โปรแกรม Ultherapy Prime รุ่นใหม่! เพื่อผิวที่ “ยกชัด เจ็บน้อย อยู่นาน
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด “โปรแกรม Ulthera Prime” คือ คำตอบที่น่าสนใจและเป็นเทคโนโลยีเครื่องรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ด้วยการพัฒนาไปอีกขั้นทำให้แตกต่างจากรุ่นก่อนนี้ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพขึ้นและความแม่นยำ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าโปรแกรมนี้คืออะไร, ราคาเท่าไหร่, เหมาะกับใครบ้าง และแตกต่างจากรุ่น SPT อย่างไรบ้าง ซึ่งเราจะมาเจาะลึกเพื่อให้เข้าใจได้อย่างละเอียดในบทความนี้ พร้อมดูรีวิวจากคนไข้จริงที่เคยเข้ารับบริการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนทำ
โปรแกรม Ulthera Prime คืออะไร
โปรแกรม Ultherapy Prime คือ เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความแม่นยำ ซึ่งสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิวระดับลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ผิวแน่นอิ่มฟู และเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้น
โดยโปรแกรมนี้เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อยอดจากโปรแกรม Ultherapy SPT ที่หลายคนอาจคุ้นเคยกันดี ด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อให้การรักษาและผลลัพธ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ระยะเวลาการทำหัตถการลดลง เจ็บน้อย จุดเด่นสำคัญ คือ สามารถลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัดและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน
หลักการทำงานของโปรแกรม Ultherapy Prime
โปรแกรม Ultherapy Prime ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความแม่นยำสูง ปล่อยพลังงานเป็นจุดเล็กๆ ลงสู่ใต้ชั้นผิวในระดับลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า พลังงานที่ส่งลงไปจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวค่อย ๆ ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
โปรแกรม Ultherapy Prime เป็นเทคโนโลยีในการยกกระชับผิวหน้าระดับลึกที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด หรือที่เรียกว่า Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ คือ สามารถส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวในระดับลึกได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดใด ๆ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอ ทำให้การรักษามีความแม่นยำสูง โดยพลังงานจะถูกส่งลงลึกได้ถึง 3 ระดับชั้นผิว ได้แก่
- ชั้นผิวหนังกำพร้า (1.5 มม.) เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับผิวให้เรียบเนียน
- ชั้นผิวหนังแท้ระดับลึก (3.0 มม.) ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับ เติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม และปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ชั้น SMAS (4.5 มม.) ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างลึกที่สุดที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า Ultherapy Prime สามารถส่งพลังงานถึงชั้นนี้เพื่อกระตุ้นการยกกระชับอย่างล้ำลึก โดยไม่ต้องลงมีดหรือพักฟื้น
ความโดดเด่นของโปรแกรม Ultherapy Prime
โปรแกรม Ultherapy Prime ถือเป็นเวอร์ชันใหม่ของเทคโนโลยียกกระชับผิว ซึ่งได้รับการพัฒนาและยกระดับจากเครื่อง Ultherapy SPT อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านของฟังก์ชันการทำงานและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ความแม่นยำในการส่งพลังงาน รวมถึงระบบการทำงานที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีภาพคมชัดระดับ Full HD
- มาพร้อมระบบ DeepSEE™ ที่ให้ภาพชั้นผิวคมชัดแบบ Full HD
- สามารถมองเห็นชั้นผิวลึกถึงระดับ SMAS ได้แบบเรียลไทม์
- เพิ่มความแม่นยำในการยิงพลังงาน ลดความเสี่ยงในการยิงพลาด
หน้าจอแสดงผลใหญ่ขึ้น ใช้งานสะดวก
- ช่วยให้แพทย์ควบคุมการรักษาได้ง่ายและละเอียดมากยิ่งขึ้น
- ภาพ Ultrasound กว้างขึ้น
- วัสดุหน้าจอชนิด Premium Glass มองมุมไหนก็ชัด
- ระบบ Visualization ช่วยระบุจุดยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ
ระบบประมวลผลเร็วขึ้นและเสถียรขึ้น
- ลดปัญหาเครื่องสะดุดหรือค้างระหว่างทำหัตถการ
- เพิ่มความราบรื่นในการรักษา และช่วยให้ผลลัพธ์สม่ำเสมอ
ระยะเวลาในการรักษาสั้นลง
- ใช้เวลาทำต่อเคสได้น้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า
- ลดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บในระหว่างทำ
- มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับคนไข้
ดีไซน์เครื่องใหม่ ทันสมัย และใช้งานง่าย
- ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
- ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของแพทย์ระหว่างใช้งาน
- เสียงเครื่องที่เงียบขึ้น ทำให้คนไข้ลดความกังวลในขณะทำการรักษา
เปรียเทียบโปรแกรม Ultherapy Prime vs Ultherapy SPT
ในปัจจุบัน เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโปรแกรม Ultherapy Prime รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาจากรุ่น SPT ซึ่งมีการอัปเกรดให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในหลายด้าน
การเปรียบเทียบ |
โปรแกรม Ultherapy SPT |
โปรแกรม Ultherapy Prime |
จอแสดงแสดงผล (Visualization) |
ความคมชัดระดับมาตรฐาน |
ภาพคมชัดระดับ Full HD ด้วยเทคโนโลยี DeepSEE™ มองเห็นชั้นผิวได้ชัดเจนขึ้น |
ความแม่นยำในการยิงพลังงาน |
ยิงพลังานได้แม่นยำ |
ยิงพลังงานได้แม่นยำ ลดโอกาสพลาด |
ระบบประมวลผล |
อาจเกิดความล่าช้าหรือสะดุดบางครั้ง |
ระบบทำงานลื่นไหล รวดเร็ว เสถียรกว่าเดิม |
ระยะเวลาการรักษา |
ใช้เวลามากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ |
ใช้เวลาน้อยลง เจ็บน้อยลง สะดวกขึ้นสำหรับคนไข้ |
ผลลัพธ์การรักษา |
ยกกระชับทั่วใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ |
คงประสิทธิภาพในการยกกระชับได้ดีเหมือนเดิม |
ดีไซน์และการใช้งานของเครื่อง |
ขนาดใหญ่ ดีไซน์พื้นฐาน อาจใช้งานได้ไม่สะดวกนัก |
กะทัดรัด ดีไซน์สวยงาม รองรับสรีรศาสตร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าของแพทย์ |
สรุป : ทั้งโปรแกรม Ultherapy SPT และโปรแกรม Ultherapy Prime เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการรักษา สามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีการใช้พลังงานและกลไกการทำงานที่เหมือนกัน เพียงแต่ในโปรแกรม Ultherapy Prime รุ่นใหม่มีความแตกต่างในด้านเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้การรักษาเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม่นยำ คนไข้เจ็บน้อยลงจากลดระยะเวลาในการทำหัตถการที่สั้นลง และช่วยให้การทำงานของแพทย์มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
โปรแกรม Ultherapy Prime เหมาะกับใครหรือปัญหาผิวแบบใด
สำหรับใครที่กำลังเริ่มรู้สึกถึงความหย่อนคล้อยของผิว หรือมีปัญหาริ้วรอยที่ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนล้า โปรแกรม Ultherapy Prime อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นยาวนาน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
- ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ บริเวณกรอบหน้า คาง มีเหนียงใต้คาง
- หางตาและคิ้วเริ่มตก ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส
- ผิวลำคอและเนินอกมีริ้วรอยและหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่ก่อนวัย
- รูปคางไม่ชัด ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับขึ้น
- ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวดูร่วงโรยแม้จะดูแลผิวอย่างดี
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน
โปรแกรม Ultherapy Prime ช่วยอะไร
เมื่อเวลาผ่านไป การเสื่อมสภาพของผิวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ หากคุณกำลังมองหาวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับผิว การทำโปรแกรม Ultherapy Prime เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ยกกระชับผิวหน้า ให้เต่งตึงและมีรูปทรงที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด
- ยกกระชับผิวคาง ปรับรูปคาง ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้นอย่างธรรมชาติ
- ยกคิ้ว ให้หน้าดูกระจ่างใส สดใสขึ้น ช่วยทำให้ใบหน้าดูสดชื่นและไม่โทรม
- ปรับผิวลำคอ ให้เรียบเนียนขึ้น ลดรอยย่นและผิวหย่อนคล้อยบริเวณคอ
- ลดริ้วรอยร่องลึกที่เนินอก ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น
เสริมสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับ ฟู เต่งตึง และเนียนเรียบขึ้นจากภายใน
การเตรียมตัวก่อนใช้บริการโปรแกรม Ultherapy Prime
ก่อนเข้ารับบริการโปรแกรม Ultherapy Prime ก็จะเหมือนกันกับโปรแกรมยกกระชับเครื่องอื่น ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข
- หลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมเลเซอร์หรือทรีทเมนต์ผลัดเซลล์ผิวเพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนทำจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้ดีหลังทำ
- หลีกเลี่ยงยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน หรือวิตามินบางชนิด
- ถ้ามีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยาควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้บริการ
รีวิวจากคนไข้ที่เคยรับบริการ
จากภาพรีวิวก่อนและหลังทำโปรแกรม Ultherapy Prime จะเห็นได้ว่าก่อนทำคนไข้มีปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก กรอบหน้าไม่ชัด หลังทำแล้วผิวกลับมาเต่งตึง ยกกระชับ เผยกรอบหน้าที่ชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
BEFORE & AFTER
โปรแกรม Ultherapy Prime ทำบริเวณใดได้บ้าง
สำหรับโปรแกรม Ultherapy Prime เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้สามารถดูแลผิวได้ในหลากหลายจุด ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ เพื่อยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อยในแต่ละส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนิยมทำการรักษาในบริเวณ
- คิ้ว แก้ไขปัญหาคิ้วตก ช่วยยกคิ้วให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและสดใสขึ้น
- คาง ปรับรูปคางให้เรียวขึ้น กระชับผิวยิ่งขึ้น
- ลำคอ ลดความหย่อนยานของผิวบริเวณคอ ช่วยให้ดูเรียบเนียนและกระชับมากยิ่งขึ้น
- เนินอก ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ลดรอยย่นและร่องลึกบริเวณเนินอก
โปรแกรม Ultherapy Prime ต่างจากโปรแกรมยกกระชับอื่นอย่างไร
การยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพในการรักษา จนอาจทำให้หลายคนยังอาจสงสัยว่าแตกต่างจากโปรแกรม Ultherapy Prime อย่างไรบ้าง เราจึงได้ทำตารางข้อเปรียบเทียบของแต่ละโปรแกรมเพื่อให้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น
ข้อเปรียบเทียบ |
โปรแกรม Ultherapy SPT |
โปรแกรม Ultherapy Prime |
โปรแกรม Oligio |
โปรแกรม HIFU |
โปรแกรม Thermage FLX |
โปรแกรม Ultraformer III |
โปรแกรม Ultraformer III |
เทคโนโลยีที่ใช้ |
อัลตราซาวด์เฉพาะจุด (Focused Ultrasound) พร้อมระบบ Real-Time Visualization |
อัลตราซาวด์เฉพาะจุด (Focused Ultrasound) พร้อมระบบ Real-Time Visualization |
คลื่นวิทยุ (Monopolar RF) |
อัลตราซาวด์แบบโฟกัส (HIFU) |
คลื่นวิทยุ (RF) |
อัลตราซาวด์แบบโฟกัส (HIFU) |
Microneedling RF |
ระดับความลึก |
ลึกถึงชั้น SMAS (4.5 มม.) |
ลึกถึงชั้น SMAS (4.5 มม.) |
ประมาณ 3.0 มม. |
1.5 – 4.5 มม. |
ประมาณ 3.0 มม. |
1.5 – 4.5 มม. |
1 – 4 มม. |
จุดเด่นหลัก |
เห็นภาพชั้นผิวขณะทำจริง ปรับพลังงานได้ตามจุดที่ต้องการ |
เห็นภาพชั้นผิวขณะยิง เจาะจงสูง ความแม่นยำสูง |
ผิวแน่นขึ้นทั่วหน้า กระตุ้นคอลลาเจน |
ครอบคลุมหลายชั้นผิว เหมาะกับหลายปัญหา |
ปรับรูปหน้า ผิวแน่นฟู ลดริ้วรอย |
เหมาะกับการเริ่มต้นดูแลผิวพรรณ |
ยกกระชับผิวพร้อมปรับสภาพผิว |
เหมาะกับปัญหา |
ใบหน้าหย่อนคล้อย เหนียง คอ กรอบหน้าไม่ชัด |
ยกกระชับใบหน้า คอ เหนียง เนินอก |
ผิวหย่อนเล็กน้อย รูขุมขนกว้าง |
ผิวหย่อน ริ้วรอย ยกคิ้ว กรอบหน้า |
ผิวไม่เรียบ ผิวคล้อย ไม่กระชับ |
เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อย |
ผิวไม่เรียบ รอยสิว รูขุมขนกว้าง |
ความรู้สึกขณะทำ |
รู้สึกอุ่นใต้ผิว เจ็บน้อย |
รู้สึกอุ่น เจ็บน้อยลง |
รู้สึกอุ่น เจ็บน้อย |
เจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง |
รู้สึกอุ่นตึงได้เล็กน้อย |
รู้สึกจี๊ด ๆ ที่ผิวได้บ้าง |
เจ็บระดับกลาง มีรอยแดงบางส่วน |
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน |
1 ปี* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
1 – 1.5 ปี* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
เหมาะกับใคร |
ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่ให้ผลแม่นยำ |
ผู้ที่ต้องการยกกระชับแบบแม่นยำขึ้น เห็นผลชัดเจน |
ผู้ที่มีปัญหาผิวเริ่มหย่อน ไม่มาก |
ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณความหย่อนคล้อย |
ผู้ที่ต้องการปรับผิวโดยรวม ไม่เน้นยกมาก |
ผู้ที่เริ่มต้นดูแลผิว |
ผู้ที่มีปัญหาผิวและต้องการปรับสภาพผิว |
โปรแกรม Ultherapy Prime ต้องยิงกี่ Line
“ไลน์” (Line) หมายถึงจำนวนครั้งที่เครื่องปล่อยพลังงานอัลตราซาวด์ลงสู่ผิวหนังในแต่ละบริเวณ ซึ่ง 1 ไลน์นั้นไม่ใช่แค่จุดเดียว แต่เป็นชุดของพลังงานที่เรียงต่อกันในแนวเส้น ทำให้สามารถกระตุ้นผิวในระดับลึกได้อย่างสม่ำเสมอในพื้นที่กว้างมากขึ้น ส่งผลให้ผิวได้รับการยกกระชับและฟื้นฟูโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจำนวนไลน์ที่ใช้ในแต่ละครั้งจะแตกต่างกันตามปัญหาของผิว จุดที่ต้องการรักษา และระดับความลึกของชั้นผิวที่ต้องการลงพลังงาน ซึ่งแพทย์จะออกแบบแผนการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสมกับคนไข้
ทั้งนี้ หากคนไข้มีภาวะผิวหย่อนคล้อยมาก อาจจำเป็นต้องใช้จำนวนไลน์ในระดับ 500 – 600 ไลน์ ขึ้นไป เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขณะที่ผู้ที่มีปัญหาผิวน้อยหรือระดับที่ไม่มากอาจใช้เพียง 300 – 500 ไลน์
โปรแกรม Ultherapy Prime ราคาเท่าไหร่
ราคาสำหรับการทำโปรแกรม Ultherapy Prime ราคาอยู่ที่ 29,900 บาท* อย่างไรก็ตาม ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส โดยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฟื้นฟูผิว, ลักษณะและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล, จำนวน Line ที่ต้องใช้ในการรักษา รวมถึงโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจพิเศษที่มีในช่วงเวลานั้น ๆ
โดยทั่วไป แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาและออกแบบแผนการรักษาเฉพาะสำหรับแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม ดังนั้นจึงแนะนำให้คนไข้เข้ารับการปรึกษา, ตรวจวิเคราะห์สภาพผิว และพูดคุยกับแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อทราบรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งในด้านแนวทางการรักษาและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทำโปรแกรม Ultherapy Prime กี่ครั้ง หลังทำกี่วันเห็นผล
หลังทำโปรแกรม Ultherapy Prime สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ คนไข้จะเริ่มรู้สึกได้ถึงความยกกระชับแน่นของผิว จากนั้นผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจะเริ่มในช่วงประมาณ 2–3 เดือนหลังทำ ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น ริ้วรอยลดลง ผิวดูเต่งตึงและอิ่มฟูมากขึ้น
ในส่วนของจำนวนครั้งที่ควรเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime มีจุดเด่นตรงที่สามารถทำ เพียงครั้งเดียว แล้วให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง แต่หากต้องการคงความกระชับไว้ในระยะยาว หรือเพื่อเสริมผลให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้กลับมาทำซ้ำ ปีละ 1 ครั้ง หรือกำหนดแผนการดูแลเฉพาะบุคคลตามสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน
การเตรียมตัว ขั้นตอนการรักษา และการดูแลตัวเอง
ถึงแม้ว่าโปรแกรม Ultherapy Prime จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่การเตรียมตัวให้พร้อม รวมถึงเข้าใจขั้นตอนระหว่างทำ และวิธีดูแลตัวเองหลังทำ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ และลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- งดการรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา (โอเมก้า 3), ใบแปะก๊วย, โสม รวมถึงยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ควรงดทานอย่างน้อย 3 – 5 วัน ก่อนเข้ารับบริการ หากไม่มีความจำเป็นที่ต้องรับประทานยาเหล่านี้
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสดชื่นและลดความเสี่ยงต่ออาการอ่อนเพลียหรือผิวไวต่อการกระตุ้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำการรักษา เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดอาการบวมแดงหรือช้ำหลังทำ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, เรตินอล หรือกรดวิตามิน A ก่อนทำ 1 – 2 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นกับผิวระหว่างและหลังหัตถการ
ขั้นตอนการรักษา
- เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า และบริเวณที่ต้องรับการรักษา เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไป
- ทายาชาบริเวณที่ต้องทำหัตถการ เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายหรือระคายเคืองระหว่างที่เครื่องทำงาน
- เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มส่งพลังงานอัลตราซาวด์ลงไปยังชั้นผิวในระดับความลึกที่ได้กำหนดไว้ตามแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้แต่ละคน
- เมื่อทำเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลหลังทำเพื่อให้ผลลัพธ์ดี
การดูแลตัวเอง
- ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า หรือจับบริเวณผิวแรง ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือรบกวนผลลัพธ์ที่กำลังเริ่มทำงานในชั้นผิว
- ภายในช่วง 1 – 2 ชั่วโมงแรกหลังทำ อาจรู้สึกตึงผิว อุ่น ๆ หรือมีรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ หายไปได้เองโดยไม่ต้องกังวล
- ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, หรือเรตินอลในช่วงวันแรก ๆ หลังทำ และควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแทน เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน
- ดื่มน้ำในปริมาณมาก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวตามธรรมชาติ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนทุกรูปแบบ เช่น การอบไอน้ำ, เข้าซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดจัดในช่วง 2 – 3 วันแรก
- งดการทำทรีตเมนต์หรือโปรแกรมเลเซอร์ประเภทที่ใช้ความร้อนลงสู่ผิว อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้กระทบกับกระบวนการฟื้นฟูหลังทำโปรแกรม Ultherapy Prime
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปเป็นประจำ แม้จะไม่ได้ออกแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือปัญหาผิวในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย
โปรแกรมนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker), รวมถึงผู้ที่มีแผลเปิด หรือมีปัญหาผิวหนังในบริเวณที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรม Ultherapy Prime ทั้งนี้หากไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
ระหว่างเข้ารับการรักษา คนไข้อาจรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณผิวเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดจากพลังงานที่ส่งลงสู่ชั้นผิว ทั้งนี้จะมีการทายาชาก่อนเริ่มการทำโปรแกรม Ultherapy Prime เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย และเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายขณะทำ โปรแกรมนี้เป็นเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้า จึงใช้เวลาทำหัตถการน้อยลงจึงช่วยลดระดับความรู้สึกเจ็บระหว่างทำได้ดี
หลังทำโปรแกรม Ultherapy Prime ในระยะ 1 – 2 วัน อาจมีอาการผิวบวมเล็กน้อย แดง รู้สึกอุ่น หรือมีความตึงที่ผิวบริเวณที่รักษา ซึ่งถือเป็นอาการทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังการทำหัตถการ และอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายในไม่กี่วันโดยไม่ต้องกังวล
การทำโปรแกรม Ultherapy Prime สามารถทำการรักษาร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้ เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หรือโปรแกรมโบท็อกซ์ เพียงแต่จำเป็นต้องมีการวางแผนลำดับขั้นตอนและเว้นระยะห่างระหว่างหัตถการให้เหมาะสม โดยทั่วไป แนะนำให้ทำโปรแกรม Ultherapy Prime ก่อน และเว้นระยะเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หรือโปรแกรมโบท็อกซ์ เพื่อให้ผิวมีเวลาปรับตัวและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและจัดลำดับการรักษาให้เหมาะกับแต่ละเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
สรุป
โปรแกรม Ultherapy Prime เป็นอีกหนึ่างทางเลือกในการยกกระชับผิวได้แบบไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการให้การยกกระชับทำได้ดีขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น ผิวจะค่อย ๆ ดูแน่นกระชับ เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับท่านที่สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาพร้อมรับการตรวจวิเคราะห์สภาพผิวกับทีมแพทย์ของ Doctor Mek Clinic ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย