ในปัจจุบัน การรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนด้วยการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งยังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบว่า การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนจะสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้ เพราะเข้าใจว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกช่วยในเรื่องความสวยงามเพียงเท่านั้น วันนี้ใครที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรนแบบเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมการฉีดโบท็อกไมเกรนอยู่ Doctor Mek Clinic เราได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจทั้งหมดไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ

โปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน คือ การป้องกันและรักษาคนไข้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน ด้วยการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เพื่อคลายกล้ามเนื้อ และยับยั้งปลายประสาทที่เป็นตัวส่งสัญญาณทำให้เกิดความเจ็บปวดไปยังสมอง จึงช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ ทำให้คนไข้บางรายไม่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวด ถือว่าเป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่มีต่อกระเพาะอาหาร, ตับ และไต จากการใช้ยามากเกินไปค่ะ ซึ่งตัวยาโบท็อกจะช่วยลดอาการปวดและความถี่ของอาการได้

การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน แพทย์จะพิจารณาฉีดที่บริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, ต้นคอ, ท้ายทอย และบริเวณบ่า โดยจะกระจายตำแหน่งการฉีดที่เหมาะสมประมาณ 31-39 จุด หลังจากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน และออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ใน 14 วัน โดยแพทย์แนะนำให้ฉีดโดยเว้นระยะห่างประมาณ 12 สัปดาห์ (3 เดือน) นอกจากนี้จะมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง หากอาการปวดหัวไมเกรนดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาให้สามารถหยุดการใช้ตัวยาได้ค่ะ

ปวดหัวไมเกรน คือ อาการปวดศีรษะแบบชนิดเรื้อรังซึ่งถือว่าเป็นโรคทางประสาทวิทยาชนิดหนึ่ง ทำให้คนไข้รู้สึกปวดศีรษะแบบรุนแรงเป็นจังหวะ โดยอาจเกิดขึ้นครั้งละนาน ๆ หลายชั่วโมง หรือบางรายอาจเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบข้ามวันข้ามคืนตั้งแต่ 4-72 ชั่วโมงเลยก็มีค่ะ นอกจากอาการปวดศีรษะแล้ว ส่วนใหญ่มักจะมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ร่วมด้วย เดี๋ยวเรามาดูกันว่า อาการปวดศีรษะไมเกรน อาการมีอะไรบ้าง

• ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดข้างใดข้างหนึ่ง
• ปวดศีรษะตุบ ๆ เป็นจังหวะบริเวณขมับและอาจปวดลามมายังบริเวณกระบอกตา หรือท้ายทอย
• มีอาการไวต่อเร้าต่าง ๆ เช่น สู้แสงจ้าไม่ได้ รวมถึงที่ที่มีเสียงดัง
• ปวดศีรษะจนอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงเบื่ออาหาร
• มีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

โดยผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน มักมีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดไมเกรน เช่น อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน, เจอแสงแดดหรือแสงไฟสว่างจ้า, อากาศร้อนหรืออยู่ในที่เย็นจัด, ความเครียด, อดนอน หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มีส่วนผสมของชีส ช็อกโกแลต หรือผงชูรส, กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นหอมฉุน, รวมไปถึงจากภาวะอาการออฟฟิศซินโดรม (ปวดคอ บ่า ไหล่)

• ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้ต้องหยุดเรียนหรือหยุดงานบ่อย ๆ
• ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรังประมาณ 15 วันต่อเดือน และปวดมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อครั้ง
• ผู้ที่เคยรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่ดีขึ้น หรือไม่อยากใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป

จุดประสงค์ของการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนเพื่อลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะไมเกรน โดยจะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดค่ะ สำหรับบางกรณี คนไข้อาจต้องเข้ารับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของตัวยาของคนไข้แต่ละราย รวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งควรทิ้งระยะห่างในการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนแต่ละครั้งประมาณ 3 เดือน หรือทุก ๆ 12 สัปดาห์ เพื่อเป็นการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างต่อเนื่องค่ะ

สำหรับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนสามารถเลือกใช้ได้หลากยี่ห้อที่ผ่านการรับรอง อาทิ ยี่ห้อ Nabota, Botulax , Aestox, Dysport หรือจะเป็นยี่ห้อ Xeomin หรือ Allergan โดยแต่ละยี่ห้อต่างก็มีคุณสมบัติการกระจายตัวของยา, ระยะเวลาของผลลัพธ์ และราคาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ คนไข้สามารถพูดคุยสอบถามกับแพทย์ก่อนได้ค่ะ ทั้งนี้แพทย์จะแนะนำยี่ห้อตัวยาตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายรวมถึงตามความพึงพอใจของคนไข้ค่ะ

สำหรับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนที่ Doctor Mek Clinic ราคา 4,999 บาท* ทั้งนี้การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนอาจมีราคาที่แตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับยี่ห้อตัวยาที่เลือกใช้และปริมาณตัวยาที่ใช้ ดั้งนั้น เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้คนไข้เข้ามาพบแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดค่ะ

โปรแกรมการฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยทักษะเกี่ยวกับหลักกายวิภาคศาสตร์จากแพทย์ เพราะโปรแกรมการฉีดโบท็อกไมเกรนอาจมีความแตกต่างโปรแกรมฉีดจากโบท็อกเพื่อความงามอื่น ๆ ทั้งในแง่ของการกำหนดตำแหน่งที่จะฉีดอย่างถูกต้อง, การกำหนดปริมาณตัวยาที่เหมาะสม รวมถึงเทคนิคการฉีด ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยในการเลือกทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน ที่ไหนดี เราควรคำนึงถึงผลลัพธ์และการดูแลให้เกิดความปลอดภัยมาเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต้องพิจารณาจากทักษะของแพทย์ รวมไปถึงมาตรฐานความปลอดภัยอื่น ๆ ทั้งในเรื่องของคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาต นอกจากนี้ ยังต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารโบทูลินัม ท็อกซินที่ได้รับรองมาตรฐาน ซึ่งคลินิกนั้น ๆ ต้องให้คนไข้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ

• เข้ารับการปรึกษา ซักประวัติ และตรวจร่างกายจากแพทย์
• หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน 1 สัปดาห์ แนะนำให้งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุดและเกิดอาการฟกช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs, วิตามิน C และ E, น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น
• งดการใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่เป็นกรดวิตามิน A, AHA รวมถึงการทำทรีทเม้นท์ ทำเลเซอร์ผิว หรือสครับผิว ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกประมาณ 2-3 วัน
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 24 ชั่วโมง
• หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่ และผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรทำโปรแกรมฉีดโบท็อก

• แพทย์พูดคุยและแนะนำยี่ห้อตัวยา รวมถึงปริมาณตัวยาที่ใช้ให้เหมาะกับคนไข้
• จากนั้น ทำการกำหนดจุดที่จะทำการฉีดตัวยา
• ขั้นตอนต่อมา เป็นการทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ จากนั้นทำการแปะยาชาบริเวณที่ต้องการ จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์
• แพทย์จะเริ่มทำโปรแกรมการฉีดโบท็อกบริเวณที่ได้กำหนดจุดไว้ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก
• เมื่อทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะพูดคุยและแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกับคนไข้

• 24 ชั่วโมงหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน งดออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวบริเวณศีรษะและลำคออย่างแรง
• 1-2 วันหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน งดการทำสีผม หรือการใช้สารเคมีอื่น ๆ บนศีรษะ
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
• ในช่วง 2 วันแรก หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก ๆ และต้องเจอกับความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า, เล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ตัวยาสลายตัว
• ในช่วง 2 สัปดาห์แรก งดจับบริเวณที่ฉีดแรง ๆ
• ในช่วง 2 สัปดาห์แรก งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ รวมถึงงดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้รอยแผลจากเข็มหายช้า
• พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน โดยการหลีกเลี่ยงความเครียด, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และทานตรงเวลา, ดื่มน้ำเยอะ ๆ, งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, อยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท, ไม่อยู่ในที่มีแดดจ้าและในที่ที่มีเสียงดัง รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

• ดูแลทุกเคสโดยแพทย์ผู้มีทักษะด้านการทำโปรแกรมฉีดโบท็อก
• วิเคราะห์ปัญหาด้วยหลักกายวิภาคศาสตร์ก่อนฉีดโบท็อกแบบเฉพาะบุคคล (Case by Case) เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและการดูแลให้มีความปลอดภัย
• แพทย์ให้เวลาและใส่ใจในรายละเอียดกับคนไข้ทุกเคสอย่างเต็มที่ 
• ใช้สารโบทูลินัม ท็อกซินที่ได้รับรองมาตรฐาน โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นสามารถตรวจสอบ Serial Number ได้
• ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จำนวนมาก และมีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ารับบริการ
• เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษา
• มีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง
• พร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกเคส! ไม่มีค่าใช้จ่าย

โปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน ใช้กี่ยูนิต

ในการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนจะใช้ปริมาณตัวยาประมาณ 100-150 ยูนิต โดยจะเป็นการฉีดกระจายตามจุดต่าง ๆ ทั้งบริเวณระหว่างคิ้ว, หน้าผาก, ต้นคอ, ท้ายทอย และบ่า ซึ่งเป็นบริเวณครอบคลุมในตำแหน่ง Trigger Point หรือจุดกดเจ็บ ซึ่งเป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่มีความไวต่อแรงกด เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อในตำแหน่งซ้ำ ๆ และเป็นที่เดิม ๆ โดยโปรแกรมการฉีดโบท็อกไมเกรนจะช่วยคลายมัดกล้ามเนื้อตามตำแหน่งต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ส่งผลให้ความรุนแรงอาการปวดหัวไมเกรนลดลงค่ะ และเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน หรือทำให้อาการเกิดอาการปวดหัวไมเกรนเว้นระยะห่างออกไปค่ะ

โปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน อันตรายไหม

การป้องกันและรักษาอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน เป็นวิธีทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมและทำการรักษากันอย่างแพร่หลาย แต่ทั้งนี้ การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีทักษะด้านการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินเท่านั้นนะคะ เนื่องจากบริเวณที่ทำการฉีดจำเป็นต้องอาศัยทักษะด้านกายวิภาคศาสตร์ รวมถึงเทคนิคการฉีดด้วยโปรแกรมโบท็อกไมเกรนโดยเฉพาะ จึงจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี รวมไปถึงการเลือกใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐานซึ่งตัวยาจะสามารถสลายไปได้เองตามระยะเวลาการออกฤทธิ์ของตัวยา ไม่ตกค้างในร่างกายค่ะ

หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน จะไม่เห็นผลทันทีหลังฉีดค่ะ แต่ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 3-4 วัน และใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ โดยคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 3-4 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรนตามคำแนะนำของแพทย์ และควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกค่ะ

การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการป้องกันและรักษาอาการปวดหัวไมเกรน เหมาะสำหรับผู้ที่รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่เห็นผล หรืออยากหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด ซึ่งหากรับประทานยาในปริมาณมากและสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบกับอวัยวะสำคัญอย่างกระเพาะอาหาร ตับ และไต โดยหลังการรักษาด้วยการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกไมเกรน จะทำให้คนไข้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นและเต็มที่ ซึ่งส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้นค่ะ สำหรับใครที่สนใจโปรแกรมการฉีดโบท็อกไมเกรน สามารถเข้ารับการปรึกษาแพทย์ หรือพูดคุยสอบถามโดยการแอดไลน์ LINE : @doctormekclinic ค่ะ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ตำแหน่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โปรแกรมโบท็อกซ์รูขุมขน

เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ลดปัญหาหน้ามัน

โปรแกรมโบท็อกซ์ตีนกา

ลดเลือนริ้วรอยที่หางตา ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

โปรแกรมโบท็อกซ์น่อง

ลดกล้ามเนื้อน่องขา ปรับเรียวขาให้ได้รูป

โปรแกรมโบท็อกซ์ปีกจมูก

ช่วยลดขนาดปีกจมูกที่บานให้แคบลง ทำให้จมูกดูเรียวเล็ก

โปรแกรมโบท็อกซ์ยกคิ้ว

แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก ปรับลุคให้ดูอ่อนวัย

โปรแกรมโบท็อกซ์ยกมุมปาก

แก้ปัญหาปากคว่ำ ช่วยยกมุมปากขึ้น ทำให้ใบหน้าที่ดูดุ หน้าบึ้ง ให้กลายเป็นใบหน้าที่สดใส

โปรแกรมโบท็อกซ์ยกหางตา

แก้ปัญหาหางตาตก ให้ใบหน้าดูสดใสอ่อนวัย

โปรแกรมโบท็อกซ์รักแร้

ลดการผลิตเหงื่อที่มากเกินไป อันเป็นสาเหตุของกลิ่นกาย

โปรแกรมโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อกราม

ช่วยกล้ามเนื้อกราม แก้ปัญหาหน้าบานจากกรามใหญ่ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง

โปรแกรมโบท็อกลดริ้วรอย

ลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ

โปรแกรมโบท็อกซ์ลดเหงื่อ

ลดกลิ่นตัว เช่น บริเวณรักแร้, ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ลดปัญหากลิ่นกายอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเหงื่อออกเยอะได้

โปรแกรมโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

เผยกรอบหน้าที่คมชัด แก้ปัญหาผิวย้วยหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด

โปรแกรมโบท็อกซ์หน้าผาก

แก้ปัญหาริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ทำให้หน้าผากเรียบเนียนและเต่งตึง

โปรแกรมโบท็อกซ์แขน

ลดกล้ามเนื้อที่ต้นแขน ปรับแขนให้เรียวเล็ก

โปรแกรมโบท็อกซ์โหนกแก้ม

ลดโหนกแก้มให้เด่นชัดน้อยลง รูปหน้าสมส่วนขึ้น