามช่องทางการติดต่อของทางคลินิกที่ขึ้นไว้ทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

หลังฉีดร่องแก้ม บวมกี่วัน

หลายคนมีความกังวลใจว่าหลังฉีดแล้วจะเป็นยังไง มีอาการบวมเกิดขึ้นอันตรายไหม บอกเลยว่าอาการบวมจากเข็มหรือตัวยาที่ฉีดเข้าไปสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติค่ะ บางรายก็อาจมีอาการคันร่วมอยู่ด้วยซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน ระหว่างนี้ให้หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือนวดในบริเวณที่ฉีดค่ะ

ฉีดแล้วอันตรายไหม ?

หัตถการนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายถ้าหากเข้ารับบริการกับแพทย์ที่มีความรู้ มีทักษะในการรักษา และใช้โปรแกรมฉีด filler ที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากสารเติมเต็มที่มีคุณภาพจะให้ผลลัพธ์ที่ดี และเมื่อเวลาผ่านไปตัวสารจะค่อย ๆ สลายไปเองด้วยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในเซลล์ผิวค่ะ

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวและชนิดของโปรแกรมฉีด filler ที่ได้รับ แต่โดยเฉลี่ยแล้วส่วนมากผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ราว ๆ 1-2 ปีเลยค่ะ ซึ่งเมื่อกาลเวลาผ่านไปตัวสารจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติและจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้นต่อเซลล์ผิว

หลังฉีดกี่วันถึงจะเห็นผล

เป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ถือว่าเป็นบริการด้านความงามที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงแรกบางรายอาจยังมีอาการบวมอยู่แต่อาการเหล่านั้นจะหายไปเองและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ค่ะ

ฉีดแล้ว เจ็บไหม ?

ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้ารับบริการทนกับความเจ็บได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ แต่โดยปกติของการรักษาแพทย์จะมีการฉีดยาชาก่อน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์โปรแกรมฉีด filler บางชนิดก็ได้มีส่วนผสมของยาชารวมอยู่ด้วยทำให้บรรเทาความเจ็บปวดลงค่ะ

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์ใต้ตา  

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์คาง 

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์ปาก

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์จมูก

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์แก้มตอบ

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์หน้าผาก

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์กรอบหน้า

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์มือ

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์ขมับ

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์คอ

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์น้องสาว

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์หลุมสิว

โปรแกรมฉีด

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว